บทที่ 323 เรื่องราวของส้าวส้วย
โหจื่อไม่เพียงแก่กว่าส้าวส้วย แต่มองดูแล้วยังมีประสบการณ์ทางสังคมมากกว่าส้าวส้วยอีกด้วย
โหจื่อเล่ห์เหลี่ยมจัด จุดนี้หลี่ฝางเคยเห็นมันมาก่อนกับตัว
แต่ทำไมโหจื่อถึงเรียกว่าส้าวส้วยว่าอาจารย์!
หลี่ฝางสงสัยจริงๆ ว่าเป็นหูของเขาที่มีปัญหา แต่โหจื่อกลับพูดอย่างสงบอย่างยิ่ง “ฉันเรียกเขาอาจารย์ ทำไมหรือ?”
“ส้าวส้วยเป็นอาจารย์ของนาย?” หลี่ฝางแทบไม่อยากจะเชื่อ
“ใช่”
“แต่เขาเด็กกว่านายอีก” หลี่ฝางเบ้ปาก
“เด็กกว่าแต่เขาก็ยังคงเป็นอาจารย์ของฉัน วิชากังฟูที่ฉันมีติดตัว ก็เป็นเพราะอาจารย์สอนให้” โหจื่อเหลือบมองไปที่ส้าวส้วย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเคารพ
หลี่ฝางพูดไม่ออกอยู่บ้าง
โหจื่อคนนี้ ในตอนปกติแม้กระทั่งตนเองกับลุงเฉียนเขายังไม่เห็นอยู่ในสายตา แต่เมื่อเผชิญหน้ากับส้าวส้วยกลับเต็มไปด้วยความเคารพยำเกรง
“ส้าวส้วย นายมั่นใจแค่ไหน?” หลี่ต๋าคางเงยหน้าขึ้นมองส้าวส้วย
ส้าวส้วยมีท่าทีลังเลก่อนจะเอ่ยปาก “ผมมองคนคนนั้นไม่ออก เขาซ่อนอยู่อย่างมิดชิด”
หลี่ต๋าคางมีสีหน้าเคร่งขึ้น “ก่อนอื่นไปสืบมาว่าคนๆ นั้นเป็นใคร ดูสักหน่อยว่าจะลูกผีหรือลูกคน”
ในเวลานี้เอง จู่ๆ ก็มีคนมาเคาะประตูขึ้น
หลี่ฝางที่อยู่ใกล้ประตูมากที่สุดยืนขึ้นและเปิดประตู
เมื่อเปิดประตูออกกลับพบว่าไม่มีใครอยู่
“ตรงนี้” มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านล่าง หลี่ฝางก้มหน้าลงไปมองและพบว่าเป็นเด็กน้อยที่สูงยังไม่ถึงหนึ่งเมตรด้วยซ้ำ
สีหน้าของเด็กน้อย เต็มไปด้วยประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวมาโชกโชน
หลี่ฝางคิด นี่น่าจะเป็นคนแคระ
“ให้” เด็กคนนั้นเอื้อมแขนออกมา และยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้หลี่ฝาง
จากนั้น เด็กน้อยก็เอามือใส่กระเป๋า แล้วเดินออกไป
ไม่ว่าหลี่ฝางจะมองดูเด็กคนนั้นยังไง ก็ไม่เห็นถึงความน่ารักเลยสักนิด แต่กลับรู้สึกน่ากลัวอยู่หน่อยๆ
นั่นเพราะดวงตาของเด็กคนนั้น ราวกับดวงตาของนกอินทรีก็ไม่ปาน คมกริบอย่างยิ่ง
อายุเพียงแค่นี้ เอาความแข็งแกร่งขนาดนี้มาจากที่ไหนกัน
หลี่ฝางบ่นเรื่องนี้ในใจและหันกลับไปหาหลี่ต๋าคาง
ในเวลานี้ หลี่ฝางจึงค่อยมองไปที่ข้อความในกระดาษที่เด็กส่งมา
หลี่ฝางตกตะลึงไป ข้อความนี้ เป็นข้อมูลของเจิ้งอี้เจี้ยนจริงๆ
ชื่อเล่นของเจิ้งอี้เจี้ยนก็คือหมาทิเบตัน ไม่รู้ชื่อที่แท้จริง ตอนยังหนุ่มเขาเคยต่อสู้ในสงครามหลายครั้ง ต่อมาทีมของเขาถูกทำลายจนพินาศลงหมด มีเพียงเขาที่รอดชีวิตมาได้โดยลำพัง
หมาทิเบตันก็แข็งแกร่งไม่น้อย ทั้งทีมของเขาเสียชีวิตกันหมด เหลือแค่เขาที่เดินรอดออกมาได้ ส่วนเนื้อหาด้านล่างยังดูไม่ทัน
หลี่ต๋าคางลุกขึ้นและรับมันไป “ให้ฉันเถอะ”
หลี่ต๋าคางพูดเรียบๆ “ดูมากไป นายจะกลัวเอา”
แม้จะเป็นเพียงแค่แวบเดียว แต่หลี่ฝางก็เห็นเนื้อหาบางอย่าง
บันทึกการต่อสู้ของหมาทิเบตันแต่ละอันล้วนไม่ธรรมดา
ถือเป็นบุคคลอันตรายคนหนึ่ง
“พ่อ เด็กคนเมื่อกี้เป็นใคร?” หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
เด็กชายคนนั้นราวกับศาสดาก็ไม่ปาน ตนเองเพิ่งจะพูดถึงหมาทิเบตันไป ผลคืออีกฝ่ายก็เอาข้อมูลทั้งหมดของหมาทิเบตันมาให้
นี่แทบจะเรียกว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์
“เป็นศิษย์ของท่านจวน ครั้งหน้าถ้าเจอเขา จำไว้ว่าให้เรียกเขาว่าคุณลุง” หลี่ต๋าคางพูดอย่างสงบ “เขารุ่นเดียวกับฉัน”
“รุ่นเดียวกับพ่อ?”
หลี่ฝางกลืนน้ำลาย ท่าทางไม่ปกติอยู่บ้าง เด็กคนนั้นเพิ่งจะอายุเท่าไหร่กัน แต่ถึงกับอยู่รุ่นเดียวกับพ่อของเขา แถมจากนี้ไปถ้าเจอหน้ายังต้องเรียกเขาว่าลุงอีก?
คิดๆ แล้วหลี่ฝางก็รู้สึกไม่เต็มใจขึ้นมา
แน่นอนว่า หลี่ฝางไม่ได้คิดจะเรียกเขาแน่ เด็กนั่น ต่อให้กระโดดยังสูงไม่เท่าเขาด้วยซ้ำ เรียกเขาว่าตุ๊กตายังจะดีกว่า
ในตอนนี้เองที่หลี่ฝางได้รับรู้ถึงความกว้างขวางของท่านจวน
หลังจากอ่านข้อมูล หลี่ต๋าคางก็หัวเราะขึ้นมา
ส้าวส้วยเอ่ยถาม “ลูกพี่ใหญ่ คุณหัวเราะอะไร?”
“นายดูเองเถอะ” เพียงไม่ถึงหนึ่งนาที หลี่ต๋าคางก็อ่านข้อมูลทั้งหมดของหมาทิเบตันเสร็จสิ้น
ส้าวส้วยรับกระดาษมาและดูอย่างตั้งใจ
“ที่แท้ก็เป็นหมาทิเบตัน ผมได้ยินชื่อเสียงของเขามาตั้งนานแล้ว ที่แท้ก็มีสีหน้าคร่าตาแบบนี้นี่เอง...เขามาอยู่ในสถานที่เล็ก ๆ แบบนี้ได้อย่างไรกัน? ใครเชิญเขามา?” ส้าวส้วยขมวดคิ้วและเอ่ย “มู่เจิ้งถังอะไรนั่น ไม่มีทางมีความสามารถพอแน่”
"ใช่ หมาทิเบตันเป็นคนมีชื่อเสียงคนหนึ่ง คนอย่างมู่เจิ้งถัง ไม่มีทางทำให้เขาเคลื่อนไหวได้แน่ เขาน่าจะถูกจ้างโดยคนอื่นจากนั้นอาศัยความขัดแย้งระหว่างเรากับตระกูลมู่ ยืมมีดฆ่าคน”
“อีกด้านหนึ่งไม่ต้องการเผยโฉมหน้า ส้าวส้วย ไปคิดหาวิธีให้เขาปรากฏตัว”
“ฉันไม่ชอบผู้เล่นประเภทลับๆ ล่อๆ ต่อสู้ไปก็ไม่สนุก” หลี่ต๋าคางพูดเรียบๆ
หลังจากได้รับกระดาษแผ่นนี้ สีหน้าของส้าวส้วย ก็ผ่อนคลายลงอย่างมาก
แต่นั่นไม่ใช่เพราะว่าหมาทิเบตันไม่แข็งแกร่ง แต่เป็นเพราะหากแม้กระทั่งเรื่องของอีกฝ่ายยังไม่รู้แน่ชัดแล้วจะจัดการอีกฝ่ายได้อย่างไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง