NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง นิยาย บท 652

สรุปบท บทที่ 652 กองหนุนมาแล้ว: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

สรุปเนื้อหา บทที่ 652 กองหนุนมาแล้ว – NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง โดย เฉียงเกอ9527

บท บทที่ 652 กองหนุนมาแล้ว ของ NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เฉียงเกอ9527 อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เพื่อที่จะบุกสถานตากอากาศ และช่วยเหลือท่านลู่ คนที่มีฝีมือส่วนใหญ่ของเมืองเอก และแก๊งเล็กๆ ล้วนมาอยู่ที่นี่

อย่างเช่นคุณท่านหวู คนข้างกายที่ใช้การได้ของเขา ล้วนถูกส่งมาที่สถานตากอากาศ

คนที่ยังเหลืออยู่ ก็เป็นแค่พวกไร้ฝีมือที่มีดีแค่ขู่คนก็เท่านั้นเอง

“ลุงเฉียน ถ้าเกิดกลืนทั้งหมด พวกเราจะไม่โลภมากจนเกินไปเหรอ? มันจะไม่สำลักเอาเหรอ?” หลี่ฝางถามด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย

เพราะยังไงซะ ลูกน้องของตัวเองก็ไม่ได้มีมากขนาดนั้น

ตอนนี้ พื้นที่ทั้งสามแห่งถูกแบ่งให้กับซินปา หวางเสี่ยวหยวน เฉินฝูเซิงทั้งสามคน

ต่อให้มีพื้นที่มากกว่านี้ เกรงว่า คงจะป้องกันเอาไว้ไม่ได้

“ฉันรู้คุณกำลังกังวลอะไรอยู่ คงจะเป็นเรื่องที่มีลูกมือไม่พอใช่ไหมล่ะ? พอยึดพื้นที่มาได้ กลัวว่าจะไม่มีคนเฝ้า?” ลุงเฉียนหัวเราะ “จะคิดมากไปทำไม ยึดพื้นที่มาก่อนค่อยคิด ส่วนเรื่องหาคน ค่อยหาที่หลังก็ได้”

หลี่ฝางไม่ใช่คนโง่ ไปแย่งพื้นที่ของคนอื่นมา หลังจากนั้น ไม่มีทางที่จะไม่มาล้างแค้น?

ถ้าเกิดคืนนี้ยึดพื่นที่มาทั้งหมด แล้วปรากฏว่าวันที่สองคนของตัวเอง แม้แต่พื้นที่ของตัวเองก็ป้องกันเอาไว้ไม่ได้ ผีซ้ําด้ําพลอย

ก็เหมือนกับที่คุณมีเงินแค่หนึ่งเหรียญ แต่อยากไปกินร้านอาหารหรูๆ การที่คิดจะกินแล้วหนี ผลลัพธ์ที่ตามมามันน่าสมเพช

หลี่ฝางจ้องมองไปยังลุงเฉียน แล้วพูดถามว่า “ลุงเฉียน คุณบอกให้ผมยึดพื้นที่มา ถ้าเกิดหลังจากนั้นผมหาคนมาไม่ได้ คุณต้องช่วยผมน่ะ”

ลุงเฉียนยิ้มเบะปาก “เจ้าเด็กนี่ คิดจะให้ฉันทำอะไรอีกรึไง?”

“คุณเองก็เห็นแล้ว ที่นี่มีแค่กลุ่มของไอ้หน้าหนวดกลุ่มเดียว ถึงแม้จะยังมีอีกกลุ่มนึง แต่ก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ นั้นเป็นทหารของพ่อคุณ ถ้าคุณอยากได้ ก็โทรไปหาพ่อคุณเองก็แล้วกัน”

ความหมายที่ลุงเฉียนพูดออกมา แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ให้ยึดลูกน้อง

คนของไอ้หน้าหนวด ต้องค่อยปกป้องสถานตากอากาศ

ส่วนคนที่พ่อของตัวเองพากลับมาจากเมืองนอก จะต้องทำประโยชน์ได้อย่างแน่นอน

นั้นเป็นอาวุธลับของพ่อตัวเอง เป็นไพ่ใบสุดท้าย ถ้าเกิดตัวเขาสั่งให้พวกเขาไปยึดพื้นที่ เข้ามายุ่งเกี่ยวกับพวกนักเลง มันก็เหมือนกับขี่ช้างจับตั๊กแตน

ดูเหมือนว่า นี่เองก็ไม่สามารถใช้ได้

หลี่ฝางเงียบไปพักนึง ทันใดนั้นก็นึกถึงคนๆนึงขึ้นมา ท่านจวน

หลี่ฝางเงยหน้ามองลุงเฉียน แล้วถามว่า “ท่านจวนล่ะ? เขากลับเข้าสู่วงการแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงไม่เห็นเคลื่อนไหวอะไรเลย”

“ใครว่าไม่มีการเคลื่อนไหว? คุณลองโทรไปถามเฉินฝูเซิงไม่ก็หวางเสี่ยวหยวนดูสิ มีผู้ทรงอำนาจกลุ่มนึง ที่คอยยึดพื้นที่อยู่รึเปล่า?”

ลุงเฉียนหัวเราะแล้วพูดว่า “ท่านจวน ได้เริ่มเคลื่อนไหวไปแล้ว”

“งั้นก็ให้ท่านจวนไปยึดคนเดียวก็แล้วกัน ไม่ว่ายังไงเขาและพวกเรา ก็อยู่เรือลำเดียวกัน” หลี่ฝางพูดด้วยน้ำเสียงเฉยๆ

“แกจะบ้ารึไง ท่านจวนก็คือท่านจวน พวกเราก็คือพวกเรา ถึงแม้พวกเรากับท่านจวนจะร่วมมือกัน แต่ไม่ว่าจะยังไงพวกเราก็ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน แกเข้าใจไหม?” เสียงของลุงเฉียน จู่ๆก็ต่ำลงไป

“ความหมายของคุณก็คือ?”

“พื้นที่ จะให้ท่านจวนยึดไปคนเดียวไม่ได้ ยังไงซะ คนที่รับหน้าที่เป็นนกต่อ ก็คือสถานตากอากาศของพวกเรา เพราะงั้นคนที่ค่อยเก็บผลประโยชน์ ก็ควรจะเป็นพวกเราถึงจะถูก”

พอลุงเฉียนพูดจบ

แล้วหันไปมองเสี่ยวฝางที่ยังไม่มีท่าทีจะโทรไปหาใคร สุดท้ายลุงเฉียนก็ทนไม่ไหว “แกยังจำคนที่ชื่อว่าซุนจิ้นได้รึเปล่า?”

“ซุนจิ้น แน่นอนว่าผมจำได้อยู่แล้ว ได้ข่าวว่าตอนนี้เขากลายเป็นเจ้าบ้านตระกูลจูเก่อ ฐานะ จุดยืน ไม่เหมือนเดิมแล้ว” หลี่ฝางพูดด้วยเสียงหัวเราะ

จากนั้น หลี่ฝางก็คิ้วขมวด แล้วหันไปมองลุงเฉียน

การที่จู่ๆลุงเฉียนพูดถึงซุนจิ้นขึ้นมา หรือว่า การแย่งพื้นที่ในครั้งนี้ สามารถปล่อยให้ซุนจิ้นจัดการได้รึเปล่า?

น่าจะหมายความแบบนั้น

หลี่ฝางหันไปมองลุงเฉียนด้วยความกังวลเล็กน้อย แล้วถามว่า “ลุงเฉียน คุณว่าถ้าเกิดผมไปแย่งพื้นที่มา แล้วขอความร่วมมือจากซุนจิ้น คุณว่าซุนจิ้นนจะตกลงร่วมมือกับผมไหม?

ลุงเฉียนไม่ได้ตอบตรงๆ แต่กลับพูดไปว่า “ซุนจิ้นเป็นพวกเดียวกับพวกเรา”

ซุนจิ้นเป็นพวกเดียวกัน?

งั้นท่านจวนไม่ใช่รึไง?

หลี่ฝางเข้าใจขึ้นมาแล้ว รีบหยิบมือถือขึ้นมา แล้วโทรไปหาเฉินฝูเซิง ตอนที่มือถือดังขึ้นมา เฉินฝูเซิงยังอยู่โรงบาลอยู่เลย

จะว่าไป ตอนนั้นคนที่เริ่มเป็นศัตรูกับสี่ตระกูลใหญ่ก่อน ก็คือท่านจวน

ส่วนพ่อของตัวเอง ก็แค่ผู้ช่วยของท่านจวนก็เท่านั้นเอง

แต่ว่าคนที่เป็นคนเริ่มเรื่องกลับไม่เป็นอะไร แถมยัง ถูกคนอื่นเคารพนับถือเหมือนเดิม ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ส่วนพ่อของตัวเอง กลับต้องหนีหัวซุกหัวซุน

“ถึงแม้ว่าหลอซ่าจะไม่ได้โทษเขา แต่ว่า เขาก็ไม่น่าจะยอมแพ้เร็วขนาดนั้น”

“ตอนนั้น พวกเราไม่เห็นด้วยที่จะยอมแพ้ ส่วนท่านจวน กลับไปประนีประนอมสี่ตระกูลไว้ก่อนแล้ว” ลุงเฉียนถอนหายใจดังเฮิง แล้วพูดว่า “เขาไม่ได้ผิด”

“แต่ว่าใจของคุณ ก็ยังคงโทษเขา”

“ใช่แล้ว หลายปีมานี้ เขาไม่เคยติดต่อมาหาพวกเรา อีกอย่าง เขาเองก็ไม่ได้ดูแลแกเป็นพิเศษ เขาเหมือนกับคนนอกวงการ ที่ใช้ชีวิตไปวันๆ”

“จนกระทั่งพวกเรากลับมา หลังจากที่เห็นพวกเรามีอำนาจที่แข็งแกร่ง เขาถึงยืนขึ้นมาอีกครั้ง”

ลุงเฉียนยิ้มอย่างเย็นชาไปนึงที “คนแบบนี้ ร่วมสุขได้ แต่ไม่สามารถร่วมทุกข์ได้”

หลี่ฝางทำปากมุ่ย ไม่ได้พูดอะไร ยังไงซะชีวิตที่พวกเขาผ่านมา เขาเองก็ไม่ได้สัมผัสมันด้วยตรง แล้วจะเอาอะไรไปตัดสินล่ะ?

แต่ว่า ในเมื่อลุงเฉียนไม่ได้ยอมรับท่านจวนขนาดนั้น งั้นหลี่ฝางก็จะขอทำตัวเหมือนกับลุงเฉียน

ด้วยเหตุนี้ หลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง โหจื่อก็ยังไม่กลับมา ข้างนอกประตูสถานตากอากาศ ก็สู้กันอย่างดุเดือด เพราะด้วยความที่มีจำนวนน้อยกว่า เจ้าไอ้หน้าหนวด ก็เริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว

และในเวลานี้เอง ลุงเฉียนก็หยิบโทษศัพท์ขึ้นมา แล้วโทรไปหาซุนจิ้น

“พอแล้ว น่าจะถึงเวลาแล้ว แกเตรียมตัวขึ้นเขาได้”

พอลุงเฉียนพูดจบ ก็กดวางสายทันที

และซุนจิ้นก็เตรียมตัวเสร็จตั้งนานแล้ว สิ่งที่เขารออยู่ก็คือสายนี้ หลังจากวางสาย ซุนจิ้นก็สตาร์รถ ขับรถออกไป มุ่งไปยังสถานตากอากาศ

และข้างหลังของเขา ก็มีรถตู้สิบคันตามหลังมา

หลังจากที่มาถึงสนามรบ ซุนจิ้นเดินออกมาจากรถ มองรอบๆไปทีนึง “ฮ่าๆ ดูหน้าพวกที่ใส่ชุดขาวให้ดี แล้วสับมันให้แหลก!”

พอซุนจิ้นพูดจบ ข้างในรถตู้ ก็มีวัยรุ่นหลายร้อนคนเดินลงมาจากรถ คนพวกนี้เรียนการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก แต่ละคนมีร่างกายที่กำยำ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง