ไม่นาน ลุงเฉียนก็เดินเข้ามาในห้อง
ลุงเฉียนมองแม่มด แล้วถามอย่างเป็นห่วง “แม่มดเป็นยังไงบ้าง? ขาไม่เป็นอะไรมากแล้วใช่ไหม?”
“รักษาตัวไม่กี่วันก็หายค่ะ” แม่มดตอบ
“เพียงแต่…”
แม่มดหัวเราะเหอะ พูดด้วยความรู้สึกผิด “ฉันกับโหจื่อเข้าไปเสียเที่ยว ไม่ได้เห็นแม้แต่เงาของลูกค้าที่อยู่ชั้น-3”
ลุงเฉียนส่ายหน้า “ฉันไม่โทษพวกเธอหรอก พวกลูกค้าใน-3ไม่ใช่คนที่พวกเธอจะเข้าไปกระตุกหนวดได้ตั้งแต่แรก”
“ขนาดลูกพี่ใหญ่ยังไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้ง่ายๆ”
“ความจริงครั้งก่อนตอนที่ลูกพี่ใหญ่บุกเข้าไป ก็เข้าไปถึงชั้นสี่เท่านั้น แต่ไม่ได้เจอกับลูกค้าที่อยู่ในชั้นนั้น”
ลุงเฉียนพูดจบ ทั้งโหจื่อและแม่มดต่างก็เบิกตากว้าง
“ไม่ต้องตกอกตกใจ -2มีนักฆ่าฝีมือดีประจำการอยู่สองคน แม่มดเธอคงจะประมือกับพวกนั้นแล้วสินะ?” ลุงเฉียนมองหน้าแม่มด “เธอคิดว่าฝีมือของพวกนั้นถ้าเทียบกับส้าวส้วยแล้วเป็นยังไง?”
“พอๆกัน”
แม่มดพูดจบ ก็เสริมต่ออีกประโยค “แต่ฉันคิดว่า ถ้าเขาสองคนสู้กันจริงๆ ส้าวส้วยน่าจะเป็นฝ่ายชนะ”
“ทำไมคิดแบบนั้น?” ลุงเฉียนหัวเราะ
“เพราะฉันรู้สึกได้ว่าทุกครั้งที่เราสู้กัน ส้าวส้วยจะออมมือให้ฉันอยู่ตลอด” ใบหน้าของแม่มดแดงระเรื่อ
ลุงเฉียนยิ้มบาง “เธอคงจะยังไม่เคยเห็นฝีมือจริงๆของส้าวส้วยสินะ”
“สามปีมานี้ เขาได้รับการฝึกฝนเช่นเดียวกับลูกพี่ใหญ่ ฝีมือที่แท้จริงของเขาเก่งกาจมากขนาดไหน แม้แต่ฉันเองก็ยังไม่เคยเห็น”
“แต่ก่อนหน้านี้ สำนักหยิ่งซาเคยส่งสี่ผีแห่งเจียงหนานมาหยั่งเชิงฝีมือของลูกพี่ใหญ่ แต่รู้ไหมว่าจุดจบของทั้งสี่ผีเป็นยังไง?” ลุงเฉียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยถามแม่มด
สายตาของแม่มดรอคำตอบลุงเฉียนอย่างใจจดใจจ่อ
“สี่ผีแห่งเจียงหนานรวมพลังกัน กลับโดนส้าวส้วยฆ่าตายภายในเวลาไม่ถึงสามนาที” ลุงเฉียนพูดเสียงเรียบ
แม่มดเบิกตากว้าง “สี่ผีแห่งสำนักหยิ่งซา?ตายแล้ว?”
“พวกมันไล่ล่าเราอยู่นานหลายปี หลายครั้งที่ฉันเกือบจะต้องตายด้วยน้ำมือของพวกมัน” แม่มดกลืนน้ำลาย พูดด้วยท่าทีสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“คิดไม่ถึงว่าพวกมันจะตายด้วยกำมือของส้าวส้วย”
“มิหนำซ้ำ ยังตายทั้งๆที่รวมพลังกันสู้…”
“แต่ถึงพวกมันจะสู้ไม่ไหว ก็ไม่น่าจะถึงกับหนีไม่รอดนี่คะ?”
แม่มดไม่ค่อยอยากจะเชื่อหูนัก
ตอนที่อยู่ต่างประเทศ แม่มดได้มีโอกาสประลองมือกับส้าวส้วยอยู่หลายครั้ง และทุกครั้งถึงแม้ว่าแม่มดจะไม่ชนะ แต่ก็ไม่แพ้พ่ายแพ้จนยับเยินขนาดนั้น
เธอมักจะแพ้ให้เขาในช่วงครึ่งหลัง
แต่วันนี้ได้ยินที่ลุงเฉียนพูด แม่มดถึงได้เข้าใจ ที่ผ่านมาส้าวส้วยไม่ได้มองว่าเธอเป็นคู่ฝึกซ้อมสักนิด แต่เขาแค่กำลังหยอกล้อเธอก็เท่านั้น
ทุกครั้งเขาจะชอบพูดว่าออกแรงเต็มกำลังแล้ว นั่นหรอที่เรียกว่าเต็มกำลัง?
เต็มกำลังที่ว่า สามารถจัดการสี่ผีแห่งเจียงหนานภายในสามนาทีน่ะหรอ?
แม่มดรู้ดี หากสี่ผีรวมมือกันสู้ขึ้นมาล่ะก็ ตัวเธอแค่หนีตายมาได้ก็นับว่าเป็นบุญโข
“แน่นอนว่าพวกมันก็พยายามจะหนี แต่ส้าวส้วยไม่ให้พวกมันได้มีโอกาสแม้แต่จะทำแบบนั้น” ลุงเฉียนตอบ
สยอง!
ทันใดนั้นแม่มดก็ได้ความรู้ใหม่เกี่ยวกับระดับฝีมือของส้าวส้วย
“งั้นตอนนี้ฉันจะเปลี่ยนคำถาม เธอคิดว่าคนที่-2กับสี่ผีแห่งเจียงหนาน ใครเก่งกาจกว่า?” ลุงเฉียนถามอีกครั้ง
“ถ้าสี่ผีมาพร้อมกัน ก็ต้องเป็นพวกเขาสี่คนเก่งกว่าหน่อย” แม่มดตอบ
“ไม่น่าจะหน่อยมั้ง? ฉันรู้มาว่าตอนที่เธอเผชิญหน้ากับนักฆ่าที่ชั้น-2 เธอไปด้วยมือเปล่า ถ้าตอนนั้นเธอมีอาวุธติดตัว เธอคงจะไม่พ่ายแพ้จนร่างกายสาหัสมากขนาดนี้”
“แต่ถ้าเผชิญหน้ากับสี่ผี ต่อให้ทั้งตัวเธอจะพกอาวุธไปมากขนาดไหนก็ไม่มีประโยชน์”
ลุงเฉียนพูดจบ แม่มดก็พยักหน้าคิดตามเห็นด้วยกับที่ลุงเฉียนพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง