ส้าวส้วยมองชางสู่อย่างสงบนิ่ง ภายในแววตาไม่มีความเกลียดชังและความอาฆาตอยู่เลยแม้แต่น้อย แต่บนใบหน้าของชางสู่ กลับมีแววอาฆาตซ่อนอยู่บ้าง
ถึงแม้มู่เสี่ยวไป๋จะตกใจกลัวจนหนีไป แต่คนก็ยังอยู่
คนพวกนี้ ล้วนเป็นคนของชางสู่ พวกเขาต่างก็มีปืนอยู่ในมือ บวกกับตัวเองเป็นยอดฝีมือ ชางสู่เผชิญหน้ากับส้าวส้วย ก็ไม่ได้ขี้ขลาดอ่อนแอเลย
ถ้าหากต้องการล้างแค้น ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะสำเร็จ
แต่ว่า บนใบหน้าของส้าวส้วย กลับมั่นใจไม่เกรงกลัวใด ๆ เลย
นั่นทำให้ชางสู่ตกใจเล็กน้อย บอกกับวิธีการที่ส้าวส้วยแสดงออกมาเมื่อกี้ ทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาในใจ
ส้าวส้วยที่ดูไม่มีอันตรายใด ๆ ใครจะไปคิดว่าเขาจะเป็นปีศาจที่กลืนกินคนไม่คายกระดูกละ?
“เล่ห์เหลี่ยมวิธีการของนาย ซักจะสกปรกเกินไปแล้ว”
ชางสู่ยิ้มอย่างเหยียดหยามเล็กน้อย เขามองส้าวส้วยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย: “คิดมาตลอดว่านายเป็นยอดฝีมือ คงไม่สนใจที่จะเล่นวิธีสกปรกแบบนี้ แต่คิดไม่ถึงว่า......เหอะ ๆ ”
ชางสู่หัวเราะเหอะ ๆ เขามองส้าวส้วยด้วยความดูถูกเล็กน้อย: “ใครเป็นคนสร้างความหายนะคนนั้นก็เป็นคนรับอย่าไปเดือดร้อนคนอื่น สัจธรรมนี้ นายน่าจะเข้าใจอยู่ไม่ใช่เหรอ?”
“สร้างความหายนะ?”
ส้าวส้วยทำหน้าทะเล้น เขากล่าวอย่างหน้าด้าน ๆ : “ฉันไปสร้างความหายนะให้ใครเหรอ? ฉันก็แค่ให้คนในครอบครัวของมู่เสี่ยวไป โทรหามู่เสี่ยวไป๋เท่านั้นเอง......แกดูสิดึกดื่นแบบนี้ ฝนตกหนักขนาดนี้ คนเฒ่าคนแกบ้านไหนไม่เป็นห่วงลูกหลาน แกว่าใช่ไหมล่ะ?”
“แก......”
ชางสู่กัดฟันกรอด เขาคิดไม่ถึงเลยว่าส้าวส้วยจะหน้าหนาหน้าด้านถึงเช่นนี้
“เฮอะ ถ้าหากในเวลานี้ฉันต้องการแกแค้นให้กับพรรคพวกของฉันล่ะก็ แกคิดว่า แกจะหนีรอดไปได้ไหม?” ชางสู่ทำเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา พลางเอ่ยถาม
ส้าวส้วยมองไปที่หลี่ฝาง กล่าว: “เจ้านาย คุณไปหาพี่หลิงหลง เอาน้ำมาให้ผมสักขวดหน่อย”
หลี่ฝางชะงักไปสักครู่ ในใจคิด นายหิวน้ำแล้วไปเอาเองไม่ได้หรือไง
ใช้เจ้านายของตัวเอง?
ส้าวส้วยคนนี้ บังอาจมากเกินไปจริง ๆ
แต่ว่า หลี่ฝางยังคงเดินเข้าไปหาหลิงหลง แล้วกล่าว: “พี่หลิงหลง มีน้ำไหม?”
“รีบมานี่เร็ว” หลิงหลงส่งสายตาให้กับหลี่ฝาง และดึงหลี่ฝางเข้ามาใกล้ ๆ ตัวเอง
“พี่หลิงหลง ดึงผมทำไมเหรอ?” หลี่ฝางรับรู้ถึงความไม่ปกติ จึงเอ่ยถามอย่างสับสน
“อีกเดี๋ยวก็คุณก็รู้แล้ว”
พี่หลิงหลงกล่าวด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
หลี่ฝางพลันเข้าใจขึ้นมาทันที เขามองพี่หลิงหลงแล้วเอ่ยถาม: “เมื่อกี้ส้าวส้วยเจตนาให้ผมออกมาจากตรงนั้น?”
หลิงหลงพยักหน้า เธอมองหลี่ฝาง: “นายน้อยนับว่ายังไม่โง่สักเท่าไหร่”
“เขาเจตนาให้ผมออกมาจากตรงนั้น หรือว่าเขาจะ” หลี่ฝางขมวดคิ้ว สีหน้าท่าทางลนลานขึ้นมาทันที
“เชรด เขาบ้าไปแล้วเหรอ ในมือของคนพวกนั้น ต่างก็มีปืนนะ......”
หลี่ฝางเข้าใจความหมายของส้าวส้วยขึ้นมาทันที ส้าวส้วยไม่ได้อยากจะดื่มน้ำจริง ๆ หรอก แต่จะเริ่มลงมือปะทะกับชางสู่แล้ว
ชางสู่นั้นฉลาดกว่าหลี่ฝางอีกมาก เพียงแวบเดียวเขาก็เดาเจตนาของส้าวส้วยออก
สี้หน้าของชางสู่พลันเคร่งขรึงลง เขามองส้าวส้วยอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยถาม: “ทำไม หรือว่าแกคิดอยากจะลองดูจริง ๆ ?”
“เหอะ ๆ ต่อให้การเคลื่อนไหวของแกรวดเร็วขนาดไหน หรือว่าจะเร็วไปกว่าลูกกระสุน?”
“ต่อให้ร่างกายของแกแข็งแค่ไหน หรือว่าจะสามารถทำให้ลูกกระสุนยิงไม่เข้า?”
ชางสู่จ้องมองส้าวส้วย ในสายตาเต็มไปด้วยความดูหมิ่นดูแคลน
แต่ส้าวส้วยเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าว: “อีกสักพัก แกก็จะรู้เอง”
“เหอะ ๆ แกคิดว่า ฉันไม่กล้าฆ่าแก ใช่ไหม?” ชางสู่หัวเราอย่างเยือกเย็น
“ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นมาก่อนเลย”
ส้าวส้วยยิ้มตาหยี กล่าว: “ฉันเพียงแค่คิดว่า แกฆ่าฉันไม่ได้เท่านั้นเอง”
ส้าวส้วยกล่าวจบ สีหน้าของชางสู่ ก็เคร่มครึมขึ้นมาทันที
ชางสู่นำพรรคพวกออกมาด้วยสิบกว่าคน และพรรคพวกกลุ่มนี้ ต่างก็มีปืนอยู่ในมือ
ส้าวส้วยเพียงตัวคนเดียว ถึงกับบอกว่าชางสู่ฆ่าเขาไม่ได้ นี่ทำให้ชางสู่รู้สึกตลกขบขันอย่างมากทั้งยังโมโหสุดขีด
“แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร? เทพเหรอ?”
ชางสู่เหน็บแนมด้วยสีหน้าที่เย็นชา
หลังจากนั้น ชางสู่ก็ได้พูดกับพรรคพวกของตัวเอง: “ลงมือ ฆ่ามันให้ตาย”
“ฉันนักว่าแกจะสู้กับฉันสักยกก่อน รอจนแกแพ้ แล้วค่อยให้พี่น้องของแกควักปืนออกมา เหอะ ๆ ” ส้าวส้วยหัวเราะอย่างเหยียดหยาม
“ฉันชอบวิธีที่ง่ายที่สุดน่ะ”
ชางสู่กล่าว: “ฆ่าด้วยปืน มันรวดเร็วดี”
ชางสู่พึ่งพูดจบ คนที่อยู่ด้านหลังของเขากลุ่มนั้น ก็ควักปืนออกมาเสียงดังพรึบพรับ และในขณะที่พวกเขาควักปืนออกมานั้นเอง หลิงหลงพลันขยับอย่างรวดเร็ว แล้วไปปิดไฟลง
ทั่วทั้งร้านกาแฟ มืดมิดขึ้นมาทันที
“เจ้านาย อย่าขยับ”
ในเวลานี้หลิงหลงก็ได้กดบ่าของหลี่ฝางเอาไว้พลางกล่าว: “ขอเพียงคุณไม่ออกไป ฉันสามารถรับประกันความปลอดภัยของคุณได้
หลี่ฝางอืมตอบรับ เขามองเห็นที่ในมือของหลิงหลง ปรากฏรัศมีที่เย็นยะเยือกออกมา คาดว่าจะเป็นมีดเล่มหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง