ถังหยู่ซวนแม้แต่ถามก็ไม่ได้ถาม ก็ชักมีดออกมา แล้วพุ่งเข้าไปลอบทำร้ายชายสวมสูทสองคนนั้น
ตอนนั้น หลี่ฝางยังไม่รู้สึกตัว แม้แต่ชายสวมสูทสองคนนั้น ก็ยังตกใจ
ถังหยู่ซวนใช้มีดฟันเข้าไป ที่คอของชายสวมสูทคนนึง ต่อมา เลือดคาวๆ ก็พุ่งออกมาจากคอของเขา
หลี่ฝางช็อก ส่วนตาของถังหยู่ซวน ก็จ้องไปที่ชายสวมสูทอีกคนนึง
“สถานการณ์ไหนเหนี่ย?” หลี่ฝางเดินออกมาจากลิฟต์ แล้วถามถังหยู่ซวน
“สัญชาตญาณ มันบอกฉันว่า สองคนนี้ เป็นศัตรูของพวกเราในวันนี้”
ถังหยู่ซวนรู้ ชายสวมสูทสองคนนี้ รับมือได้ยากกว่า รปภ.ที่เฝ้าประตูมาก ถ้าหากไม่เริ่มลอบทำร้ายก่อน อีกครู่นึงสู้กันขึ้นมา ตนอาจจะรับมือไม่ไหว
“พวกนายเป็นใครกัน?” ชายสวมสูทที่ไม่ได้บาดเจ็บ เอ่ยปากถาม
ถังหยู่ซวนฉีกยิ้ม: “แขกที่ไม่ได้รับเชิญ”
“แขกที่ไม่ได้รับเชิญ? ทำไมต้องทำร้ายเพื่อนฉัน” ชายสวมสูทถามต่อ แต่ว่าน้ำเสียงก็เย็นชาลงไปไม่น้อย
“ช่วยไม่ได้ พวกนายสองคน ฉันสามารถจัดการได้แค่หนึ่งต่อหนึ่ง ดังนั้น ฉันแค่จัดการคนใดคนนึงก่อน บอกให้เพื่อนนายรีบไปโรงพยาบาลเถอะ ถ้าหากไปตอนนี้ เขาอาจจะไม่มีอันตรายถึงชีวิต ถ้าหากช้ากว่านี้อีกสามถึงห้านาทีล่ะก็ ฉันอาจจะโดนข้อหาฆ่าคนตายเลยนะ” ถังหยู่ซวนยิ้มอย่างเย็นชา
เมื่อถังหยู่ซวนพูดจบ ชายสวมสูทที่ได้รับบาดเจ็บ ก็รีบวิ่งขึ้นลิฟต์ไป ไม่พูดอะไรสักคำ
ถึงยังไง คนก็กลัวตายกันทั้งนั้น
แล้วก็หลอดเลือดที่คอ ถูกปาด นั่นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย
หลังจากเหลือชายสวมสูทแค่คนเดียว สีหน้าของเขา ก็ดูสงสัยไม่น้อย ถึงแม้ถังหยู่ซวนดูไปแล้วอายุเพิ่งจะยี่สิบต้นๆ แต่ฝีมือเมื่อกี้ สามารถบอกได้เลยว่าเขาไม่ใช่ย่อยๆ เลย
“หลี่ฝาง นายไปเถอะ” ถังหยู่ซวนพูดเสียงเบา
หลี่ฝางพูดอืม แล้วพูดว่า: “ระวังตัวด้วยนะ”
ในตอนนี้หลี่ฝางเพิ่งจะเข้าใจ ว่าตนกับถังหยู่ซวน ค่อยอยู่กันคนละโลกแล้ว ตนอยู่ต่อ ไม่ใช่แค่ช่วยถังหยู่ซวนไม่ได้ แถมยังจะเป็นตัวถ่วงเขาอีก
ดังนั้น หลี่ฝางจึงไม่ได้ลังเลอะไร แค่หันหลังแล้วเดินไป
และในตอนนั้น ถังหยู่ซวนกับชายสวมสูทคนนั้น ก็สู้กัน
หลี่ฝางไม่ได้ดูเขาสู้กัน แต่วิ่งตรงไป ยังห้องประชุม
เมื่อวิ่งมาถึงหน้าประตูห้องประชุม หลี่ฝางก็เห็นฉินเสี่ยวหู่กำลังว่ากล่าวฉินซ่างเสียน
“คุณอา อาหมายความว่าไง? เมื่อคืน อายังตอบตกลงผมชัดเจนเลยนี่ ทำไมวันนี้ถึงได้กลับกลอกแบบนี้?” ฉินเสี่ยวหู่ชี้หน้าฉินซ่างเสียน แล้วพูดเสียงเย็นชา
ฉินซ่างเสียนก้มหน้า ไม่กล้าพูดสักคำ
คนอื่นที่เห็นภาพนี้ ใครจะคิดว่าฉินซ่างเสียนเป็นอาของฉินเสี่ยวหู่กัน?
ถูกคนสั่งสอนอย่างกับหมาตัวนึง ฉินเสี่ยวหู่หัวเราะอย่างเย็นชา: “ทำไม ต้องให้ผมโทรหาคุณชายมู่หรงมั้ย? ให้บนตัวของพี่รอง มีรอยแผลเพิ่มอีกสักที่สองที่”
“ไม่ต้อง ไม่ต้อง” ฉินซ่างเสียนส่ายหัวทันที: “เธอเป็นพี่รองของนายนะ”
“ใช้สายสัมพันธ์ครอบครัวให้มันน้อยๆ หน่อย ผมคนนี้ ดูแค่เงิน ไม่ดูคน ถ้าอาไม่เซ็น ผู้ถือหุ้นเก่าแก่ในนี้ ก็จะไม่เซ็นตามอา งั้นแผนของผม ก็พังหมดน่ะสิ”
ฉินเสี่ยวหู่มองฉินซ่างเสียน แล้วถามเสียงเย็นชา: “ทำไม จะหลอกผมเล่นเหรอ?”
ในตอนนั้นหลี่ฝาง ก็กระแอมขึ้น ฉินเสี่ยวหู่เห็นหลี่ฝาง สายตาของฉินเสี่ยวหู่ก็ไม่ปกติ ส่วนสายตาที่ฉินซ่างเสียนมองตน ราวกับเจอผู้ช่วยชีวิตอย่างนั้นแหละ
หลี่ฝางยิ้ม แล้วพูด: “ฉินเสี่ยวหู่ เก่งแล้วนี่ แม้แต่อาของตัวเองยังสั่งสอนได้”
สีหน้าของฉินเสี่ยวหู่เลิ่กลั่กเล็กน้อย แต่หลังจากบังคับใจตัวเองได้ เขาก็พูดด้วยสีหน้าเย็นชา: “คุณชายหลี่ ทำไมจู่ๆ ก็มาถึงบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปของพวกเราได้ล่ะ?”
“ไปคุยด้านใน”
หลี่ฝางขี้เกียจอธิบายกับฉินเสี่ยวหู่แบบส่วนตัว
หลี่ฝางเปิดประตูห้องประชุม แล้วก็เดินตรงไป นั่งลงตรงที่นั่ง
“ไอ้เด็กนี่เป็นใคร?”
“ทำไมเขาถึงได้มาประชุมบอร์ดบริหารล่ะ? หรือว่า เขาจะเป็นกรรมการของบอร์ดบริหารคนนึง?”
หลังจากหลี่ฝางนั่งลง คนด้านในห้องประชุม ก็เริ่มพูดซุบซิบขึ้น
ส่วนฉินเสี่ยวหู่กับฉินซ่างเสียนก็เดินเข้ามาในตอนนี้ หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วถามฉินซ่างเสียน: “คุณลุงฉิน รบกวนคุณลงแนะนำผม ให้ทุกคนได้รู้จักหน่อยครับ”
“ซ่างเสียน ไอ้หนุ่มนี่เป็นใครกัน?” ทุกคนถามอย่างอยากรู้
ฉินซ่างเสียนกลืนน้ำลาย แล้วพูด: “เขาคือหลี่ฝาง คุณชายหลี่ ตระกูลหลี่แห่งบ้านพักตากอากาศ ฉันคิดว่าทุกคนคงรู้จักแล้ว”
“ที่แท้เป็นคุณชายหลี่นี่เอง ดูสง่างามแบบนี้เลย ดูเป็นคนมีความสามารถจริงๆ ”
หลังจากได้รู้ฐานะของหลี่ฝางแล้ว สายตาที่มองหลี่ฝางก็ดูเป็นมิตรขึ้นกันทุกคน
ฉินเสี่ยวหู่มองหลี่ฝาง แล้วถามอย่างเย็นชา: “คุณชายหลี่ สรุปแล้วคุณมาทำอะไรกันแน่? ที่นี่เป็นการประชุมใหญ่ของกรรมการผู้ถือหุ้นของฉินซื่อกรุ๊ปนะ คุณมีสิทธิ์อะไรเข้ามา?”
“ใครบอกนาย ว่าฉันไม่ใช่ผู้ถือหุ้นของฉินซื่อกรุ๊ปล่ะ?” หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วพูด: “ฉันไม่ได้เป็นแค่ผู้ถือหุ้นของฉินซื่อกรุ๊ป แถมฉันยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดด้วย”
“ถ้าหากนายไม่เชื่อ ก็ถามคุณอานายดู”
หลี่ฝางเหลือบมองฉินซ่างเสียน แล้วพูด
สายตาของทุกคน จับจ้องไปที่ฉินซ่างเสียน รอให้เขาตอบ
“ถูกแล้ว เมื่อคืน ลูกสาวของฉันฉินวี่เฟย หรือก็คือประธานกรรมการบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ได้ลงชื่อยินยอมเอาหุ้นทั้งหมดที่มี โอนให้กับหลี่ฝาง หรือคุณชายหลี่ทั้งหมดแล้ว”
ฉินซ่างเสียนพูดอย่างนิ่งๆ
เมื่อพูดออกไป ใบหน้าของทุกคน ก็โมโห
ทั้งห้องประชุมวุ่นวายไปหมด
หน้าของฉินเสี่ยวหู่ โกรธจนหน้าเขียว เขากัดฟันกรอด แล้วพูดอย่างเย็นชา: “หมายความว่าไง? เช้าวันนี้ น้องวี่เฟยเพิ่งเซ็นมอบอำนาจ ให้ฉันเป็นตัวแทนประธาน หรือว่า......”
“ไม่ต้องมาหรือว่าแล้ว เมื่อคืน ฉินวี่เฟยก็ไม่ใช่ประธานกรรมการบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปแล้ว ดังนั้นสิทธิ์ของเธอในเช้าของวันนี้ ก็ถือว่าเป็นโมฆะ”
หลี่ฝางพูด แล้วหยิบสัญญาฉบับนึงออกมา ยื่นให้ทุกคน วนกันดูรอบนึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง