บทที่171 คนที่ไม่สามารถล่วงเกินได้ คือหลี่ฝาง
“มอบให้ฟรี...........” เหยนเสี่ยวน่าอ้าปากพูด ด้วยสีหน้าประหลาดใจ
เหยนเสี่ยวน่าเธอเคยเห็นลูกคนรวยมานัดต่อนัดแล้ว แต่คนที่ใจกว้างขนาดนี้ เพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก
เป็นการพบกันครั้งแรกด้วยความบังเอิญ ก็มอบเหล้าให้เธอที่มีมูลค่าเป็นแสนเลย?
เหยนเสี่ยวน่าอดคิดในใจไม่ได้ว่า หลี่ฝางตกหลุมรักเธอ แล้วอยากจีบเธอใช่ไหม?
มันเป็นไปได้
เมื่อคิดถึงแบบนี้ เหยนเสี่ยวน่าก็หน้าแดงขึ้นมาทันที
“แบบนี้มันไม่ดีมั้งรู้สึกเกรงใจ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรับของขวัญที่มีค่าขนาดนี้” เหยนเสี่ยวน่ากล่าว
หลี่ฝางยิ้ม แต่ไม่พูดอะไร
แต่ใบหน้าของสาวแว่น แสดงความรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย
เพราะเมื่อสักครู่ เธอได้กล่าวหาว่า หลี่ฝางเป็นคนเจ้าเล่ห์มีแผนการ
สุดท้าย หลี่ฝางมอบเหล้าทั้งหมดให้เหยนเสี่ยวน่า เสมือนเป็นการตบหน้าสาวแว่นคนนั้น
ณ.ตอนนี้ คนทั้งโต๊ะจึงได้เข้าใจแล้วว่า หลี่ฝางไม่ได้มีแผนการอะไร แต่เขารวยจริง ๆ
ในสายตาของหลี่ฝาง หนึ่งแสนหรือเป็นล้าน เหมือนเป็นแค่เงินค่าขนมเท่านั้น
ผ่านไปไม่นาน อาหารและเครื่องดื่มก็เสิร์ฟเต็มโต๊ะแล้ว
ต่อด้วย ผู้จัดการล็อบบี้ก็รีบวิ่งมาด้วยความรีบร้อน
เนื่องจากเมื่อสักครู่เขามัวแต่ยุ่งอยู่ที่ชั้นบน จึงไม่รู้ว่าชั้นล่างเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เมื่อลงมาถึงชั้นล่าง เขาเห็นอาหารเต็มโต๊ะและเห็นไวน์แดงที่ราคาแพงเหล่านั้น เขาตกตะลึงไปทันที
ผู้จัดการล็อบบี้เดินไปข้างๆ หลี่ฝาง แล้วขยี้ตาตัวเอง
เขาสงสัยเรื่องทั้งหมดนี้คือความผิดพลาด
คนพวกนี้ ได้สั่ง Haut-Brion ที่มีมูลค่าถึงหนึ่งหมื่นสองมาบ้วนปาก!
เป็นไปได้ที่คนพวกนี้ไม่รู้ราคา หรือไม่พวกเขาก็บ้าไปแล้ว?
“พวกคุณ.......พวกคุณกำลังทำอะไรอยู่?” ผู้จัดการล็อบบี้ชี้ไปที่พวกหลี่ฝาง ถามด้วยเสียงอันเบาๆ
“อันนี้คือ Haut-Brion ขวดล่ะหมื่นสอง แต่พวกคุณนำมาบ้วนปาก........” ผู้จัดการล็อบบี้รู้สึกโมโหจนตัวสั่น
แบบนี้มันเป็นการสิ้นเปลืองเปล่า ๆ แล้วมั้ง?
เริ่มแรก หลี่ฝางอยากใช้Rauzan-Seglaที่มีมูลค่าหนึ่งพันห้ามาบ้วนปาก
หลังจากนั้นเห็นว่า Rauzan-Segla มีแค่สองขวด มันไม่พอ ฉะนั้นจึงสั่ง Haut-Brion มาบ้วนปากแทน
เพราะยังไงก็มีไวน์แดงตั้งมากมาย ดื่มไม่หมดอยู่แล้ว
การฝากไว้กับสิ้นเปลือง ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย
เนื่องจากหลี่ฝางเคยทำงานที่ร้านเหล้า ตัวเขารู้ดี ว่าไวน์แดงราคาแพงที่ลูกค้าฝากไว้ ก็จะถูกพนักงานบริการแอบดื่ม หลังจากนั้นก็เติมน้ำหรือนำไวน์แดงชนิดอื่นมาผสมแทน
นอกจากนักชิมเหล้าแล้ว คนปกติทั่วไปจะไม่สามารถแยกแยะออกได้
ฉะนั้น หากจะฝากไวน์ ก็นำมาบ้วนปากจะดีเสียกว่า
“มีปัญหาอะไรเหรอ?” หลี่ฝางเลิกคิ้ว แล้วมองหน้าผู้จัดการล็อบบี้
“ไวน์พวกนี้ พวกเราเสียเงินไม่ว่าพวกเราจะเทมันทิ้ง หรือนำไปบ้วนปาก มันก็เป็นสิทธิ์ของพวกเราใช่ไหม?”
หลี่ฝางหัวเราะเบา ๆ
ผู้จัดการล็อบบี้มองหลี่ฝางด้วยความตื่นเต้น “ผมได้ยินมาว่า คุณเหมาไวน์ขาวของโรงแรมทั้งหมดเลย?” “เหมือนจะเป็นเช่นนั้น” หลี่ฝางผงกศีรษะ
“ทำไมเหรอ หรือว่าโรงแรมของคุณมีกฎห้ามลูกค้าทำแบบนี้เหรอ?” หลี่ฝางเงยหน้ามองผู้จัดการล็อบบี้ ถามไปหนึ่งประโยค
หากเปลี่ยนเป็นแขกคนอื่น ผู้จัดการล็อบบี้คงจะดีใจเป็นอย่างมาก
แต่สำหรับหลี่ฝางแล้วมันไม่เหมือนกัน
เพราะยอดค่าใช้จ่ายวันนี้ของหลี่ฝาง เขาต้องเป็นคนรับผิดชอบออกครึ่งหนึ่ง
ถึงแม้ว่าเขาจะขอสิทธิพิเศษกับเจ้านาย อย่างมากก็สามารถลดได้แค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์
นั่นหมายความว่า หากหลี่ฝางใช้จ่ายหนึ่งหมื่น ผู้จัดการล็อบบี้ต้องควักเนื้อตัวเองออกเองสามพัน
เมื่อสักครู่ผู้จัดการล็อบบี้ได้ดูบัญชีแล้ว หลี่ฝางใช้จ่ายแล้วหนึ่งล้านสองแสนกว่า......
นั่นหมายความว่า ผู้จัดการล็อบบี้ต้องควักเนื้อตัวเองอย่างน้อยสามแสนหก
ผู้จัดการล็อบบี้พูดด้วยเสียงลอดไรฟัน “คุณแกล้งฉัน? ”
“นี่เป็นแค่การใช้จ่ายตามปกติ บ้านฉันฐานะแบบนี้แหละ นี่ยังดีที่ไม่ใช้Lafiteบ้วนปาก ก็ถือว่าถ่อมตัวแล้ว” หลี่ฝางยกมือขึ้นแล้วพูดเช่นนั้น เมื่อได้ยินประโยคนั้น ผู้จัดการล็อบบี้เกือบเป็นลม
จะใช้ Lafiteบ้วนปาก หากแม้เป็นถึงเศรษฐีอันดับต้น ๆ ยังไม่กล้าฟุ่มเฟือยขนาดนี้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง