บทที่ 369 พวกเราเลิกกันเถอะ
เมื่อได้ยินชื่อของเฉินเสี้ยว สีหน้าขอหลี่ฝางที่เคยเย็นชา ก็เปลี่ยนเป็นดุร้ายทันที ทันใดนั้นหลี่ฝาง ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ และโมโหจนตัวสั่น: “เธอเรียกหาเฉินเสี้ยว?”
“ฉัน......” ลู่หลุ่ยตกใจหมด ตกใจจนสะดุ้ง จนพูดไม่จบประโยค
“ฉัน......กลัวว่าเฉียนเฟิงจะทำร้ายฉัน ดังนั้นจึงเรียกหาเฉินเสี้ยว”
“หลี่ฝาง นายอย่าโกรธเลยนะ นายฟังฉันอธิบายให้จบก่อนได้มั้ย?” สีหน้าของลู่หลุ่ยดูร้อนรน
หลี่ฝางโมโหจนกัดฟันกรอด: “ฉันล่ะยอมใจเธอเลยจริงๆ พับผ่าสิ เธอไม่ใช่แค่แอบนัดเดทส่วนตัวกับเฉียนเฟิง เธอยังนัดเฉินเสี้ยวด้วย ดีนี่ หน้าหนึ่งหลังหนึ่ง เธอสวมเขาให้ฉันตั้งสองครั้ง ตอนนี้ยังมาบอกฉันว่าอย่าโกรธ......”
“ลู่หลุ่ย เธอเห็นฉันเป็นอะไร? สัตว์เลือดเย็น ไร้ความรู้สึกเหรอ!” หลี่ฝางตะคอกใส่ลู่หลุ่ย
“เอาล่ะ ไม่ต้องอธิบายแล้ว ฉันไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น เธออยากจะไปกับใครก็เรื่องของเธอ เกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันเข้าไปยุ่งได้ด้วยเหรอ? เชี่ยเอ๊ย!”
หลี่ฝางด่าออกมาเสียงดัง พอด่าเสร็จในใจก็รู้สึกปวด ปวดจิ๊ดๆ แบบอธิบายไม่ถูก
ในตอนนั้น หลี่ฝางก็หันหลัง แล้วเดินออกไปนอกห้องพักผู้ป่วย ลู่หลุ่ยที่อยู่ด้านหลังตะโกนเรียกเขา แต่หลี่ฝางกลับทำเป็นไม่ได้ยิน
ลู่หลุ่ยลงจากเตียงผู้ป่วย แล้วตามเขาไป แต่ยังไม่ทันได้ตามหลี่ฝางไปทัน
หลี่ฝางก็วิ่งขึ้นไปในรถ และก็บิดกุญแจสตาร์ทรถ จากนั้นก็เคลื่อนรถออกไปแล้ว
จากกระจกรถ หลี่ฝางก็เห็นลู่หลุ่ยวิ่งตามมาอย่างบ้าคลั่ง ตอนแรก หลี่ฝางขับรถไม่ได้เร็วนัก และลู่หลุ่ยก็วิ่งเร็ว
แต่จู่ๆ ลู่หลุ่ยกลับสะดุดล้มลง
หลังจากหลี่ฝางเห็น ในใจก็ลังเล เขาไม่รู้ว่าควรหยุดรถแล้วลงไปช่วยพยุงเธอ หรือว่าจะทำเป็นมองไม่เห็น
แต่เมื่อนึกถึงเฉินเสี้ยวกับเฉียนเฟิง ศัตรูหัวใจสองคนนั้นของตน แม่งเอ๊ย หลี่ฝางก็เหยียบคันเร่ง แล้วเพิ่มความเร็ว แล้วหายไปจากสายตาของลู่หลุ่ย
“กลับไปเถอะ หล่อนหกล้มแล้วนะ”
หลินชิงชิงที่นั่งอยู่ด้านหลังพูดขึ้น: “ถ้าหล่อนไม่รักนาย หล่อนคงไม่ทำแบบนี้”
“นายก็รักหล่อน ไม่ใช่หรือไง?”
“มองดูผู้หญิงที่ตัวเองล้ม แล้วจากไปแบบแม้แต่หัวยังไม่หันกลับมามองแบบนี้ พูดตามตรง มันไม่ได้ดูดีเลยสักนิด แถมยังทำให้ฉันดูแคลนนายอีกด้วย”
หลินชิงชิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง: “กลับรถเถอะ”
หลี่ฝางอืมใส่ ใจของเขา ก็อ่อนเหมือนกัน
ถึงแม้จะไม่มีคำพูดประโยคนี้ของหลินชิงชิง เขาก็คงจะกลับรถอยู่ดี
“แม่งเอ๊ย คิดซะว่าชาติที่แล้วติดหนี้หล่อนไว้” หลี่ฝางสบถออกมา จากนั้นก็เลี้ยวรถ กลับไป
เมื่อกลับไป ลู่หลุ่ยกับยังคงล้มอยู่ที่พื้น
หลี่ฝางเปิดประตูรถ และเดินลงไปพยุงลู่หลุ่ยขึ้นมา
“เธอโง่หรือไง? โตป่านนี้แล้ว หกล้มยังไม่รู้จักลุกขึ้น?” หลี่ฝางมองลู่หลุ่ย และพูดอย่างเอือมระอา
ลู่หลุ่ยยังพูดไม่จบ แต่แค่ตอนที่หลี่ฝางพยุงเธอกลับไป หัวเข่าเธอก็ถลอก
เมื่อหลี่ฝางเห็น ในใจก็เริ่มร้อนรน
ถ้าให้บอกว่าหลี่ฝางไม่เป็นห่วง คงจะโกหก
เมื่อพยุงลู่หลุ่ยมาถึงเตียงผู้ป่วย ขณะที่หลี่ฝางก็กำลังจะหันหลังเดินไป ลู่หลุ่ยก็พูดขึ้น: “นายจะให้ฉันวิ่งตามนายอีกรอบเหรอ?”
หลี่ฝางก็ไม่ได้โง่ ที่ลู่หลุ่ยพูดหมายความได้ชัดเจนว่า ถ้าตนยังเดินหนีอีก เธอก็จะตามไปอีก
หลี่ฝางนั่งลงบนเก้าอี้ และก็สงบจิตใจและอารมณ์ของตนเอง แล้วพูด: “เธอโง่เหรอ? คำเพ้อเจ้อพวกนั้นเธอก็เชื่อ หน้าตาเหมือนรักแรกอะไรนั่น? ทำไม เธอมีพี่สาวฝาแฝดหรือไง? มุขจีบหญิงนี่ ก็เก่าแก่ไปนะ?”
“เฉียนเฟิงนั่นยอมเปย์เงินให้เธอเป็นล้าน เห็นได้ชัดว่ามันมีเจตนาแอบแฝง”
หลี่ฝางพูดสีหน้าเข้ม: “แล้วก็เฉินเสี้ยว แม่งเอ๊ย อันนี้ไม่ต้องพูดถึงเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง