โก่เอ๋อกึ่งหลับกึ่งตื่น ใส่ชุดนอนลายการ์ตูนที่ใหญ่กว่าตัวเอง ขยี้ตาตัวเอง แล้วจ้องมองไปยังหวางเฉิงหย่วน “คุณอาหวาง คุณอามาอยู่ที่เมืองเอกได้ยังไง? ฉันกำลังละเม้ออยู่รึเปล่า ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม”
พอหวางเฉิงหย่วนพอเห็นโก่เอ๋อปรากฏออกมา เขาเองก็ตกใจเช่นกัน
“คฤหาสน์บ้านซานนี้ คุณอาเป็นเจ้าของนี่ โก่เอ๋อ ฉันต่างหากที่ควรจะถามหนู ทำไมหนูถึงมาอยู่ที่เมืองเอกได้ล่ะ? แถมยังพักอยู่ที่นี่อีกต่างหาก?”
หวางเฉิงหย่วนพูดไป พร้อมกับหันไปมองหลี่ฝางแวบนึง จากนั้นก็มองโก่เอ๋อแล้วถามด้วยความสงสัย “นี่โก่เอ๋อ หนูกับคุณชายของบ้านตระกูลหลี่ มีความสัมพันธ์กันยังไง?”
โก่เอ๋อหันไปมองหลี่ฝางแวบนึง แล้วพูดว่า “ก็ไม่มีอะไรมาก เขาเป็นนายจ้างของฉัน”
“เจ้านาย ฉันหิวแล้ว ตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่ากินดีอยู่ดี ของกินล่ะ?” มองไปยังหลี่ฝางแวบนึง โก่เอ๋อจับท้องน้อยของตัวเอง พูดด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจ
หลี่ฝางหันไปมองบนโต๊ะกาแฟ นอกจากผลไม้กับขนม ก็ไม่มีอะไรอยู่อีก
“ทำไมเธอถึงเพิ่งลงมากเอาป่านนี้ นี่มันเลยเวลาอาหารเย็นแล้ว” หลี่ฝางพูดอย่างเหนื่อยหน่าย “พอดีว่าฉันเพิ่งไล่ยามกับแม่บ้านของที่นี่ออกในวันนี้พอดี ทั้งคู่โดนไล่ออกพร้มอกัน”
“เธอลองไปดูในห้องครัวหรือตู้เย็นดูสิ ดูว่ามีอะไรกินบ้าง กินรองท้องไปก่อน”
“ถ้าเกิดไม่ไหวงั้นก็ยังมีมาม่าอยู่ไม่ใช่เหรอ? ไปต้มน้ำร้อนเอาเอง แล้วต้มเอาเองเลย กินรองท้องไปก่อน” หลี่ฝางพูดอย่างขอไปที
ใบหน้าของโก่เอ๋อไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร “ก็ได้ เพราะฉันเองก็ไม่ได้หิวสักเท่าไหร่”
โก่เอ๋อเพิ่งก้าวเดินได้ไม่กี่ก้าว จู่ๆก็ร้องตะโกนออกมา
“แม่เจ้า!”
จากนั้นโก่เอ๋อก็เดินถอยหลังด้วยความตกใจ มาอยู่ข้างๆหลี่ฝาง “คน.....นี้.....ตายแล้ว?”
โก่เอ่อมองไปยังหวางต้องที่นอนอยู่บนพื้น กลืนน้ำลายอึดนึง ตบหน้าอกตัวเองแล้วพูดว่า “หลี่ฝาง คุณทำอะไรน่ะ ห้องรับแขกของคุณ ทำไมถึงมีคนตายอยู่ล่ะ”
“ยังไม่รีบยกศพออกไปอีก” โก่เอ๋อทำหน้าตึงเครียด มองไปยังคนรอบๆ
หลี่ฝางยักไหล่เล็กน้อย พูดอย่างทำอะไรไม่ได้ว่า “วางไว้ตรงนี้ก่อนเถอะ ถ้าเกิดฉันยกออกไป คงจะมีบางคนที่ไม่เห็นด้วย”
ถึงแม้โก่เอ๋อเองก็ขวัญเสีย แต่เธอเองก็ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไป กลับมาสงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว
“โก่เอ๋อ หนูอย่ากินม่าเลย หนูอยากกินอะไร เดี๋ยวฉันจะสั่งให้คนทำให้กินเอง” หวางเฉิงหย่วนหันไปมองโก่เอ๋อ พูดด้วยสีหน้าที่ห่วงใย
โก่เอ๋อทำปากมุ่ย สายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ช่างเถอะ กินไม่ลงแล้ว”
“พื้นที่นี่เต็มไปด้วยคราบเลือดของศพๆนี้ คุณอาหวาง ฉันจะกินลงได้ยังไง” โก่เอ๋อพูดด้วยใบหน้าที่ตึงเครียด
“มู่เสี่ยวไป๋ รีบให้คนของคุณ ยกศพออกไปเดี๋ยวนี้ มาวางตรงห้องรับแขกของคนอื่นแบบนี้ มันใช้ได้ที่ไหน ถ้าเกิดทำให้โก่เอ๋อกลัวขึ้นมาจะทำยังไง?” หวางเฉิงหย่วนทำหน้าตึงเครียด พูดด้วยเสียงที่จริงจัง
มู่เสี่ยวไป๋ไม่พอใจเท่าไหร่ แต่มู่เหวินตงก็หันไปบอกคนที่อยู่ข้างหลังว่า “ยกศพออกไปเถอะ”
ฐานะของหวางเฉิงหย่วน มู่เหวินตงเข้าใจดี เขามีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่มาก ไม่แน่บางทีอาจมาจากเมืองหลวง
ธุรกิจครอบครัวของตระกูลหวาง มีอยู่ทั่วประเทศ ไม่ใช่เพียงแค่ครอบคลุมที่นี่ แถมบ้านตระกูลหวางอย่างทำธุรกิจอยู่หลายอย่าง ที่ทำร่วมกับรัฐบาล
งานที่คนทั่วไป ไม่สามารถทำได้ แต่บ้านตระกูลหวางสามารถทำได้
แม้แต่สี่ตระกูลใหญ่ เมื่ออยู่ต่อหน้าของหวางเฉิงหย่วน ก็ยังต้องไว้หน้าเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตระกูลเล็กๆอย่างตระกูลมู่
ตอนนี้ตระกูนจูเก่อตกอยู่ในช่วงวิกฤต เงินที่ครอบครัวของพวกเขาซ่อนเอาไว้ ก็ถูกซุนจิ้นเอาไป
ในตอนนี้ตระกูนจูเก่อ เรียกได้ว่าจบสิ้นแล้ว ต่อให้ต้องบอกว่าเขาเปลี่ยนไปใช้นามสกุลซุน ก็ไม่เกินเลย
เมืองเอกในตอนนี้ เหลือแค่สามตระกูลใหญ่แล้ว บางทีเพราะว่าตระกูลมู่และตระกูลหลี่เป็นศัตรูกัน เพราะงั้นสามตระกูลใหญ่ที่เหลือ จึงต้องการสนับสนุนตระกูลมู่ ให้กลายเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเอก
แต่ไม่ว่าจะยังไง ตระกูลมู่เมื่อเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่ อย่างห่างชั้นกันมาก
สี่ตระกูลใหญ่ยังไม่กล้ามีทักทายอำนาจของหวางเฉิงหย่วน งั้นตระกูลมู่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
มู่เหวินตงจึงได้แต่ทำตามที่หวางเฉิงหย่วนบอก
ศพของหวางต้อง ถูกยกออกมานอกห้องรับแขกอย่างรวดเร็ว
และในเวลานี้เอง ที่มู่เสี่ยวไป๋เดินมาข้างหน้า มองไปยังหวางเฉิงหย่วนแล้วพูดว่า “คุณอาหวาง คงต้องขอให้ท่านคืนความเป็นธรรมให้กับพวกเรา เพื่อนของผมจะตายอย่างนี้ไม่ได้”
“อีกอย่าง ในถิ่นของท่าน มีคนตายเกิดขึ้น คุณก็ควรที่จะ ทำอะไรให้พวกเราสักหน่อย”
มู่เสี่ยวไป๋มองไปยังหวางเฉิงหย่วน พูดออกไปอย่างไม่เกรงใจ
ส่วนคนที่นั่งอยู่ในรถเข็นอย่างมู่เหวินตง กลับพูดว่า “เสี่ยวไป๋ ทำไมถึงพูดกับคุณอาหวางอย่างนั้น ระวังคำพูดหน่อย ฉันรู้ว่าคนที่ตายเป็นเพื่อนของแก แกอารมณ์ไม่ดี แต่เรื่องในครั้งนี้ ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณหวางสักหน่อย? คุณอาหวางเองก็เป็นผู้เสียหาย”
หวางเฉิงหย่วนพอได้ยินคำพูดของมู่เหวินตง ใบหน้าก็ผ่อนคลายลงไม่น้อย เขามองไปยังมู่เหวินตงที่นั่งอยู่บนรถเข็น แล้วพูดว่า “คุณคงจะเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลมู่? ฮ่าๆ ยังดีที่คุณเป็นคนที่รู้งาน แต่ก็น่าเสียดาย ขาของคุณ......”
หวางเฉิงหย่วนพูดไป ถอดหายใจออกด้วยความเสียดาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง