และหลังจากที่ชางสู่และพรรคพวกหลบหนีไป แสงไปในห้อง ก็พลันสว่างขึ้น
เป็นส้าวส้วยที่เป็นคนเปิด
หลิงหลงถือกาแฟแก้วหนึ่ง แล้วยื่นให้กับส้าวส้วย กล่าว: “เหนื่อยแล้วล่ะสิ ดื่มกาแฟสักแก้ว”
“คืนนี้ได้ดื่มกาแฟไปเยอะแล้ว ขอน้ำให้ผมสักแก้วแล้วกัน” ส้าวส้วยส่ายหัว แล้วกล่าว
หลังจากนั้น หลังจากนั้นหลิงหลงก็มองส้าวส้วยแวบหนึ่ง: “เหอะ ๆ นายเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนไร้เดียงสาแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? นี่มันไม่ใช่นายเลยนะ”
“งั้นผมควรจะเป็นยังไง?” ส้าวส้วยเอ่ยถาม
“ฆ่าอย่างไม่ยั้ง”
หลิงหลงยิ้ม กล้า: “ตามสไตล์ของนาย คนพวกนั้น ควรจะถูกนายฆ่าทั้งหมดถึงจะถูก แต่ว่า นายกลับปล่อยพวกเขาทั้งหมดไป”
“ที่นี่ไม่ใช่ต่างประเทศ” ส้าวส้วยอธิบาย
หลิงหลงกล่าว: “ฉันสามารถจัดการให้สะอาดได้ รับประกันว่าจะไม่มีใครรู้อย่างแน่นอน”
ส้าวส้วยไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่รับน้ำมาจากหลิงหลง แล้วจิบอย่างเบา ๆ
หลี่ฝางมองไปที่บนเคาน์เตอร์ บนเคาน์เตอร์มีปืนหลายกระบอกวางเรียงกันอยู่ และภายในร้านกาแฟ ก็มีร้างไรวิญญาณกองอยู่สองศพ
กระสุนทุกนัด ล้วนถูกยิงเข้าที่หน้าอก จุดสำคัญ
จะว่าไป ชางสู่คนนี้ ก็โหดเหี้ยมไม่เบา
เขาคิดจะเอาชีวิตของส้าวส้วยจริง ๆ
หลี่ฝางมองส้าวส้วยอย่างตะลึงเล็กน้อย แล้วเอ่ยถาม: “นายทำได้ยังไงน่ะ เมื่อกี้ฉันเพียงรู้สึกว่ามีลมพัดผ่าน จากนั้นบนเคาน์เตอร์นี้ ก็มีปืนเพิ่มขึ้นมากระบอกแล้วกระบอกเล่า
หลังจากที่หลี่ฝางพูดจบ ส้าวส้วยเพียงแค่หัวเราะเอิ๊กอ๊าก : “เจ้านาย ผมต้องไปแล้ว”
“อะไรนะ นายต้องไปแล้ว?” หลี่ฝางตะลึงงัน เขาจ้องมองส้าวส้วยพลางเอ่ยถาม: “นายกำลังล้อเล่นกับฉันอยู่ใช่ไหม?”
“ไม่ได้ล้อเล่น ผมต้องจากไปสักระยะจริง ๆ ช่วงเวลาที่ผมไม่อยู่ คุณจะต้องดูแลตัวเองให้ดี อีกอย่าง คุณต้องการแยกตัวออกจากผม แล้วยืนหยัดด้วยตัวเองมาโดยตลอดไม่ใช่เหรอ? นี่ถือว่าเป็นโอกาสพอดี”
ส้าวส้วยกล่าวอย่างยิ้มแย้ม
หลี่ฝางรู้ดีว่าส้าวส้วยไม่ใช่คนที่ชอบเอาเรื่องจริงจังมาล้อเล่น ชั่วขณะนั้น หลี่ฝางก็ถามขึ้นอย่างไม่ค่อยยินดี: “งั้นนายจะกลับมาเมื่อไหร่?”
“อาจจะหนึ่งอาทิตย์ หรืออาจจะหนึ่งเดือน” ส้าวส้วยกล่าวอย่างเรียบ ๆ
“นายจะไปทำอะไรเหรอ?” หลี่ฝางเอ่ยถามขึ้นมา: “บอกได้ไหม?”
“ออกไปกับลูกพี่น่ะ” ส้าวส้วยกล่าว: “แต่จะไปทำอะไรนั้น ตอนนี้ยังบอกคุณไม่ได้”
“นับว่าเป็นเรื่องผดุงคุณธรรมเรื่องหนึ่งก็ว่าได้" ส้าวส้วยกล่าว
“นายกับพ่อของฉันแค่สองคนเหรอ?” หลี่ฝางขมวดคิ้วถาม
“ใช่ แค่พวกเราสองคน” ส้าวส้วยกล่าว: “นี่เป็นภารกิจลับ ถ้าหากสำเร็จ ในมือของพวกเรา จะมีเบี้ยต่อรองเพิ่มขึ้นมาอีก”
“เบี้ยต่อรองอะไร?” หลี่ฝางถามต่อ
“รู้ไม่ว่าอะไรคือการฆ่าคนแล้วได้รับการยกเว้นโทษ?” ส้าวส้วยหัวเราะเอิ๊กอ๊าก: “ถ้าหากการปฏิบัติการของผมและลูกพี่ในครั้งนี้ราบรื่น ก็จะได้รับสิ่งนี้มา”
“เชรด การฆ่าคนแล้วได้รับการยกเว้นโทษ?” หลี่ฝางได้ยินดังนั้น ก็ตกใจทันที
ยังมีของแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ?
ในที่สุดหลี่ฝางก็เข้าใจ ทำไมวันนี้จู่ ๆ ส้าวส้วยถึงได้เปลี่ยนไป ใช้วิธีการที่เด็ดขาด จนทำให้มู่เสี่ยวไป๋หนาวสั่นไปทั้งตัว
ที่แท้ ก็เพราะต้องไปแล้วนี่เอง
ก่อนที่จะไป เขาก็ได้ใช้พลังอำนาจข่มขู่มู่เสี่ยวไป๋ ข่มขู่โดยสิ้นเชิง
หลี่ฝางเอ่ยถาม: “จะไปตอนไหนเหรอ?”
“ตอนนี้เลย” ส่าวส้วยกล่าว: “เดิมทีกะว่าจะไปอย่างเงียบ ๆ แต่คิดไปคิดมาแล้ว บอกคุณสักคำดีกว่า ผมกลัวว่าคุณจะเป็นห่วง”
หลี่ฝางจ้องมองส้าวส้วย และไม่ได้พูดอะไร
ส้าวส้วยหัวเราะเหอะ ๆ โบกมือลา แล้วกล่าว: “ไปล่ะ”
“ผมคิดว่า หลังจากเรื่องในวันนี้ น่าจะไม่มีใครกล้ามาเอาชีวิตคุณอีกแล้ว” ส้าวส้วยกล่าว
รอจนส้าวส้วยเดินไปถึงหน้าประตู หลี่ฝางก็วิ่งตามออกไป แล้วกล่าว: “ฉันไม่ชอบการจากลา จุดจุดนี้ พ่อของฉันรู้ดี ดังนั้นตอนที่เขาจากไป ก็ไม่เคยบอกฉันเลยสักครั้ง”
“ฉันอยากจะบอกกับนายสักประโยค” หลี่ฝางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ กล่าว
“รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี?” ส้าวส้วยเลิกคิ้วขึ้น
หลี่ฝางส่ายหน้า กล่าว: “กลับมาอย่างปลอดภัยพร้อมกับพ่อของฉัน”
“ฆ่าคนแล้วได้รับการยกเว้นโทษอะไรนั่น ต่อให้ไม่เอาก็ได้ จำไว้ รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้สำคัญที่สุด” หลี่ฝางกล่าว
ส้าวส้วยพยักหน้า แล้วเดินออกจากร้านกาแฟไปทันที
เพียงแค่ชั่วเวลาของบุหรี่มวนเดียว ชางสู่และพวก ก็ได้หายไปไม่เหลือแม้เงาแล้ว เป็นที่ประจักษ์ ชางสู่คนนี้ตกใจกลัวจนแทบฉี่ราด
จะว่าไปแล้ว การแสดงออกของส้าวส้วยเมื่อสักครู่นั้น มันช่างแปลกประหลาดจริง ๆ
ไฟปิดลง ราวกับเพชฌฆาตที่สามารถเด็ดหัวของพวกเขาได้ตลอดเวลายังไงอย่างงั้น
ในตอนที่ส้าวส้วยเดินไปถึงข้างทาง รถอาวดี้สีขาวคันหนึ่งก็ขับเข้ามา และรับส้าวส้วยออกไป
หลี่ฝางมองเห็นอย่างชัดเจน คนที่ขับรถ ก็คือพ่อของตัวเอง หลี่ต๋าคางนั่นเอง
แต่ทว่า พ่อของตัวเอง ไม่ได้ชำเลืองตามองตัวสักนิด
บางครั้งหลี่ฝางเองก็ยังสงสัย ว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ ๆ
เขาส่ายหัว จากนั้นหลี่ฝางก็เดินกลับเข้ามาหาหลิงหลง
“พี่หลิงหลง พี่รู้ไหมว่าพวกเขาไปทำอะไรกัน?” หลี่ฝางอยากรู้อยากเห็นจนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
หลิงหลงพยักหน้า
“บอกผมได้ไหม?” หลี่ฝางถามต่อ
“เด็กน้อยรู้มากเกินไป ไม่ใช่เรื่องดีหรอกนะ” หลิงหลงยิ้ม
“มา มาช่วยพี่ทำความสะอาดเร็ว......เฮ้อ เมื่อกี้ยังเตือนพวกคุณอยู่เลย ว่าอย่าทำให้ร้านกาแฟสกปรก เป็นอันขาด คิดไม่ถึง......” หลิงหลงส่ายหน้า จะนับว่าเป็นการเปลี่ยนหัวข้อสนทนาก็ได้
หลังจากนั้น หลี่ฝางและหลิงหลงก็ช่วยกันจัดการกับร่างไร้วิญญาณนั่น
สามสิบนาทีต่อมา ไอ้หน้าหนวดก็พาพรรคพวกมาสองสามคน และนำเอาร่างไร้วิญญาณออกไป
การจากไปของส้าวส้วย สำหรับหลี่ฝางแล้ว ค่อนข้างทำให้เขาไม่เคยชินอยู่สักพัก
แต่ว่า ก็เหมือนกับที่ส้าวส้วยพูด เกรงว่าช่วงเวลาหลังจากนี้ คงไม่มีใครกล้าที่จะลงมือหนัก ๆ กับหลี่ฝาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง