เวลาเพิ่งจะผ่านไปไม่เท่าไหร่ ด้านหน้าประตูของสถานตากอากาศก็มีคนมากหน้าหลายตายืนอยู่เต็มไปหมด
มีคนจำนวนไม่น้อยในนั้น ที่หลี่ฝางเคยเจอมามาแล้ว
ลุงเฉียนเดินไปถึงหน้าประตู แล้วกระซิบถามหน้าหนวด “สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”
“อีกฝ่ายจะลองเจรจาก่อนลงมือครับ ลุงเฉียนคนพวกนี้เป็นคนคุ้นเคยของลุง อีกทั้งทุกคนในตระกูลเฉียนก็มารวมตัวกันหมดแล้ว คาดว่าไม้แรกของพวกเขาก็คงเป็นการอาศัยความผูกพันธ์ของลุงมาสู้แล้วล่ะ” หน้าหนวดพูดขำๆ
“ถ้าต้องเผชิญหน้ากับคนพวกนี้ ผมไม่สะดวกจะใช้ความรุนแรง เพราะงั้นผมเลยต้องเรียกคุณออกมา” หน้าหนวดยิ้มฝืน
ลุงเฉียนพยักหน้านิดหน่อย “อืม นายพาคนไปตรวจดูหน่อย ได้ยินว่ามีคนบุกเข้ามาจากทางภูเขาด้านหลัง”
“ครับ”
หน้าหนวดพยักหน้า “ผมจะลาดตระเวนรอบนึง แล้วจะรีบกลับมาครับ”
“ห่างออกไปสองร้อยเมตร มีนักฆ่าฝีมือดีร้อยกว่าคน” หน้าหนวดพูด “พวกมันหลบหัวอยู่ในรถ”
ใบหน้าของลุงเฉียนเย็นชาขึ้นมา “ดูท่าทางพวกมันจะใช้โอกาสที่ลูกพี่กับส้าวส้วยไม่อยู่รังแกพวกเรางั้นสินะ”
“พวกเราไม่ใช่คนที่จะยอมให้โดนรังแกสักหน่อย อย่างมากก็…”
หน้าหนวดยังไม่พูดทันจบ ลุงเฉียนก็ตัดบทก่อน “เอาล่ะ ไปทำงานของนายเถอะ”
“ครับ” หน้าหนวดเองก็ตระหนักได้ว่าตัวเองปากไม่ดี จึงพาคนเดินเข้าสถานตากอากาศไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อหน้าหนวดเดินออกไป เฉียนโตโต หัวหน้าตระกูลเฉียนก็วิ่งเข้ามา
“ฉันก็ว่าอยู่ นายไปแกว่งเท้าหาเสี้ยนใครเข้าล่ะ? แค่ครึ่งชั่วโมงสายโทรศัพท์ฉันก็แทบจะระเบิด ธุรกิจครอบครัวก็ถูกระงับชั่วคราว กิจการอื่นๆที่จะร่วมงานกับเราถ้าไม่หายเงียบไป ก็ขอยกเลิก ตกลงนี่มันเกิดอะไรขึ้น?” เฉียนโตโตมองหน้าลุงเฉียนแล้วตำหนิ
“ฉันออกจากตระกูลเฉียนมาแล้ว เพราะงั้นระวังคำว่าเรา จะทำให้ตัวพี่เองต้องลำบาก” ลุงเฉียนพูด
“ฉันก็อยากจะตัดความสัมพันธ์กับนายเหมือนกัน แต่เพราะนาย พวกมันถึงมาเอาเรื่องถึงหน้าบ้าน นายจะให้ฉันทำยังไง?” เฉียนโตโตขมวดคิ้ว พูดด้วยใบ้หน้าบึ้งตึง “ตอนนี้นายมีคนใหญ่คนโตคุ้มกะลาหัว พวกมันทำอะไรนายไม่ได้ แต่ตระกูลเฉียนของเรา…”
“กว่าพวกเราตระกูลเฉียนจะมีวันนี้ได้ไม่ง่าย นายเองก็คงไม่อยากให้มันล่มสลายไปด้วยน้ำมือของนายเองหรอกใช่ไหม?” เฉียนโตโตสบตาลุงเฉียนมีนัยยะ
ลุงเฉียนหัวเราะหึ “ฉันสร้างตระกูลเฉียนขึ้นมาด้วยมือเปล่า ต่อให้มันจะล่มสลายด้วยน้ำมือฉันจริงๆ ใครก็ว่าอะไรฉันไม่ได้ ทั้งพี่ ทั้งพวกตัวเล็กตัวน้อยทั้งหลาย ก็ไม่มีสิทธิ์”
“น้องสอง!” จู่ๆเฉียนโตโตก็คำรามเสียงดัง
“นายคิดจะทำอะไรกันแน่?” เฉียนโตโตเอ่ยถาม
“ฉันลักพาตัวลู่เทียน!” ลุงเฉียนตอบกลับเสียงเฉยชา
“ลู่เทียน? นายหมายถึง…หัวหน้าตระกูลู่…” ทันใดนั้นเฉียนโตโตก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว “นายบ้าไปแล้วแน่ๆ ตระกูลลู่เป็นตระกูที่พวกเราจะไปกระตุกหนวดได้ที่ไหน?”
“ก็แค่พี่ที่ทำไม่ได้” ลุงเฉียนพูดแก้
“ไม่น่าล่ะ ไม่น่าล่ะธุรกิจของครอบครัวเราถึงโดนสั่งหยุดชะงัก เพราะนายลักพาตัวท่านลู่ไปนี่เอง นายมันบ้าไปแล้วจริงๆ”
“นายรู้หรือเปล่า ในเมืองของเราน่ะ ท่านลู่คือ…”
ลุงเฉียนพยักหน้า “ฉันยังไม่ได้แก่สมองเสื่อมขนาดนั้น เขาเป็นใคร มีอำนาจมากขนาดไหน ฉันรู้ดีกว่าทุกคน แค่เขากระดิกเท้าก็สามารถทำให้ตระกูลเฉียนล่มสลายได้”
“นับประสาอะไรกับแค่ตระกูลเฉียน ต่อให้เป็นตระกูลมู่หรือตระกูลฉิน แค่ท่านลู่อ้าปากสั่งคำเดียว ตระกูลพวกเรทั้งหลายก็จบเห่ได้ในพริบตา”
เฉียนโตโตขบฟันแน่น “นายไปหาเรื่องคนแบบเขาทำไม? นายเคยมีความแค้นอะไรกับเขาหรือไง?”
ลุงเฉียนไม่ได้ตอบ แต่มองหน้าเฉียนโตโตแล้วพูด “พี่ใหญ่กลับไปเถอะ พี่น่าจะรู้จักนิสัยของฉันดี ในเมื่อฉันกล้าจับตัวเขามา ฉันก็จะไม่ปล่อยง่ายๆ”
“อีกอย่าง ตั้งแต่เด็กจนโตเรื่องอะไรที่ฉันอยากทำ พี่เคยห้ามฉันได้หรอ?”
เฉียนโตโตโกรธจนตัวสั่น เขาหันกลับไปพูดกับทุกคนในตระกูลเฉียน “คุกเข่าลงให้หมด”
“ทายาทตระกูลเฉียนทุกคน คุกเข่าลงให้หมด”
สิ้นสุดคำสั่งของเฉียนโตโต สมาชิกทุกคนในตระกูลเฉียน ไม่ว่าจะผู้หญิงผู้ชายคนเด็กคนแก่ ล้วนนั่งคุกเข่าให้ลุงเฉียน
ไม่เว้นแม้แต่เฉียนเฟิงที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ หรือเฉียนเป่าเอ๋อที่หลี่ฝางเคยเจออยู่สองสามครั้ง
ทุกคนต่างก็พร้อมใจกันนั่งคุกเข่าหันไปหาลุงเฉียน รวมๆก็หลายสิบชีวิต
“น้องสอง นายจะไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆหรอ?”
“นายจะยอมทนเห็นคนในตระกูลนับสิบคนสูญเสียบ้าน ต้องกลายเป็นคนเร่ร่อน ขอทานริมถนนได้จริงๆงั้นสิ?”
“ทุกคนที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้านายก็เหมือนนาย พวกเขามีสายเลือดตระกูลเฉียนไหลอยู่ทั่วร่างกาย ในนั้นยังมีเด็กอายุไม่ถึงขวบนึงอยู่สองคน ถ้าตระกูลเฉียนของเราล้มละลาย เด็กสองคนนี้จะเติบโตได้ยังไง? นายเคยคิดถึงเรื่องนี้บ้างไหม?”
เฉียนโตโตพูดจบ ก็หันไปพยักหน้าให้คนที่อยู่ข้างๆ
“ขอให้ลุงรองช่วยปล่อยมือด้วย”
“ขอให้ท่านรองช่วยปล่อยมือด้วย”
ไม่นาน ทุกคนก็เอ่ยปากออกมา ทำตัวน่าสงสารใส่ลุงเฉียนพร้อมๆกัน
กระทั่งหญิงสาวสองสามคนถึงกับเริ่มร้องห่มร้องไห้ แต่ใบหน้าของลุงเฉียนกลับไม่แสดงท่าทีใดๆแม้แต่น้อย
“ตอนนั้นพวกนายบีบให้ฉันออจากตระกูลเฉียน นับตั้งแต่วินาทีนั้น ระหว่างฉันกับตระกูลเฉียนก็ไม่เหลือเยื่อใยอีกแม้แต่นิดเดียว ฉันไม่ใช่คนของตระกูลเฉียนอีกต่อไป แต่วันนี้ พวกนายกลับมาคุกเข่าลงตรงหน้าฉัน เรียกฉันว่าลุงรอง ท่านรอง เหอะๆ ไม่นายมีสิทธิ์หรือไง?”
“พวกนายบีบให้ฉันออกจากตระกูลก็เพื่อผลประโยชน์ เพื่อความสูงส่งและอำนาจ และวันนี้ที่มาคุกเข่าให้ฉัน มิหนำซ้ำยังนับถือฉันเป็นผู้อาวุโส ก็เพื่อประโยชน์ เพื่อความสูงส่งและอำนาจอีกอยู่ดี”
ลุงเฉียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกนายไม่รู้สึกว่าตัวเองหน้าเลือดเกินไปหรือไง?”
“ครอบครัวที่ไม่มีแม้แต่ความรู้สึกผูกพันต่อกัน ต่อให้ในภายภาคหน้าจะกลายเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ แต่มันจะมีความหมายอะไร?”
“อีกอย่าง ตระกูลเฉียนอยู่มาตั้งนานขนาดนี้ แค่วิธีรับมือก็ยังไม่มีหรอ? ถ้าไม่มีใครมาร่วมลงทุนด้วย ธุรกิจของตระกูลเฉียนก็จะล้มละลายหรอ?”
ลุงเฉียนพูดด้วยความผิดหวัง
เฉียนโตโตมองลุงเฉียน “น้องสอง ตอนนี้นายมาพูดพวกนี้มันจะมีความหมายอะไร การเติบโตของตระกูลเฉียนตลอดหลายปีนี้ ล้วนเป็นเพราะพึ่งพาการดูแลจากสี่ตระกูลใหญ่ แต่นี่นายเล่นลักพาตัวท่านลู่ สี่ตระกูลจะปล่อยพวกเราตระกูลเฉียนไปได้ยังไง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง