“ส่งตัวฉินหยีหรันให้นาย?”
หน้าของมู่หรงฉางเฟิง ชะงักเล็กน้อย ต่อมาก็หัวเราะลั่น: “คุณชายหลี่ สมองคุณดีอยู่ใช่มั้ย? ฉินหยีหรันเป็นภรรยาของฉัน กลางวันแสกๆ คุณวิ่งมาหาฉัน เพื่อจะมาเอาตัวภรรยาฉันไป?”
“เช้านี้ไม่ได้กินยามาเหรอ?”
มู่หรงฉางเฟิงหัวเราะอย่างเย็นชา แล้วเหลือมองซือถูเฟย และถาม: “นายว่าเขาบ้ามั้ย?”
“บ้ามากๆ ด้วย” ซือถูเฟยพูดตาม
มู่หรงฉางเฟิงก็ยกแล้ว แล้วชนกับซือถูเฟย และพูด: “มา ดื่ม”
หลี่ฝางหรี่ตา พลางมองมู่หรงฉางเฟิง แล้วถาม: “ถึงยังไงหล่อนก็เป็นภรรยานายมาแล้วหลายปี นายยังคิดที่จะส่งหล่อนไปที่นั่นอีกเหรอ?”
สีหน้าของมู่หรงฉางเฟิงชะงักอยู่ครู่ มองหลี่ฝาง พลางพลางยิ้มส่ายหัว แล้วพูด: “เห็นทีไอ้แก่นั่น คงจะปากมากให้นายฟังเยอะเลยสิ”
มู่หรงฉางเฟิงคีบซิก้าร์มาให้ตัวเอง แล้วสูดเข้าไปลึกๆ และพูด: “งั้นไอ้แก่นั่นก็ให้นายมาใช่มั้ย? แต่ว่าเขาหามาผิดคนแล้ว พวกเราแม้แต่เพื่อนยังเป็นไม่ได้เลย ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนไม่มีเลยสักนิด ให้นายมา? เหอะๆ ตลกจริงๆ นายคิดว่า ฉันจะฟังนายเหรอ? หรือว่า ฐานะของนายคุณชายหลี่มันสูงส่งนักเหรอ ฉันมู่หรงฉางเฟิงถึงต้องไว้หน้านาย?”
“ที่จริง ฉันคิดว่าจะส่งหล่อนไปที่ชั้นใต้ดินชั้นที่หนึ่งพอ ตอนนี้เห็นที รอให้ได้สัมผัสชั้นที่หนึ่งเรียบร้อยแล้ว แล้วค่อยส่งยัยกะหรี่นั่น ไปชั้นใต้ดินชั้นที่สองต่อเลยดีกว่า”
มู่หรงฉางเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา
ชั้นใต้ดินชั้นที่สอง?
หลี่ฝางคาดไม่ถึง ใต้ดินของสโมสรเจียงหนาน ตกลงแล้วมีกี่ชั้นกันแน่?
“กะหรี่? ฉินหยีหรันเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของนายนะ ถ้าหากเรื่องนี้แพร่ออกไป หรือว่ามันจะไม่มีผลกระทบต่อชื่อเสียงของนายเหรอ?” หลี่ฝางขมวดคิ้วพลางถาม
“ชื่อเสียง? ฉันมีชื่อเสียงที่ไหนกัน ทั้งเมืองเอก คนที่รู้จักฉันมู่หรงฉางเฟิง ก็มีไม่กี่คน ก็แค่แวดวงลูกคนรวยแค่นั้น แล้วก็คนพวกนี้ มีใครกล้าเหยียดหยามฉัน? ก็คงมีแค่นายคุณชายหลี่มั้ง?”
“แล้วก็ผู้หญิงคนนั้น ถึงแม้จะเป็นภรรยาของฉัน นอนเตียงเดียวกันทุกวัน แต่ฉันไม่เคยแตะต้องหล่อนเลย รู้มั้ยว่าทำไม? ก็เพราะว่าหล่อนสกปรกไง ก่อนหน้าที่จะแต่งงานกับฉัน หล่อนก็เอาครั้งแรกของตัวเอง ไปให้ยาจกคนนึง กะหรี่แบบนี้ กลับยอมเอาของที่มีค่าที่สุดของตัวเอง ไปให้ไอ้ยาจกคนนึง ไม่ให้ฉัน ผู้หญิงแบบนี้ หรือว่าไม่ใช่กะหรี่เหรอ? ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าตระกูลฉินเป็นแรงให้ตระกูลมู่หรงของเรามาตลอด ถ้าหากตอนนั้นนายท่านฉินไม่ได้ช่วยพวกเราสี่ตระกูลใหญ่ ช่วยพวกเราจับพ่อของนายหลอซ่า ยัยกะหรี่นั่น คงโดนฉันฆ่าตายไปนานแล้ว”
พูดแล้ว มู่หรงฉางเฟิงไม่ได้ชอบฉินหยีหรันแม้สักนิดเดียว หลายปีที่ผ่านมา เขาก็แค่อดทนไว้เท่านั้น
เห็นแบบนี้ ฉินหยีหรันที่อยู่ตระกูลมู่หรงถูกเอ็นดู มู่หรงฉางเฟิงไม่ได้ทำให้หล่อนลำบากใจเลยแม้แต่น้อย ความจริงแล้ว มู่หรงฉางเฟิงทำให้นายท่านฉินเห็นเท่านั้น
วันนี้นายท่านฉินตายแล้ว มู่หรงฉางเฟิงก็ไม่จำเป็นจะต้องไว้หน้าใครแล้ว
“หลี่ฝาง นี่เป็นเรื่องในครอบครัวฉัน ทางที่ดีนายอย่าเข้ามายุ่ง แล้วก็ คงไม่มีทางให้นายได้ยื่นมือมายุ่ง”
มู่หรงฉางเฟิงมองหลี่ฝาง แล้วพูดอย่างเย็นชา: “หลี่ฝาง นายอย่าคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าจะได้มั้ย? เรื่องอะไรก็ต้องให้นายเข้ามายุ่ง นายมีความสามารถนั้นเหรอ?”
“ถ้าหากฉันบอกนายว่า เรื่องนี้ ฉันจะยุ่งล่ะ?” หลี่ฝางขมวดคิ้วพลางพูด
มู่หรงฉางเฟิงหัวเราะเหอะๆ แล้วพูดอย่างไม่แคร์: “งั้นก็แล้วแต่ นายก็รู้แล้วนิว่าฉินหยีหรันไปไหน งั้นนายก็ไปช่วยหล่อนเถอะ ขอแค่นายสามารถช่วยหล่อนออกมาได้ งั้นผู้หญิงคนนั้น ฉันก็ยกให้นายแล้วกัน ถึงตอนนั้น ฉินวี่เฟยกับฉินหยีหรันพี่น้องสาวสวยคู่นี้ ก็จะเป็นของนายทั้งคู่ มันส์ดีจริงๆ ”
“ที่จริงแล้ว เมื่อก่อนฉันคิดมาตลอด ว่าถ้ามีโอกาส ฉันควรจะรับทั้งฉินวี่เฟยและฉินหยีหรันมาไว้ในสต๊อก แต่หลังจากที่ฉันเห็นว่าฉินวี่เฟยสนิทกับคุณชายหลี่แล้ว ความคิดแบบนั้น มันยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก”
จู่ๆ มู่หรงฉางเฟิงก็ฉีกยิ้มอย่างชั่วร้าย: “อยากให้ฉันปล่อยฉินหยีหรัน ได้สิ บนโลกนี้ ใครก็ขอร้องฉันไม่ได้ มีแค่คนเดียว นั่นก็คือฉินวี่เฟย”
“เอางี้ ฉันโทรหาฉินวี่เฟยดู ถามว่าหล่อนยินยอมมั้ย?”
มู่หรงฉางเฟิงพูด พลางควักโทรศัพท์ แล้วก็กดเบอร์ของฉินวี่เฟย และโทรออก
หลังจากหลี่ฝางได้เห็น หัวก็ร้อน เขากำหมัด แล้วชกเข้าไป ที่หน้าของมู่หรงฉางเฟิง
แต่ว่ามู่หรงฉางเฟิงก็เตรียมรับมือไว้ก่อนแล้ว เขาใช้มือนึงจับโทรศัพท์ ส่วนอีกมือก็ยกขึ้นมา แล้วจับแขนของหลี่ฝาง ไว้อย่างแน่น
ในตอนนี้สายก็ติด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง