บทที่ 329 เรื่องตลกครั้งใหญ่
วินาทีที่โหจื่อชักปืนออกมา สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปทันที
นี่คือปืน แค่เหนี่ยวไก ชีวิตก็จบลงแล้ว
ใครบ้างที่ไม่กลัว?
สีหน้าของหมาทิเบตันก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นกัน แต่เขากลับไม่ได้กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของมู่เสี่ยวไป๋ คนอย่างมู่เสี่ยวไป๋ ตายก็ตายไป ในใจของหมาทิเบตันไม่เกิดคลื่นลมอะไรสักนิด
หมาทิเบตันแค่ประหลาดใจ ว่าบนตัวของโหจื่อ สามารถพกปืนไปไหนมาไหนได้ยังไง!
นี่คือในประเทศ ไม่ใช่ต่างประเทศ ที่ต่างประเทศ ปืน AK47 เอย ปืน Gatlinเอย พวกนั้นก็เป็นแค่ของเล่นธรรมดาทั่วไป แต่การควบคุมปืนในประเทศนั้นเข้มงวดมากขนาดนี้ ใครกันจะกล้าพกไปมาทุกวัน?
หากตำรวจเกิดตรวจค้นขึ้นมา หรือต้องผ่านสถานที่ที่มีการตรวจสอบความปลอดภัย อย่างนั้นไม่ยุ่งยากขึ้นมาหรอกหรือ?
โหจื่อมีปืนหมาทิเบตันไม่ได้กลัวอะไร แต่ปัญหาคือ บนตัวโหจื่อมี แล้วจะรับประกันได้หรือว่าส้าวส้วยไม่มี?
เชี่ยเอ๊ย!
ทันใดนั้นหมาทิเบตันก็รู้สึกถึงวิกฤตขึ้นมา
โหจื่อถือปืนชี้ไปที่หัวของมู่เสี่ยวไป๋ แล้วพูดว่า “มาสิ นายลองกดโทรออกให้ฉันดู ฉันก็อยากจะดูสักหน่อย ว่านายโทรออกเร็วกว่า หรือฉันยิงเร็วกว่า...”
โหจื่อไม่กี่ก้าวก็มาถึงตรงหน้ามู่เสี่ยวไป๋ ส่วนเจ้าหัวแบนที่อยู่ด้านข้างก็ไม่ได้เข้ามาห้าม
หนึ่งคือไม่อยากทำ สองคือไม่มีกำลังมากพอที่จะทำ
โหจื่อมีปืน ใครกันจะกล้าเข้าไป?
คู่ต่อสู้ที่แต่เดิมสู้กันอย่างยุติธรรม ใครจะไปรู้ว่าโหจื่อจะยังมีเครื่องมือฆ่าฟันอันยิ่งใหญ่นั่นอยู่ด้วย
หมาทิเบตันที่เป็นคนมีกำลังมากพอเองก็ไม่อยากจะเข้าไปเสี่ยงเช่นกัน
มู่เสี่ยวไป๋ตกใจจนนิ้วสั่น มือถือในมือเขาก็สั่นขึ้นไปด้วย
“ลูกพี่.... นาย..นายอย่าเข้ามามั่วซั่ว ที่นี่....เป็นในรีสอร์ต ที่นี่เป็นเขตของพวกนายนะ ถ้านายยิงปืน ทุกๆ คนจะได้ยินทั้งหมด...” มู่เสี่ยวไป๋กลัวจนพูดติดอ่าง
โหจื่อหัวเราะเบา ๆ เผยให้เห็นแนวฟันที่ไม่เป็นระเบียบ เขาแสยะยิ้มเอ่ย “นายยังคงคิดรอบคอบเหมือนเคย”
“ก็ใช่ เสียงปืนดังขึ้น คงดึงดูดคนไม่น้อย ถึงตอนนั้น ฉันก็จะฆ่าคนท่ามกลางสายตาทุกคน แถมยังส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อรีสอร์ตด้วย...”
มู่เสี่ยวไป๋เช็ดเหงื่อเย็นเฉียบบนใบหน้า เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “ใช่ พี่ชาย เหตุผลนี้แหละ”
“บวกอันนี้เข้าไป ก็คงไม่มีเรื่องแล้วมั้ง?”
โหจื่อหยิบท่อเก็บเสียงออกมาจากกระเป๋าและวางไว้บนปากกระบอกปืน
สีหน้าของหลี่ฝางชะงักค้างไป บนตัวของโหจื่อใส่ของเล่นพวกนี้ไปเยอะขนาดไหนเนี่ย ทั้งปืน ทั้งกระบอกเก็บเสียง อีกทั้งยังมีผ้าขนหนูสีขาวสำหรับการยอมจำนน...
“มา เมื่อกี้นายเก่งนักไม่ใช่หรือไง? มา นายจะโทรศัพท์ไม่ใช่หรือไง? เอาเลย นายโทรสิ”
“ไอ้เสียงโหวกเหวกโวยวายเมื่อกี้ไปไหนแล้ว? ไอ้คนที่ใจเหี้ยมที่ขู่คนอื่นเมื่อกี้อยู่ไหนล่ะ?”
“นายจะให้พี่โจวจัดการให้ฉันพิการไม่ใช่หรือไง?”
“เอาเลย นายเล่นต่อ มาแสดงโชว์ของนายต่อไปสิ.”
โหจื่อเล็งปืนไปที่หัวของมู่เสี่ยวไป๋ เขาเอ่ยถาม “ทำไม ไม่เก่งแล้ว?”
โหจื่อเองก็เอะอะพอตัว เขาใช้ปืนเล็งที่คนอื่น แล้วคนเขาจะกล้าทำเก่งกับโหจื่ออีกได้ยังไง
“ทำไมไม่พูดแล้วล่ะ ทำไม เป็นใบ้ไปแล้ว?”
มู่เสี่ยวไป๋นิ่งเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรดีแล้ว
“พี่ชาย เมื่อครู่ฉันก็แค่ล้อเล่น” หลังเงียบไปครู่หนึ่ง มู่เสี่ยวไป๋ก็ได้แต่ต้องพูดขึ้นมา
เขาคิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะจัดการกับโหจื่ออย่างไร
เขาเหลือบมองไปที่หมาทิเบตัน แต่หมาทิเบตันกลับเขาไม่สนใจเขา
หมาทิเบตันไม่ได้โง่ โหจื่อมีปืน แถมตรงนี้ยังมีส้าวส้วยที่กำลังจับตามองเขาอยู่ ถ้าเขาลงมือ เห็นทีคงต้องเป็นศัตรูอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ที่แท้ก็แค่เรื่องล้อเล่น นายก็พูดแต่แรกสิ ฉันยังคิดว่านายต้องการให้เสี่ยวโจวทุบฉันจนพิการจริงๆ ซะอีก”
มือข้างหนึ่งของเขาถือปืนเล็งไปที่หัวของมู่เสี่ยวไป๋ ส่วนอีกข้างหนึ่งตบลงบนไหล่ของมู่เสี่ยวไป๋ โหจื่อหัวเราะและพูดขึ้น “ฉันว่านะคุณชายใหญ่ตระกูลมู่ เรื่องล้อเล่นแบบนี้อย่าได้พูดไปมั่วๆ ซั่วๆ นายรู้รึเปล่า เมื่อครู่ฉันถูกนายทำให้ตกใจจนแทบแย่”
“ฉันเกือบจะฉี่ราดด้วยซ้ำ รู้รึเปล่า?”
โหจื่อถอนหายใจเฮือกใหญ่ สีหน้าหมดคำพูด
“พี่ชาย นายช่วยเอาปืนออกจากหัวฉันก่อนได้ไหม ถ้านายยังไม่เอามันออกไปอีก ฉันนี่แหละที่ถูกนายทำให้ตกใจจนฉี่แทบราด หรือไม่อย่างนั้นเอาอย่างนี้ไหม เมื่อกี้ฉันทำให้นายตกใจ ฉันจะชดเชยค่าทำขวัญให้ เป็นไง?” มู่เสี่ยวไป๋เม้มปาก เขาก้มตัวลงและเงยหน้าขึ้นถามโหจ่อ
โหจื่อส่ายหัวและเอ่ย “อันที่จริงฉันไม่ได้ขาดเงินสามร้อยล้าน ห้าร้อยล้านอะไร แต่ถ้านายจ่ายไหว ฉันก็ยินดีที่จะรับ”
“สามร้อยร้าน ห้าร้อยล้าน ......” มู่เสี่ยวไป๋สูดอากาศอย่างหนาวเหน็บ
คนอื่นยอมเอ่ยปากอย่างใจกว้าง แต่โหจื่อกลัวเปิดปากก็คิดจะตกปลาใหญ่ คิดจะกินตระกูลมู่ลงไปทั้งตระกูล
สามร้อย ห้าร้อยล้าน หากต้องการเป็นเงินสด
เกรงว่าทั่วทั้งเมืองหลวงนอกจากสี่ตระกูลใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่แล้ว คงไม่มีใครควักออกมาได้อีก
แน่นอนว่า ตระกูลหลี่เองก็สามารถควักออกมาได้
มู่เสี่ยวไป๋ส่ายหัว เขาเอ่ย “พี่ชาย นายชอบล้อเล่นเสียจริง สามร้อยห้าร้อยล้าน นั่นออกจะมากเกินไปหน่อย”
“ฉันรู้ว่าคนตัวเล็กๆ อย่างนายคงไม่มีเงินให้ได้มากขนาดนั้น ครอบครัวจนๆ อย่างพวกนาย ฉันไปอยากได้ค่าทำขวัญฉันก็คิดว่าออกจะไม่ค่อยเหมาะสมอยู่หน่อย ดังนั้น พวกเรามาเล่นเกมกันแทนดีกว่าเป็นไง?”
โหจื่อกล่าวด้วยรอยยิ้มร่า
“เล่นเกม เกมอะไร?” มู่เสี่ยวไป๋รีบถามทันที
“ไม่งั้น พวกเรามาเป่ายิ้งฉุบกัน หากฉันชนะ ฉันจะยิงตัวเอง ถ้าฉันแพ้ ฉันยิงนายนัดนึง เป็นไง?” โหจื่อหัวเราะ
มู่เสี่ยวไป๋มีสีหน้าขมขื่น “พี่ชาย คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม มีที่ไหนกันที่จะมายิงตัวเองแบบนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง