“เมื่อไม่มีวันก่อน มีคนลักลอบข้ามพรมแดนมา คนกลุ่มนั้น แต่ละคนล้วนแต่เป็นผู้ร้ายที่ประเทศต้องการตัว พวกเขาเพิ่งจะลักลอบเข้ามา ก็ถูกคนบางกลุ่มเพ็งเล็งไว้ ต่อมา มีบางคนจัดฉาก ทำให้คนพวกนั้นถูกจับ”
“นายน่าจะจำป๋ายหม่าได้ใช่มั้ย?”
“คนร้ายพวกนั้น มาเพื่อล้างแค้นให้ป๋ายหม่า” โหจื่อพูด
หลี่ฝางขมวดคิ้ว แล้วพูด: “มุ่งหน้ามาทางพวกเราเหรอ?”
“ใช่ เพื่อที่จะรวบผู้ร้ายพวกนั้น มีคนบางคนเอาชีวิตเข้าแลก ดังนั้น คนบางคนมาหาพวกเรา จะให้พวกเราร่วมมือกับพวกเขา จากนั้นก็ไปจัดการองค์กรที่อยู่เบื้องหลังป๋ายหม่า”
“องค์กรนั้นเป็นภัยต่อทั้งโลก ไม่ช้าก็เร็วก็ควรจะถูกทำลาย แต่แค่ ที่กบดานของพวกมัน ลึกลับมากๆ บวกกับที่มีอาวุธปืนเป็นของตัวเอง ดังนั้นจะขุดรากถอนโคน ก็ทำได้ยากเอามากๆ ส่วนลูกพี่ใหญ่กับอาจารย์พวกเขา ก็พอดีได้เข้าไปอยู่ในนั้นได้ประมาณสามปี จึงได้คุ้นเคยกับในนั้นมากๆ ดังนั้น ลูกพี่ใหญ่กับอาจารย์ จึงไปนำทางพวกเขา”
“นำทาง?” หลี่ฝางไม่อยากจะเชื่อ: “แค่นำทางจริงๆ เหรอ?”
“ถึงยังไงปากเขาก็พูดมาแบบนี้ แต่ลูกพี่ใหญ่กับอาจารย์สามารถรอดชีวิตมาจากในนั้นได้ ความสามารถต้องมีแน่นอน คนพวกนั้นรู้ดีอยู่แก่ใจ ถ้าหากจะหาแค่คนนำทาง ก็ไปคว้าคนถิ่นนั้นมา ไม่จำเป็นต้องลำบากมาหาพวกเราจริงมั้ย? นายว่าใช่มั้ย? คนพวกนั้นถึงแม้จะไม่พูดตรงๆ แต่ก็เห็นได้ชัด พวกเขาแค่อยากจะหาผู้ช่วย คนที่สามารถฆ่าศัตรูได้”
“พวกเขา ถือได้ว่าเก็บเพชรได้ มาหาคนถูกแล้ว จากฝีมือของลูกพี่ใหญ่กับอาจารย์ คิดดูแล้วองค์กรนี้ ถึงแม้จะไม่ดับสูญสิ้น แต่ก็ไม่น่าจะเหลืออยู่แล้ว”
“เจ้านาย นายไม่จำเป็นจะต้องกังวลลูกพี่ใหญ่กับอาจารย์เลย นายน่าจะเคยเห็นฝีมือของลูกพี่ใหญ่แล้ว ตอนที่ฉันอยู่ที่ต่างประเทศช่วงนั้น ฉันเจอปรมาจารย์มาทุกประเภท ทหาร ฝีมือของพวกเขาไม่ใช่ย่อยๆ เป็นถึงคนมีชื่อเสียงระดับประเทศ แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าลูกพี่ใหญ่ ก็ไม่มีค่าพอให้เอ่ยถึง”
“ส่วนอาจารย์ของฉัน เป็นลูกบุญธรรมที่สั่งสอนมาด้วยตัวเองที่ลูกพี่ใหญ่พอใจที่สุด”
หลังจากโหจื่อพูดจบ ก็มองหลี่ฝาง และยิ้มอย่างพอใจ: “เจ้านาย ประโยคเมื่อกี้ ล้อกันเล่นใช่มั้ย หรือว่าจริงจัง?”
“ประโยคไหน?” หลี่ฝางถาม
“ลูกชายของหลอซ่าไง ฮ่าๆ ” โหจื่อยิ้ม: “นายรู้มั้ยว่าประโยคนี้หมายความว่ายังไง? หมายความว่านายอยากสืบทอดงานของลูกพี่ใหญ่ เข้าใจมั้ย?”
สีหน้าของหลี่ฝางเลิ่กลั่กเล็กน้อย: “ถึงแม้ฉันจะอยาก แต่ฉันก็ไม่มีความสามารถนั้น”
“ไม่ว่าเรื่องอะไร ก็เรียนกันได้ แล้วก็ที่นายถือปืนเมื่อกี้ ฉันก็เห็นเงาของลูกพี่ใหญ่ ออกมาจากตัวนายจริงๆ ฉันเชื่อว่า ขอแค่นายกล้า หลังจากวันนี้ ก็สามารถกลายเป็นบุคคลอย่างลูกพี่ใหญ่ได้”
โหจื่อมองหลี่ฝางพลางพูด
“ใช่แล้ว ฉันพานายไปRecalling the pastดีกว่า” โหจื่อก็ลากหลี่ฝาง ไปตงไห่
กิจการของRecalling the past ยังคงมาแรง ไม่เจอกันหลายวัน หน้าของถังหยู่ซวน ก็เกรี้ยวกราดขึ้นนิดนึง
เมื่อเห็นรอยแผลเป็นบนคอ หลี่ฝางก็เข้าไปถาม: “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“ถูกหมาป่าข่วน” ถังหยู่ซวนยิ้ม แล้วพูดอย่างเรื่อยเปื่อย
“หมาป่า?” หลี่ฝางเบิกตากว้าง พลางมองถังหยู่ซวน
“สองวันก่อนอาจารย์ผลักผมลงไปในหุบเขา ให้ผมใช้ชีวิตในป่า ผมก็คิดไม่ถึง ในหุบเขานั้นจะมีหมาป่า ยังดีที่บนตัวยังมีมีดเล่มนึง ถ้าไม่อย่างนั้น ผมคงกลายเป็นอาหารค่ำของหมาป่าไปแล้ว” ถังหยู่ซวนนึกถึง ใบหน้าก็ซับซ้อนพลางพูด
“หมาป่าภูเขานั่น เป็นฉันเองที่จับไปปล่อย” โหจื่อหัวเราะเหอะๆ พลางพูด
ถังหยู่ซวนได้ยินแบบนี้ สายตาที่มองโหจื่อ ก็เต็มไปด้วยความแค้น แต่แล้วก็จางหายไป
“หมาป่าตัวนั้นเกือบจะเอาชีวิตผมไปแล้ว” ถังหยู่ซวนบ่นใส่โหจื่อ
โหจื่อหัวเราะเหอะๆ : “เหรอ? ฉันรู้แค่ว่า ตอนที่นายกลับมาบอกฉันว่า เนื้อหมาป่าอร่อยมาก ยังเอามาให้ฉันชิ้นนึงด้วย” ถังหยู่ซวนเกือบจะตีโหจื่อแล้ว
“เอาล่ะ ไม่ต้องบ่นแล้ว อาจารย์มีของจะให้” โหจื่อพูด แล้วยื่นปืนหนึ่งกระบอกให้ถังหยู่ซวน
ปืนกระบอกนี้ เป็นปืนพกทอง
ปืนทั้งกระบอกทำมาจากทองคำ แม้แต่กระสุน ก็ยังเป็นทองคำ
ทั้งโลกนี้เป็นรุ่นลิมิเต็ด มีแค่สองกระบอก หลี่ฝางมองโหจื่อตาปริบๆ คนหงกๆ อย่างโหจื่อ ทำไมจู่ๆ ก็ใจกว้างขนาดนี้?
กำลังแสดงความรู้สึกผิดเหรอ?
“ขอบคุณครับอาจารย์” นัยน์ตาของถังหยู่ซวน แสดงให้เห็นถึงความตื่นเต้น
หลี่ฝางมองถังหยู่ซวน แล้วพูด: “นายรู้ประวัติของปืนกระบอกนี้หรือเปล่า?”
ถังหยู่ซวนพยักหน้าอย่างตื่นเต้น: “อาจารย์พูดให้ผมฟังสามสิบกว่ารอบได้”
“เวลาครึ่งเดือน” ครู่นึง ถังหยู่ซวนก็พูดเสริม
“เหมือนว่าทุกครั้งที่ดื่มเหล้า เขาก็พูดถึงยาวเลย” ถังหยู่ซวนดีใจจนอดไม่ไหว
“เอาล่ะ ไปซะ ที่นี่ไม่ต้องการนายแล้ว นี่เป็นหนังสือแจ้งของนาย” โหจื่อยื่นสมุดเล่มสีแดงๆ ให้กับถังหยู่ซวน
ด้านบนสมุดเล่มแดง เขียนว่ามหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ตัวใหญ่ๆ
ถังหยู่ซวนมองโหจื่อ และก็นิ่งไปล็อก “อาจารย์ นี่หมายความว่าอะไร?”
“ไปเรียนเป็นเพื่อนเจ้านาย ข้างกายเขา ต้องการคนเรียนเป็นเพื่อน” โหจื่อหัวเราะเหอะๆ แล้วเดินเข้าไปในบาร์
ถังหยู่ซวนมองหลี่ฝาง: “หลี่ฝาง สาวๆ มหาลัย สวยมั้ย? จีบง่ายมั้ย?”
“ไปดูเองแล้วกัน”
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วเดินเข้าไปในรถของถังหยู่ซวน
เป็นรถฟอร์ดสีแดงหนึ่งคัน เป็นรถมือสอง หลี่ฝางมองถังหยู่ซวน แล้วพูด: “ใช่แล้ว ปิงปิงล่ะ?”
“ไปแล้ว หนีตามลุงหัวล้านไปแล้ว”
ถังหยู่ซวนหัวเราะเหอะๆ สีหน้าดูเหงาๆ เล็กน้อย: “เด็กไม่ใช่ของฉัน ตอนที่คบกับฉัน หล่อนแอบไปนอนกับผู้ชายอีกสามคน”
“นายมีโอกาสหนึ่งในสี่ที่จะเป็นพ่อเด็ก?” หลี่ฝางพูดเยาะเย้ย
“หนึ่งในสี่บ้านแม่หล่อนสิ” ถังหยู่ซวนด่าขึ้น แล้วก็ออกรถ มุ่งหน้าไปทางเมืองเอก
ในตอนนั้น ก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา
“คุณชายหลี่ ผมคือฉินเสี่ยวหู่ ผมขอถามอะไรหน่อย หลังจากนี้ ผมยังต้องไปเป็นตัวแทนประธานกรรมการบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปมั้ย?” ฉินเสี่ยวหู่ถามขึ้นอย่างระมัดระวัง
“ควรจะทำอะไร ก็ทำไป ตอนเจอฉันด้วย อย่าเห็นฉันเป็นเจ้านาย ให้เห็นฉันเป็นศัตรู ถ้าไม่อย่างนั้น นายยังไม่ทันได้ทำหน้าที่สายลับ ก็คงถูกมู่หรงฉางเฟิงสอยหัวไปแล้ว เข้าใจมั้ย?” หลี่ฝางพูดอย่างเย็นชา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง