NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง นิยาย บท 671

“ตระกูลชินเหรอ?”

ชายผมแสกกลางยิ้มอย่างเหยียดหยาม “ตระกูลฉินอยู่เมืองหลวงมีอำนาจบารมีที่มั่นคงก็จริง แต่ถ้ามองทั้งมณฑลแล้ว ก็ถือว่ายังไม่เท่าไหร่หรอก”

“คุณชายน้อยตระกูลฉิน แกรู้ไหมว่าพวกฉันเป็นใคร?” ชายผมแสกกลางหรี่ตามองพลางถามฉินจื่อยี่

ฉินจื่อยี่สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ฝ่ายตรงข้ามรู้ฐานะตัวเองแล้ว ยังไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาอีกด้วย แสดงว่าต้องไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน

หมดกัน!

ในใจของฉินจื่อยี่ก็รู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาทันที

คราวนี้ ต้องแกล้งทำเป็นพ่ายแพ้แล้ว

ภาพลักษณ์ที่อยู่ตรงหน้าหญิงคนรักของตัวเอง มันจะต้องลดลงไปแล้วหรืออย่างไร?

“ฉันไม่รู้ ฉันไม่สนหรอกว่าแกจะเป็นใคร ไสหัวออกไปให้หมด ไม่เช่นนั้นละก็.....” ฉินจื่อยี่ถือว่าตัวเองก็ยังพอรู้จักพวกนักเลงอีกจำนวนไม่น้อย

อย่างเช่นซินปา หวางเสี่ยวหยวนเป็นต้น เพียงแค่ให้ฉินจื่อยี่เอ่ยปาก ก็สามารถเรียกพวกเขามาได้หมด ดังนั้นเขาจึงรู้สึกมีความมั่นใจมาก

“ไม่เช่นนั้นแล้วแกจะทำอะไรเหรอ?”

ชายผมแสกกลางมองดูฉินจื่อยี่ แล้วกระซิบถามด้วยเสียงเบาว่า “หรือว่าแกอยากจะเป็นศัตรูกับพวกเราตระกูลลู่เหรอ?”

“ตระกูลลู่? ตระกูลลู่อะไรกัน?” ฉินจื่อยี่นึกตอบโต้ไม่ทัน อย่างน้อยในเมืองหลวงนี้ก็ไม่เคยมีตระกูลลู่อะไรมาก่อนเลย

“ฉันจำแกได้ คราวก่อนตอนแข่งรถซิ่งที่ภูเขาหมาป่า แกเกือบไล่ทันคุณชายตระกูลลู่ของพวกเรา ลู่เฟย” ชายผมแสกกลางมองดูฉินจื่อยี่แล้วหัวเราะขึ้นมา “คุณชายพวกเรา ยังเคยชมแกเลย ว่าฝีมือขับรถของแกไม่เลวเลยนะ”

เมื่อได้ฟังชายผมแสกกลางแล้ว สีหน้าฉินจื่อยี่เปลี่ยนเป็นขาวซีดขึ้นมาทันที

ฉินจื่อยี่เป็นคุณชายตระกูลฉินแห่งเมืองหลวง แต่ว่าลู่เฟยเขาเป็นถึงคุณชายใหญ่ที่ชื่อเสียงโด่งดังทั้งมณฑลเลยทีเดียว

ตอนนั้นเมื่อลู่เฟยมาถึงภูเขาหมาป่าแล้ว มู่เหวินตงก็รีบเสนอตัวเข้าไปเอาใจดูแลต้อนรับอย่างใกล้ชิด แต่ว่าลู่เฟยกลับไม่สนใจอะไรเขาเลย

ในเวลานั้น ฉินจื่อยี่ก็เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างตัวเองกับลู่เฟยแล้ว

แต่ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าพวกนี้ ยังเป็นคนของลู่เฟยอีกด้วย

ทันใดนั้น ฉินจื่อยี่เข้าใจแล้วว่า คราวนี้ที่ตัวเองคิดอยากทำตัวเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงามนั้น คงเป็นไปไม่ได้เสียแล้ว

ชายผมแสกกลางมองดูฉินจื่อยี่สือแล้วพูดว่า “ฉันว่านะคุณชายฉิน นึกออกแล้วยังล่ะ? ถ้านึกออกแล้ว ก็รบกวนช่วยหลีกทางให้ด้วย”

“ไม่ได้” ฉินจื่อยี่ส่ายหน้าปฏิเสธเหมือนเดิม

“ผู้หญิงคนนี้ พวกแกจะพาไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” ฉินจื่อยี่พูดด้วยสีหน้าที่แน่วแน่

ชายผมแสกกลางสีหน้าเยือกเย็นขึ้นมาทันที “ช่างไม่รู้จักกาลเทศะเสียจริง”

ชายผมแสกกลางพูดพลางก็ยื่นมือไปบีบคอของฉินจื่อยี่ไว้แล้วพูดว่า “เวลาที่พวกเราตระกูลลู่ทำงาน อย่าว่าแต่พวกแกตระกูลฉินเลย แม้แต่สี่ตระกูลใหญ่ ยังต้องยืนดูเฉยๆเลย”

“อยากจะยุ่งเรื่องของพวกเราเหรอ ตระกูลฉินเล็กๆอย่างแก ยังไม่มีสิทธิ์หรอก”

พูดจบ ชายผมแสกกลางก็พลักฉินจื่อยี่ลงไปกับพื้นอย่างแรง

หลังจากนั้น ชายผมแสกกลางก็ชี้หน้าหลิงหลงแล้วพูดว่า “ลงมือเลย อย่าให้เธอหนีไปได้”

หลิงหลงก็ส่ายหน้าพูดว่า “ฉันไม่หนีไปไหนหรอก”

“ฮ่าๆ รู้สึกว่าแกจะรู้จักกาลเทศะดีกว่าคุณชายน้อยตระกูลฉินมากเลย รู้ว่าตัวเองหนีไม่รอด ก็เลยยอมให้จับใช่ไหมล่ะ?” มองไปยังหลิงหลงแล้วชายผมแสกกลางก็หัวเราะด้วยความสะใจ

“ฉันก็ยากลองดูว่า พวกแกมีความสามารถขนาดไหน” หลิงหลงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “กลางวันแสกๆอย่างนี้ ถ้าคิดจะลงมือ ก็ช่วยกรุณาดึงม่านประตูลงหน่อย อย่างน้อยคนข้างนอก ก็ยังมีคนมองเห็นอยู่ไม่น้อย ฉันไม่อยากให้เรื่องมันเอิกเกริก”

“ฉันไม่ค่อยเห็นผู้หญิงที่กล้าหาญอย่างแกเลยนะ” ชายผมแสกกลางส่งสายตาให้ลูกน้องตัวเอง จากนั้นม่านประตูจึงถูกปิดลง

ทันทีที่หลิงหลงเปิดไฟ ก็ปรากฏมีชาย10 กว่าคนมายืนอยู่ข้างหน้าเธอแล้ว

อีกอย่างก็ไม่รู้ว่าคนพวกนี้เข้ามาตอนไหน

“ฮาๆ ที่แท้ก็มีพรรคพวกช่วยนี่เอง มิน่าแกถึงไม่รู้สึกกลัวอะไรเลย” มองดูหลิงหลง ชายผมแสกกลางหัวเราะเบาๆ “แต่ว่าก็ไม่เป็นไร ไม่ว่าแกจะมีคนมากมายขนาดไหน ผลลัพธ์ที่ได้ก็เหมือนกันทั้งนั้น”

“อีกอย่างก็สามารถยืนยันได้ว่า ฉันมาไม่ผิดที่แน่นอน แกก็น่าจะเป็นคนที่ฉันกำลังตามหาอยู่นะ” ชายผมแสกกลางพูดด้วยรอยยิ้ม

หลิงหลงมองดูคนที่อยู่ข้างหน้า แล้วพูดว่า “ลุยเลย อย่าประมาทล่ะ ให้ฉันได้เห็นว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาฝีมือพวกแกฝึกก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว”

ในจำนวนคนพวกนี้ มีหลายคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ หนึ่งในนั้นก็คือชุนเซิง

เพียงแต่ว่าชุนเซิงในตอนนี้ กับชุนเซิงเมื่อก่อนนั้น เปลี่ยนไปเป็นคนละคนไปแล้ว

อีกทั้งคนในจำนวนนั้น ก็เป็นลูกน้องของหลอซ่า นั่นก็คือเป็นคนที่อยู่หน่วยมืดพวกนั้น

พวกคนที่อยู่หน่วยมืดส่วนใหญ่ก็ได้กลับมาหมดแล้ว

“นานแล้วที่ไม่ได้ยึดเส้นยึดสาย” หนึ่งในนั้นหัวเราะแล้วพูดว่า “พี่หลิงหลง คนพวกนี้ ฆ่าได้ไหม?”

“ตามสบายเลย” หลิงหลงพูดอย่างไม่มีเงื่อนไข

ชายผมแสกกลางส่งเสียงพูดว่า “ลงมือลุย”

เมื่อเสียงคำสั่งดังขึ้น คนของชายผมแสกกลาง ก็บุกเข้าไปพร้อมกัน พวกเขาถอดเสื้อสูทออก เห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดๆที่แข็งแรง คนพวกนี้ ปกติแล้วได้ฝึกซ้อมมาโดยตลอด

พวกเขาล้วนได้ฝึกกล้ามเนื้อร่างกายที่แข็งแกร่ง แล้วยังมีทักษะการต่อสู้เฉพาะที่เด็ดเดี่ยว

เมื่อคนพวกนี้ลงมือต่อสู้กันแล้ว ร้านกาแฟทั้งหลังก็โกลาหลขึ้นมา

ลูกน้องพวกเขาฝีมือร้ายกาจมาก ส่วนคนของหลิงหลงทางนี้ ก็ยิ่งดุร้ายกว่า

หลิงหลงมองดูชุนเซิง จ้องมองเด็กหนุ่มคนนี้อย่างไม่ละสายตา

นัยน์ตาของชุนเซิงนั้น ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดใดอยู่ภายในเลย มีดในมือของเขา ทุกครั้งจะมุ่งเป้าแทงไปยังจุดตายของฝ่ายตรงข้ามทั้งนั้น หลิงหลงส่ายหน้า แล้วมองดูชุนเซิง ด้วยความรู้สึกอย่างหนึ่งที่บอกไม่ถูก

นึกถึงน้องชายของตัวเอง อายุก็ราวๆนี้แล้วล่ะมั้ง?

ถ้าหากยังมีชีวิตอยู่?

ตอนที่หลิงหลงเห็นชุนเซิงครั้งแรก ก็คิดอยากจะรับเขามาเป็นน้องชาย แต่นึกไม่ถึงว่า ส้าวส้วยกลับเอาชุนเซิงไปเลี้ยงดูฝึกให้กลายเป็นเครื่องมือในการสังหารคนไปแล้ว

ทำให้แผนการของหลิงหลงล้มเหลวไปหมด

ชุนเซิงถูกมีดบาดจากใครสักคน หลิงหลงก็คิดจะเข้าไปช่วยเขาในทันที แต่ว่าชุนเซิงดูเหมือนไม่มีความรู้สึกอะไรเลย ก็ยังลุยต่อสู้ต่อไปเหมือนเดิม

5 นาทีผ่านไปแล้ว ทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีใครแพ้ชนะ

หลิงหลงขมวดคิ้ว มองดูคนที่ตรงหน้าพวกนี้ “ฮ่าๆๆ ไม่นึกเลยว่า ศัตรูที่มาคราวนี้ จะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้เชียว”

หลิงหลงยังคิดว่าอย่างมากใช้เวลาแค่ 3 นาที ก็สามารถจัดการคนของพวกชายผมแสกกลางได้ราบคาบแล้ว

แต่นึกไม่ถึงเลยว่า ผ่านไป5 นาทีแล้ว คนของชายผมแสกกลางพวกนี้ ยังไม่มีวี่แววจะพ่ายแพ้เลยแม้แต่นิดเดียว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง