NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง นิยาย บท 310

บทที่ 301 ทำไมน้องสาวฉันถึงกลายเป็นกิ๊ก?

“นอนแล้ว........” หลี่ฝางเกาหัวตัวเอง รู้สึกอายเล็กน้อย

“ในเมื่อนอนแล้ว งั้นนายก็ต้องรับผิดชอบน้องสาวของฉัน หลี่ฝาง หากนายคิดจะกินฟรี ฉันไม่สนหรอกว่านายจะเป็นคุณชายตระกูลหลี่ หรือจะเป็นลูกของพระเจ้า ฉันก็จะหาคนมาสับนาย ฉินจื่อยี่ขยับโซฟาแล้วนั่งลง จ้องมองลงไปที่หลี่ฝาง จ้องมองโดยที่ไม่ขยับสายตาแล้วกล่าว

หลี่ฝางคิดไม่ถึงว่าฉินจื่อยี่จะมีปฏิกิริยาตอบสนองที่รุนแรงแบบนี้

หลี่ฝางเบ้ปาก เหมือนจะถูกใส่ร้าย เขาอยากที่จะบอกกับฉินจื่อยี่: “เป็นน้องสาวของนายต่างหากที่อยากจะนอนกับฉัน ไม่ใช่ฉันนอนกับเขา”

แต่เมื่อคิดดูแล้ว การพูดแบบนี้กับฉินจื่อยี่ ฉินวี่เฟยก็จะขายหน้าไม่น้อย!

งั้นก็เท่ากับว่าตัวเองนั้นเสียตัวให้กับฉินวี่เฟยเหอร? แม้ว่าความจริงจะเป็นแบบนี้

“ฉันของถามนาย นายจะรับผิดชอบมั้ย?” ชี้ไปที่หน้าของหลี่ฝาง ฉินจื่อยี่กล่าวอย่างดุดัน

หลี่ฝางสามารถดูออก หากตัวเองบอกว่าไม่รับผิดชอบ ฉินจื่อยี่ต้องลงมือทำร้ายตัวเองอีกแน่

ฉินวี่เฟยที่มองอยู่ข้างๆมีความร้อนใจเล็กน้อย: “พี่คะ พี่นั่งลงก่อนได้มั้ย อย่าวู่วามหน่อยเลย”

“เย็ดแม่ จะไม่ให้พี่วู่วามได้ยังไง ไอ้หมอนี่ทำแล้วไม่รับผิดชอบ พี่จะใจเย็นได้ยังไง? ต่อให้มู่เสี่ยวไป๋รังแกเธอ พี่ก็ต้องส่งคนไปจัดการมัน” ฉินจื่อยี่มีสีหน้าที่เยือกเย็น จ้องมองไปที่หลี่ฝางโดยไม่ยอมขยับสายตาเลย

หลี่ฝางอยากที่จะบอกความจริงกับฉินจื่อยี่ ไม่ว่ายังไงฉินจื่อยี่กับตัวเองก็ถือว่าสนิทกันพอสมควร

แต่เห็นปฏิกิริยาที่ตอบสนองรุนแรงแบบนี้ หลี่ฝางก็ยากที่จะเอ่ยปากพูด

“พี่คะ ฉันจะพูดความจริงกับพี่ อันที่จริง หลี่ฝางเป็นคนที่ฉันหามาช่วยฉัน ฉันไม่ได้ชอบเขา เขาก็ไม่ได้ชอบฉัน เราสองคนไม่ได้รักกัน ดังนั้น พี่ก็อย่าให้เขามารับผิดชอบฉันเลย”

“เมื่อกี้ก็แค่แสดงละครให้พี่กับพี่สาวดู ไม่ใช่แค่ให้พี่สาวดู แต่จะให้คุณปู่ คุณพ่อคุณแม่ดู เพื่อทำให้ทุกคนในตระกูลฉิน เชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง เข้าใจว่าฉันกับหลี่ฝางนั้นคบกันแล้วจริงๆ”

“แบบนี้แล้ว ฉันก็สามารถอาศัยฐานะของหลี่ฝาง ข้อหนึ่งสามารถสลัดมู่เสี่ยวไป๋ออกไป สองคุณปู่ก็จะไม่มีทางขับไล่ฉันออกไปจากตระกูลฉิน”

ฉินวี่เฟยยิ้มๆ แล้วกล่าว: “ยังไงฉันกับหลี่ฝางก็ยังเรียนมหาวิทยาลัยกันอยู่ การแต่งงานสำหรับพวกเราแล้วมันยังเช้าอยู่ รอให้มันผ่านไปสักพัก คลื่นลมเงียบสงบแล้ว เราค่อยเลิกกันอย่างสันติ”

ฉินจื่อยี่จึงลูบที่หัวของตัวเอง โดยไม่คำนึงถึงเรื่องใดๆ เขานั่งลงตรงกลางระหว่างของหลี่ฝางกับฉินวี่เฟย แยกทั้งสองคนออกจากกัน: “ในเมื่อไม่ใช่เรื่องจริง งั้นเธอสองคนก็ไม่ต้องนั่งใกล้กันขนาดนี้”

เมื่อกี้ฉินจื่อยี่ยังมีความดีใจอยู่เล็กน้อย นึกว่าน้องสาวของตัวเองเป็นแฟนกับคุณชายของรีสอร์ต สามารถที่จะหล่นพ้นจากการควบคุมของมู่เสี่ยวไป๋แล้วยังไม่พอ หลี่ฝางคนนี้ ฉินจื่อยี่ก็ถูกชะตาด้วย

อย่างน้อย หลี่ฝางก็นับว่าเป็นคนดีครึ่งหนึ่ง

ใครจะไปรู้ ที่ทะเลาะกันมา ที่แท้เป็นแค่การแสดง

ดังนั้นตอนนี้ ใบหน้าของฉินจื่อยี่ ผิดหวังเล็กน้อย

“เอาบุหรี่ให้ฉันหนึ่งมวน ฉันขอผ่อนคลายหน่อย” ฉินจื่อยี่หันหน้า มองไปที่หลี่ฝางแล้วกล่าว

หลี่ฝางชี้ไปที่ก้นบุหรี่ที่อยู่บนพื้น แล้วกล่าว: “มวนเมื่อกี้นายสูบไปไม่กี่คำเอง นายเก็บมันมาสูบต่อสิ ไม่อย่างนั้นมันสิ้นเปลืองมากเลยนะ”

“ไอ้เลว นายมันเป็นถึงคุณชายคนหนึ่ง ยังมาทำแกล้งทำตัวเหมือนยาจกอีก ทำไม สูบบุหรี่ของนาย นายปวดใจแล้วเหรอ? น้องสาวฉันยังถูกนาย........”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ จู่ๆฉินจื่อยี่ก็แข็งทื่อไปเลย ตามมาด้วย สีหน้าก็มืดมน จ้องมองหลี่ฝางโดยไม่ขยับสายตาม ราวจะกลืนกินเขา

“ในเมื่อไม่ใช่เรื่องจริง แล้วทำไมต้องนอนด้วยกัน?”

ฉินจื่อยี่ขมวดคิ้วอย่างตึงเครียด มองหลี่ฝางด้วยสายตาที่เย็นชา: “หลี่ฝาง ฉันถามนาย นายฉวยโอกาสกับน้องสาวฉันใช่มั้ย!”

“พี่คะ ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย”

“อะไรคือไม่ใช่อย่างนั้น ทั้งๆที่มันใช่ ไม่อย่างนั้น ไอ้หมอนี่จะยอมช่วยเธอแสดงละครง่ายๆแบบนี้เหรอ? ในเมื่อเอาตัวเองเข้ามายุ่งเรื่องนี้แล้ว แถมยังต้องผิดใจกับมู่เสี่ยวไป๋ ฉันถึงว่าทำไมเขาถึงได้ใจดีแบบนี้ ที่แท้เขาก็........แม่งเอ๊ย พี่อยากที่จะสับมันจริงๆเลย!”

จ้องมองหลี่ฝาง กล่าวอย่างเยือกเย็น

ฉินวี่เฟยค่อยๆกล่าวขึ้น: “พี่คะ พี่เข้าใจหลี่ฝางผิดแล้วจริงๆค่ะ จริงๆแล้วเป็นฉัน ที่เสนอตัวให้หลี่ฝางเอง”

“เธอพูดเพ้อเจ้ออะไร เธอมันเป็นผู้หญิงนะ พูดจาสงวนท่าทีหน่อยได้มั้ย.........พี่เห็นเธอโตมากับตา เธอมีนิสัยยังไง พี่จะไม่รู้เลยเหรอ? นิสัยของเธอก็ไม่ใช่คนที่รุกก่อน!” ฉินจื่อยี่ไม่เชื่อสิ่งที่น้องสาวของตัวเองพูดเลยแม้แต่นิดเดียว

“ก็ไม่ใช่ถูกพวกพี่บังคับหรอกเหรอ หากไม่ใช่โดนบังคับจนจนตรอก ฉันทำไมต้องคิดแผนการแบบนี้ ต้องเสียสละตัวเอง หากฉันไม่มีอะไรกับหลี่ฝาง คุณปู่ท่านจะยอมเปลี่ยนความคิดมั้ย? ต่อให้คุณปู่ยอมเปลี่ยน แต่ก็ไม่มีความกล้าที่จะล่วงเกินตระกูลมู่ ตระกูลมู่จะยอมเหรอ? คงต้องทะเลาะกับตระกูลฉินของเราตายกันไปข้างหนึ่งอย่างแน่นอน!”

ฉินวี่เฟยกล่าววิเคราะห์ทีละประโยค ล้วนมีเหตุผล ตรรกะชัดเจนมาก หลังจากที่ฉินจื่อยี่ฟังจบ ก็เบ้ปาก ยื่นมือออกไปโดยตรงไปหยิบบุหรี่ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของหลี่ฝางออกมา จุดบุหรี่ แล้วก็สูบมันขึ้นมา

เขาก็เข้าใจ การที่มีสัมพันธ์กัน มันเป็นส่วนหนึ่งในแผนการ

แต่เมื่อคิดถึงว่าหลี่ฝางนอนกับน้องสาวของตัวเองแล้ว อนาคตก็ไม่รับผิดชอบด้วย ในใจฉินจื่อยี่ ก็เหมือนมีกองไฟสุมอยู่

วี่เฟย เธอเข้าไปในห้องก่อน หลังจากที่ฉินจื่อยี่สูบหรี่ไปแล้วหนึ่งมวน ก็หันหน้าไปกล่าวกับน้องสาวของตัวเอง

พี่คะ พี่จะทำอะไรเหรอ? ฉินวี่เฟยไม่ค่อยวางใจนัก

“เธอไม่ต้องถาม นี่มันเป็นเรื่องระหว่างผู้ชาย เธอกลับเข้าห้องไปนอนก่อนเลย” ฉินจื่อยี่กล่าว

หลี่ฝางมองไปที่ฉินวี่เฟยแล้วพยักหน้า: “เธอกลับห้องไปนอนเถอะ วางใจเถอะ ไม่มีอะไรหรอก”

“ต่อให้มีเรื่อง ก็เป็นพี่ชายเธอที่มีเรื่อง เพราะยังไงเขาก็สู้ฉันไม่ได้” หลี่ฝางกล่าวพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

ฉินวี่เฟยจึงพยักหน้า ลุกขึ้นแล้วกลับไปที่ห้องนอน เพียงแต่เธอไม่ได้ปิดประตูห้องนอน แต่ได้แอบอิงอยู่ตรงประตูห้องนอน แอบฟังอย่างตั้งใจ

“หลี่ฝาง ตระกูลฉินของเราแม้ว่าจะเทียบตระกูลหลี่ของนายไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้แย่ใช่มั้ย? รูปร่างหน้าตาอย่างน้องสาวฉัน ทั้งเมืองเอก นายก็ไม่สามารถที่จะหาหญิงสาวที่หน้าตาสวยงามอย่างเธอได้อีกแล้ว ทำไมต้องเล่นละครด้วย ฉันมั่นใจมาก ว่าน้องสาวฉันต้องชอบนายอย่างแน่นอน ทำไม นายถึงไม่มีความรู้สึกต่อน้องสาวของฉัน?”

ฉินจื่อยี่มองหลี่ฝาง ถามอย่างจริงจัง

“ฉันเข้าใจความหมายของนาย นายก็แค่รู้สึกว่าน้องเขยคนนี้ไม่เลว เหมาะกับน้องสาวของนาย อยากให้ฉันกับฉินวี่เฟยทำเรื่องไม่จริงให้กลายเป็นเรื่องจริงใช่มั้ยละ?”

หลี่ฝางยิ้มๆ แล้วก็จุดบุหรี่ให้ตัวเองหนึ่งมวน แล้วกล่าว: “พูดตามจริงเลยนะ ฉินวี่เฟยคู่ฉัน เหมาะจนไม่รู้จะเหมาะยังไงแล้ว เธอมีหน้าตาที่สวยงาม ข้อนี้ไม่ผิด ฉันก็ไม่เคยเห็นผู้หญิงที่สวยกว่าเธอเลย แต่ว่ามันมีความพูดประโยคหนึ่ง ที่ว่าคนเรามีความชอบที่ไม่เหมือนกันกัน นายน่าจะเคยได้ยินนะ?”

“หมายความว่ายังไง?” ฉินจื่อยี่ขมวดคิ้ว

“ฉันมีคนที่ชอบแล้ว อีกอย่าง เราสองคนก็อยู่ในระหว่างที่เรียนรู้ซึ่งกันและกัน แม้ว่าระหว่างนี้จะงอนกันอยู่ แต่ตอนนี้เริ่มที่จะเข้าใจกันแล้ว ดังนั้นจึงต้องบอกความจริงกับนาย ฉันกลัวว่าหากวันหนึ่งนายเห็นฉันอยู่กับแฟน แล้วนายเข้าใจผิด”

หลี่ฝางสูบหรี่เข้าไปแล้วกล่าว: “ฉันกับฉินวี่เฟยเป็นเรื่องไม่จริง กับแฟนของฉันนั้นคือเรื่องจริง ฉันไม่อยากให้นายไปทำร้ายเธอ”

“หากตระกูลฉินจะไปทำร้ายเธอ ฉันหวังว่านายจะสามารถช่วยขัดขวางไว้ด้วย ไม่อย่างนั้น ฉันก็ไม่มีทางที่จะปล่อยตระกูลฉินอย่างแน่นอน”

หลี่ฝางกล่าวอย่างเรียบเฉย: “นายคงรู้สึกว่าฉันพูดจาโอหัง”

“ฉันเป็นคนที่แทงมู่เสี่ยวไป๋เอง นายเชื่อมั้ย?” หลี่ฝางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ มองไปที่ฉินจื่อยี่

สีหน้าของฉินจื่อยี่เปลี่ยนไปทันที ก่อนหน้านี้ ฉินจื่อยี่สืบมาโดยตลอด ใครที่แทงมู่เสี่ยวไป๋ แทงจนต้องเข้าห้องไอซียู

แต่เรื่องนี้ กลับเป็นความลับที่ไม่รั่วไหลเลย

ตระกูลมู่ได้ปิดเรื่องนี้โดยตรง และก็ไม่มีความคิดที่จะแก้แค้นเลย

มันยิ่งทำให้ฉินจื่อยี่อยากรู้อยากเห็น ใครที่เจ๋งขนาดนี้ แทงมู่เสี่ยวไป๋แล้ว ยังสามารถทำให้ตระกูลมู่ไม่โวยวาย เต็มใจที่จะเสียเปรียบ?

เวลานี้ ฉินจื่อยี่จึงได้รู้ความจริง

ฉินจื่อยี่แม้ว่าจะตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่สงสัย เพราะยังไงฐานะอย่างหลี่ฝาง ไม่จำเป็นต้องขี้โม้ให้กับตัวเอง

อีกอย่าง ระหว่างหลี่ฝางกับมู่เสี่ยวไป๋ ก่อนหน้านั้นก็มีความเคลือบแคลงใจกัน จุดนี้ ฉินจื่อยี่รู้นานแล้ว

ครั้งก่อนที่รีสอร์ต หลี่ฝางยังเคยทำร้ายมู่เสี่ยวไป๋ด้วยไม่ใช่เหรอ?

ก่อนหน้านั้นฉินจื่อยี่ก็เคยคิด ไอ้หลี่ฝางคนนี้ทำไมทำร้ายมู่เสี่ยวไป๋แล้ว กลับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย

เมื่อรู้ฐานะของหลี่ฝางแล้ว เรื่องราวทั้งหมดก็กระจ่างขึ้นมาแล้ว

ตระกูลหลี่ในรีสอร์ต แน่นอนว่ามันน่ากลัวเหมือนในตำนาน ...

ฉินจื่อยี่กัดฟัน ขมวดคิ้วแล้วถามด้วยความคาใจ: “ทำไมฟังจากที่นายพูด น้องสาวของฉันเหมือนกันเป็นกิ๊กเลย?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง