NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง นิยาย บท 324

บทที่ 324 ฉินวี่เฟยถูกลักพาตัวไป?

ฟังออกว่าหลี่ต๋าคางไม่เพียงแต่ช่วยส้าวส้วยเท่านั้น แต่ยังทุ่มเทสอนกังฟูให้กับส้าวส้วยด้วยไปไม่น้อย

ไม่น่าแปลกใจที่กังฟูของส้าวส้วยนั้นดีอย่างยิ่ง ที่แท้ก็เป็นเพราะมีอาจารย์หลายคนสอนเขา

เรียกได้ว่าเขาได้เรียนรู้จากอาจารย์มากมาย

“แล้วโหจื่อล่ะ?” เขาอาศัยจังหวะนี้ ถามสิ่งที่ตนสงสัยต่อ

ไม่ว่าจะเป็นโหจื่อหรือลุงเฉียน หลี่ฝางก็แทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขาเลยสักนิด

ในอดีต หลี่ฝางคิดมาตลอดว่าพ่อของเขาเป็นแค่คนขับรถบรรทุกคนหนึ่ง แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าตัวตนของพ่อของเขาจะไม่ง่ายดายขนาดนั้น

ปีนั้นหลี่ต๋าคางขับรถบรรทุกออกไป ก็มักจะไม่ได้กลับบ้านเป็นเวลาสิบวันบ้างครึ่งเดือนบ้าง นานที่สุดก็สามเดือนกว่า...

หลี่ฝางสงสัยว่าพ่อของตนไม่ได้ออกไปขับรถบรรทุกจริงๆ แต่ไปทำงานอย่างอื่นมากกว่า

"โหจื่อมาจากครอบครัวหัวขโมย ปู่ของเขา พ่อของเขา และเขา ต่างก็เป็นขโมย แต่เดิมก็ขโมยของอยู่ข้างถนน ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากมายไปกว่าการขโมยโทรศัพท์มือถือเอย กระเป๋าสตางค์เอย ถึงแม้จะทำผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้ใครตาย แต่ใครจะรู้ว่าพ่อของโหจื่อ กลับดันไปขโมยของของเจ้าหน้าที่ราชการเข้าให้”

“ในกระเป๋าของเจ้านั่นมีสมุดบัญชีอยู่ อีกทั้งในสมุดบัญชียังเกี่ยวข้องกับสิ่งของหลายอย่างมากเกินไป...พ่อของ โหจื่อแต่เดิมแค่ต้องการอาศัยสมุดนั่นมาแบล็กเมล์เอาเงินสักหน่อย จะได้หลุดพ้นจากชีวิตไก่ขันสุนัขขโมยอย่างที่เป็นอยู่ แต่พวกรับราชการไหนเลยจะว่าง่ายแบบนั้น? แต่ละคนล้วนเป็นพวกกินคนไม่คายกระดูกกันทั้งนะ พ่อของโหจื่อรวมถึงปู่ของเขาล้วนตายในเงื้อมมือของพวกมัน โหจื่อเองก็เกือบจะถูกคนอื่นฆ่า”

“พ่อของฉันช่วยเขาไว้?” หลี่ฝางถาม

“คุณเคยได้ยินคำว่าใบมอบตัวไหม?” ส้าวส้วยถามหลี่ฝางด้วยรอยยิ้ม

“เคยได้ยิน” หลี่ฝางพยักหน้า

ส้าวส้วยยิ้มเล็กน้อยและเอ่ยต่อ “บังเอิญลูกพี่ใหญ่มาธุระเล็กๆ น้อยๆ ที่ในเมืองหลวงพอดี ส่วนคนๆ นั้น ก็กำลังทำตัวเป็นปรปักษ์กับลูกพี่ใหญ่ โหจื่อกัดฟันหาโอกาสและจัดการฆ่าของเจ้าหน้าที่ราชการนั่นตาย”

“แต่ก่อนที่จะฆ่า โหจื่อได้มาหาลูกพี่ใหญ่ และทำข้อตกลงเอาไว้ ตราบใดที่เขาสามารถฆ่าเจ้าหน้าที่ราชการนั่นได้ ลูกพี่ใหญ่จะต้องหาทางวิ่งเต้นให้เขา หรือคุ้มครองเขา”

“ตอนนั้นฉันกับลูกพี่ใหญ่ต่างคิดว่าโหจื่อก็เป็นแค่เรื่องยุ่งยากเรื่องหนึ่ง เนื่องจากเขาก็เป็นแค่โจรข้างถนนเท่านั้น?”

“ใครจะรู้ว่าเจ้าโหจื่อนั่น ไม่รู้ว่าไปเอาปืนล่าหมูมาจากไหน จากนั้นสองสามวันเขาก็แอบเข้าไปในบ้านของชายคนนั้นแล้วฆ่าเขาและภรรยาทิ้ง ไม่เพียงแค่นั้น แต่ยังรวมถึงพ่อแม่ของเขา ลูก ๆ ของเขาที่เรียนมหาวิทยาลัยในที่อื่น ๆ โหจื่อก็ไม่ยอมละเว้น”

“ฆ่าหมดเลยเหรอ?” ใบหน้าของหลี่ฝางซีดขาวลง รู้สึกว่านี่ออกจะโหดร้ายอยู่บ้าง

ส้าวส้วยพยักหน้า “อาจเป็นเพราะฆ่าจนบ้าเลือดไปแล้ว ยังไงเสียพ่อและปู่ของเขาล้วนถูกคนๆ นั้นฆ่าตาย โหจื่อมีหรือจะปล่อยไปได้ง่ายๆ? ถึงแม้เรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับคนในบ้านนั่น แต่คนในบ้านนั่นแต่ละคนมีดีที่ไหนกัน? พ่อแม่เจ้านั่นเปิดสถานอาบอบนวด ไม่รู้ว่าได้บังคับคนดีๆ ให้ค้าประเวณีไปมากน้อยแค่ไหน เพราะความช่วยเหลือของลูกชาย ก็เลยไม่มีใครกล้าตรวจสอบพวกเขา”

“ส่วนลูกชายของเขา ก็เป็นพวกคุณชายเจ้าสำราญ ไปเรียนมหาวิทยาลัยในที่อื่น ขับรถหรูราคาหลักล้าน ส่วนเงินที่ใช้ซื้อรถหรูนั่น ไม่ใช่เงินที่หามาได้อย่างยากลำบากของประชาชนหรือไง”

“หลังจากที่โหจื่อฆ่าเจ้านั่นเสร็จก็กลับมาหาลูกพี่ใหญ่ ถามว่าลูกพี่ใหญ่จะช่วยเขาไหม? ถ้าไม่ เขาจะฆ่าตัวตาย ปืนของเขายังเหลือกระสุนอีกนัดที่ทิ้งไว้ให้ตัวเอง”

“ในตอนนั้น เขาคุกเข่าลงต่อหน้าลูกพี่ใหญ่ ดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองไปที่ลูกพี่ใหญ่อย่างแน่วแน่ มือข้างหนึ่งถือปืนจ่อหัวตนเอง”

“ตอนนั้นลูกพี่ใหญ่หัวเราะ และปล่อยให้เขาฆ่าตัวตาย”

“ก่อนหน้านี้ไม่ได้ตกลงกันไว้แล้วหรือ? พ่อฉันกลับคำหรือ?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว

“ตกลงกันแล้ว แต่ลูกพี่ใหญ่ไม่คิดว่าโหจื่อจะเหี้ยมขนาดนั้น ต้องการชีวิตคนทั้งบ้าน ตอนแรกที่คุยกันมีแค่คนๆ นั้นคนเดียวเท่านั้น ชีวิตคนมากมายขนาดนั้น ลูกพี่ใหญ่เองก็แบกรับไม่ไหว ส่วนโหจื่อก็แค่ขู่ลูกพี่ใหญ่เท่านั้น เขาไม่กล้าจะฆ่าตัวตาย ดังนั้นเขาจึงคุกเข่าให้กับลูกพี่ใหญ่ ลูกพี่ใหญ่จึงช่วยหาคนมามอบตัวแทนเขา”

“โหจื่อเองก็หลบซ่อนไปมาเช่นกัน หลังจากหลบซ่อนตัวไปเป็นปี หนึ่งปีถัดมา ลูกพี่ใหญ่จึงค่อยรับเขาไว้อีกครั้ง”

“ลูกพี่ใหญ่ไม่ชอบอารมณ์ร้ายของโหจื่อ กลัวว่าเขาจะเสพติดการฆ่าคน ดังนั้นจึงไม่ต้องการสอนทักษะให้เขามากเกินไป และสร้างปัญหาใหญ่ขึ้น แต่กลับให้ฉันแอบสอนเขาลับๆ .... หลังจากไปต่างประเทศ โหจื่อก็เล่นปืน ...”

พูดถึงตรงนี้ ส้าวส้วยก็หยุดลง

หลี่ฝางที่กำลังฟังอย่างได้ที่ก็รีบเร่งขึ้น “ทำไมไม่พูดต่อเล่า? เล่าต่อสิ นายกระหายน้ำหรือ ฉันไปซื้อให้นาย!”

หลี่ฝางพูดจบก็ตั้งท่าจะวิ่งไปที่ร้านเครื่องดื่มเย็นๆ ด้านข้าง

“เจ้านาย หมาทิเบตันอยู่ที่นี่แล้ว” ส้าวส้วยเอ่ยเสียงเย็น

“ที่ไหน?” หลี่ฝางมองซ้ายมองขวาและมองไปที่ด้านหน้า แต่กลับไม่เห็นเงาของหมาทิเบตันเลยสักนิด

“ข้างหลัง” ส้าวส้วยเอ่ยเตือน

หลี่ฝางหันหลังกลับไป เมื่อเห็นว่าหมาทิเบตันกำลังเดินเข้ามาอย่างช้าๆ หลี่ฝางก็สะดุ้งตกใจทันทีและรีบหันไปมองส้าวส้วยด้วยความตกใจ “แม่เจ้า ด้านหลังนายมีตาอีกดวงหรือไง? เขามาจากด้านหลังนายยังรู้ได้อีก?”

ส้าวส้วยไม่ตอบ จนกระทั่งต่อมาภายหลังหลี่ฝางถึงค่อยเข้าใจว่า ที่ส้าวส้วยสามารถค้นพบตัวตนของหมาทิเบตันได้ นั่นก็เพราะส้าวส้วยสวมแหวนอยู่ และเห็นจากแสงสะท้อน

ส้าวส้วยสามารถตรวจสอบภัยคุกคามจากด้านหลัง ผ่านวงแหวนของเขา

ต้องบอกว่า อาศัยแค่แสงสะท้อนบนแหวน เพื่อดูว่าด้านหลังมีศัตรูหรือไม่ ถือเป็นทักษะอย่างหนึ่งแน่นอน

เมื่อหมาทิเบตันกำลังจะมาถึง ส้าวส้วยก็หันไปรอบ ๆ

เมื่อกี้นี้มือของหมาทิเบตันกำลังกอดอกอยู่ แต่พอส้าวส้วยขยับตัว เขาก็รีบชักมือออกมา

“เขามีปืนเหรอ?” หลี่ฝางเองก็พอมองออก

ส้าวส้วยพยักหน้า “แบบนี้รับมือยากแล้ว”

“ฉันไม่กลัวปรมาจารย์ แล้วก็ไม่กลัวปืน แต่กลัวปรมาจารย์ที่มีปืน” ส้าวส้วยขมวดคิ้ว รู้สึกว่าเรื่องนี้ยุ่งยากอยู่บ้าง

แต่ว่า สีหน้าของส้าวส้วยกลับไม่แสดงออกอะไรสักนิด

หมาทิเบตันค่อยๆ เดินเข้ามาและหยุดลงตรงหน้าส้าวส้วยก่อนจะยื่นมือออกมาก่อน “ดูเหมือนนายจะรู้ว่าฉันเป็นใครแล้ว”

“หมาทิเบตัน”

ส้าวส้วยมีสีหน้าเคร่งขรึม เขามองหมาทิเบตัน ท่าทางไม่เป็นธรรมชาติอยู่บ้าง

ตนเองเพิ่งจะรู้จักตัวตนของหมาทิเบตัน หมาทิเบตันก็รู้ว่าตัวตนของตนถูกเปิดแล้ว ความสามารถของหมาทิเบตันเห็นทีจะไม่ด้อยเลยสักนิด

“ฉันได้ยินมาว่ามีคนกำลังตรวจสอบตัวตนของฉัน ฉันเดาไว้แล้วว่าเป็นพวกนาย ช่างเถอะ ฉันไม่เสแสร้งต่อแล้ว แกล้งทำตัวลึกลับไป ก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับฉัน”

หมาทิเบตันพูดจบ ก็สอดมือกอดอกอีกครั้ง ครั้งนี้ หลี่ฝางรู้สึกกระวนกระวายจนแทบบ้า แต่กลับเป็นส้าวส้วยที่ยังคงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

ใกล้ขนาดนี้ ส้าวส้วยกลับไม่กลัวหมาทิเบตัน แม้ว่าเขาจะชักปืนออกมา อาศัยความเร็วของส้าวส้วย ก็ยังสามารถหยุดเอาไว้ได้

สีหน้าของหมาทิเบตันจมดิ่งลมมาทันที ดวงตาของเขาฉายแววสังหารออกมา

“อย่าขยับ!”

ทันใดนั้น หมาทิเบตันก็ร้องขึ้นก่อนจะดึงมือออกมาจากนั้นจึงเล็งไปที่ส้าวส้วยทันที

ส่วนส้าวส้วยยังคงไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง