NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง นิยาย บท 571

จูเปิ่นจุดบุหรี่ให้กับตัวเองมวลหนึ่ง แล้วดูดสองสามคำ นางพยาบาลที่ถูกซ้อมยังไม่เข็ดคนหนึ่งลุกยืนขึ้นแล้วกล่าว: “ในโรงพยาบาลไม่อนุญาตให้ดูดบุหรี่”

“เหอะ ๆ ” จูเปิ่นหัวเราะเหอะ ๆ สองครั้ง และเสี่ยวซานจื่อก็ได้ถีบเข้าไปที่หน้านางพยาบาลอย่างจัง: “แม่งเอ๊ยอย่ามาทำเป็นซ่าต่อหน้าฉัน อย่าว่าแต่พี่ใหญ่ฉันดูดบุหรี่อยู่ที่นี่เลย แม้แต่จะจุดไฟเผาห้องทำงานของเธอ เธอก็จะต้องนั่งมองอยู่เฉย ๆ เข้าใจไหม?”

“พวกแก......พวกแกนี่มันไม่เกรงกลัวกฎหมายกันเลยจริง ๆ ” นางพยาบาลคนนั้นล้มลงที่ข้างเตียง โมโหจนแทบพูดไม่ออก

จูเปิ่นนำบุหรี่ที่เหลืออยู่ครึ่งมวล ยื่นให้กับเสี่ยวซานจื่อ จากนั่นก็ย่อตัวลง นั่งยอง ๆ อยู่ตรงหน้าของนางพยาบาล

“แกอย่าเข้ามานะ อย่าเข้ามา อย่าเข้ามาอีกนะ ฉันจะร้องให้คนช่วยแล้วนะ ฮือ ๆ ......” นางพยาบาลมองใบหน้าที่โหดเหี้ยมอำมหิตของจูเปิ่น ทำให้เธอตกใจหวาดผวาจนสะอึกสะอื้นขึ้นมา

“เหอะ ๆ เธอนี่มันตลกจริง ๆ เลย เมื่อกี้เธอยังมีหน้าพูดถึงกฎหมายอีกเหรอ? กฎหายคืออะไร? เธอพูดเรื่องกฎหมายกับฉันในตอนนี้ ฉันถามเธอหน่อยสิ เธอเห็นตอนที่พวกมันฆ่าคนไหม?”

“ฉันกำลังถามเธออยู่นะ เลิกร้องไห้ได้แล้ว ได้ยินไหม?” จูเปิ่นขมวดคิ้วอย่างเยือกเย็น เขาคว้าปืนออกมาจากหน้าอก แล้วจ่อไปที่นางพยาบาล

"ปลายปืนได้ใส่กระบอกเก็บเสียง ต่อให้ตอนนี้ฉันลั่นไกระเบิดหัวเธอ คนที่อยู่ข้างนอก ก็จะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย”

“หยุดร้องไห้ซะ ได้ยินไหม?”

จูเปิ่นขยับแขนเล็กน้อย จนปลายกระบอกปืนจ่ออยู่ที่ปากของนางพยาบาล

ทันใดนั้นนางพยาบาลก็ไม่กล้าร้องไห้อีก หยดน้ำที่กำลังจะไหลออกจากตา ถูกห้ามไม่ให้ไหลออกมาในทันที

“ฉันถามเธออีกครั้ง ตอนที่พวกมันฆ่าคน เธอเห็นไหม?” จูเปิ่นถามอย่างเยือกเย็น

นางพยาบาลลังเลอยู่สักพัก แล้วพยักหน้า

“เหอะ ๆ ในเมื่อเธอเห็นแล้ว แล้วทำไมตอนที่ตำรวจถามเธอ เธอถึงไม่พูดล่ะ? ทำไม ไม่กล้าเหรอ หรือว่าพูดไม่เป็น?” จูเปิ่นจ้องมองนางพยาบาล และขมวดคิ้วอย่างเยือกเย็น แล้วถามต่อ

นางพยาบาลกล่าว: “ไม่กล้า ตอนนั้นหลังจากที่พวกมันฆ่าคนแล้ว พวกเราก็พากันหวาดกลัวจนทำอะไรไม่ถูก อีกอย่างพวกมันได้ยึดบัตรประชาชนของพวกเราไปหมด แล้วถ่ายรูปเอาไว้ พวกมันบอกว่า ถ้าหากพวกเราคนใดคนหนึ่งแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป ก็จะฆ่าพวกเราทั้งหมดซะ พวกเราล้วนเป็นคนที่นี่ หรือต่อให้ไม่ใช่คนที่นี่ ก็อยู่ไม่ไกล พวกมันล้วนเป็นพวกเดนตาย พวกเดนตายที่แท้จริง ถ้าหากขายพวกมัน พวกเราจะต้องถูกพวกมันฆ่าตายอย่างแน่นอน”

จูเปิ่นหัวเราะเหอะ ๆ บนใบหน้าปรากฏท่าทีเหยียดหยามออกมา: “พวกเดนตาย? พวกเดนตายห่าอะไร มาคุยโวอะไรกับฉันอยู่ตรงนี้ ก็แค่ฆ่าคนเอง ทำไมถึงได้กลายเป็นพวกเดนตายแล้วล่ะ ในเมื่อเป็นพวกเดนตาย พวกมันจะกลัวพวกเธอขายพวกมันทำไม เดิมที่ก็เป็นคนที่ผ่านความตายมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ยังจะกลัวถูกตามจับ? หรือว่ากลัวอะไร?”

“ดูพวกคนขี้ขลาดที่รังแกคนที่อ่อนแอกว่ากลัวคนที่แข็งแรงกว่าอย่างพวกเธอสิ กลัวพวกมัน แต่ไม่กลัวฉัน หรือว่าเป็นเพราะฉันไม่ได้ฆ่าคนต่อหน้าพวกเธอ? ให้พวกเธอได้เห็นความร้ายกาจหรือเปล่า?”

จู่เปิ่นทำเสียงฮึดฮัดทางจมูก กล่าว: “ฉันจะบอกพวกเธอให้นะ พวกมันกล้าฆ่าคน ฉันก็กล้าเหมือนกัน จุดประสงค์ที่พวกเรามาที่นี่ ก็เพื่อนายน้อยของพวกเรา ถ้าหากนายน้อยของเราโดนปรักปรำเพราะพวกเธอ จนต้องติดคุกล่ะก็ ฉันจะต้องไม่ปล่อยพวกเธอแน่ เข้าใจไหม?”

“รอฉันจับพวกเดนตายที่เธอว่าได้ ยังต้องเชิญพวกเธอไปชี้ตัว เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ให้นายน้อยของพวกเรา ไม่อย่างนั้นล่ะก็ หึ ๆ ถึงยังไงตัวตนของพวกเธอ ฉันต่างก็จำได้แม่น จะจัดการหรือล้างแค้น ฉันก็จะไม่พูดมากแล้ว”

จูเปิ่นลุกขึ้นยืน เขามองนางพยาบาลคนนี้ด้วยสายตาที่เหยียดยาม แล้วกล่าว: “ใบหน้าของพวกเธอทุกคน ฉันจำได้หมดแล้ว ถ้าหากกล้าโทรแจ้งตำรวจล่ะก็ เหอะ ๆ ขอเพียงฉันไม่ถูกตัดสินโทษตาย เมื่อไหร่ที่ถูกปล่อยตัวออกมาฉันจะกลายเป็นฝันร้ายของพวกเธออย่างแน่นอน”

“เงินหนึ่งแสนหยวนนี่ฉันจะทิ้งไว้พวกเธอตรงนี้ ถ้าพวกเธอไม่รับเงินที่ได้มาอย่างไม่สุจริต หรือแอบรับอั่งเปาอะไร ฉันว่าเงินเดือนของพวกเธอก็ไม่เยอะใช่ไหม?”

“ถูกซ้อมสักครั้ง แล้วแบ่งกันคนละหมื่นสองหมื่น ฉันว่าพวกเธอน่าจะดีใจถึงจะถูก”

จูเปิ่นกล่าวพลางหัวเราะเหอะ ๆ จากนั้นก็ส่งสายตาให้กับเสี่ยวซานจื่อ เสี่ยวซานจื่อตบบ่าของชายหนุ่มคนนั้นเบาๆ กล่าว: “ทำตามที่ลูกพี่ของเราพูดเมื่อกี้ รีบไปซะเถอะ”

รอหลังจากที่ชายหนุ่มคนนั้นจากไปได้สักพักแล้ว จูเปิ่นถึงได้พาพวกเสี่ยวซานจื่อจากไป

พอมาถึงหน้ารถเบนซ์เชิงพาณิชย์ จูเปิ่นก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก มองดูชายหนุ่มคนนั้น: “ไม่เลว เชื่อฟังดีนี่”

“ลูกพี่ ผมต้องเลี้ยงดูทั้งเด็ก ทั้งคนแก่ จะกล้าไม่เชื่อฟังได้ยังไงครับ” ชายหนุ่มเม้มปาก พลางกล่าว

“ลูกพี่ พี่จะต้องเป็นคนที่มีเงินคนหนึ่งแน่นอน”

ชายหนุ่มเบ้ปาก: “ชั่วชีวิตนี้ของผม คงไม่มีปัญญาจะเป็นอย่างพี่ได้ นอกเสียจากจะติดตามทำงานกับพี่”

“เหอะ ๆ มันก็แค่รถยนต์มือสองเท่านั้นเอง เงินก็ไม่ใช่ของเรา เป็นของพี่ใหญ่ของพวกเรา ฉันไม่ใหญ่ลูกพี่อะไรหรอก ก็แค่อายุมากกว่าพวกเขา แค่นั้นเอง”

“รู้ไหมว่าทำไมพวกเราถึงได้มาอยู่ในสังคมแบบนี้? นั่นก็เพราะพวกเราไม่ได้เรียนมหาลัยฯ ไม่มีทางเลือกถึงได้เดินเส้นทางนี้ น้องชาย แกไม่เหมือนกันกับพวกเรา แกมีทางเลือก พวกเราเลือกไม่ได้ เข้าใจไหม?”

“พวกเราแต่งตัวดูดี รายได้ไม่ธรรมดา แต่ก็ต้องแลกกับอะไรมากมาย” จูเปิ่นหัวเราะเหอะ ๆ :” แก ขี้ขลาดซะขนาดนั้น ไม่เหมาะที่จะมาทำงานแบบพวกเรา”

“ลูกพี่ครับ อย่ามองคนในที่แคบสิ แบบนี้ทำให้ดูมองคนผิดได้ง่ายนะครับ ในหมู่บ้านของพวกเรา ผมเป็นคนเดียวที่สามารถสอบเข้ามหาลัยฯ ได้ในหนึ่งปี คุณภาพชีวิตของพวกเราที่นั่นลำบากมาก ล้วนบอกว่าขอเพียงสามารถสอบเข้ามหาลัย ถึงจะออกมาสู่โลกภายนอกได้ ผมสามารถโดดเด่นกว่าคนหนุ่มสาวหลายร้อยคนได้ ผมไม่เชื่อหรอกนะว่าผมจะอยู่ในสังคมแบบพวกพี่ไม่ได้”

“ลูกพี่ครับ ทุกคนล้วนเป็นคนเหมือนกัน พวกพี่ทำได้ ผมก็สามารถทำได้เหมือนกัน ถ้าเทียบกับพวกพี่แล้ว ผมขาดแค่โอกาสเท่านั้นเอง”

ชายหนุ่มกล่าวไปหัวเราะไป

“แกชื่ออะไร?” จูเปิ่นมองชายหนุ่มพลางเอ่ยถาม

“หรุ่ยเหวินเจ๋”

“หรุ่ยเหวินเจ๋ แกดูให้ดี ๆ นะ” จูเปิ่นกล่าว แล้วถอดเสื้อของตัวเองออก นอกจากกล้ามเนื้อที่ปรากฏให้เห็นแล้ว ยังมีรอยมีดอยู่ทั่วร่าง และยังมีรอยกระสุนปืนอยู่หลาย

“เห็นหรือยัง? รู้หรือยังว่าพวกเราหาเงินยังไง? พวกเราใช้ชีวิตหาเงิน รู้ไหมว่าฉันอิจฉาคนแบบไหนมากที่สุด ก็คืออิจฉาคนที่มีการศึกษาอย่างพวกแกไงล่ะ” บนใบหน้าของจูเปิ่น ปรากฏแววซับซ้อนออกมาพลางกล่าว: “น้องชาย อย่าคาดเดามั่วซั่วอีกเลย ทำหน้าที่หมอของแกไปน่ะดีแล้ว ถึงจะมีอนาคต”

สีหน้าของชายหนุ่มหม่นหมองเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มขึ้นมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง