เมื่อโหจื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขานึกไม่ถึงเลยว่า หลิงหลงถึงกับถูกจับได้แล้ว
“ฉันดูถูกคนของแกมากไป”
ทันใดนั้น ใบหน้าของโหจื่อ แสดงออกถึงความรู้สึกที่สำนึกผิด
เป็นเพราะว่าโหจื่อหักหลังหลิงหลง จึงทำให้หลิงหลงต้องเผชิญกับความโชคร้าย
“นึกไม่ถึงเลยว่าพวกลูกน้องเศษสวะของแกพวกนั้น สามารถที่จับหลิงหลงไว้ได้” โหจื่อมองไปยังลู่เฟยด้วยสีหน้าที่คาดคิดไม่ถึง แล้วพูดขึ้นมา
ลู่เฟยมองดูโหจื่อ แล้วส่ายหน้าว่า “คนของหลอซ่าอะไรก็ดีทุกอย่าง มีอยู่อย่างเดียวที่ไม่ดี นั่นก็คือ พวกแกลำพองใจมากเกินไป นึกว่าใต้หล้านี้ ไม่มีใครที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกแกได้เลย”
“เอาเถอะ พูดเรื่องสำคัญกันดีกว่า เมื่อกี้แกบอกว่า ถ้าฉันสามารถจับเพื่อนแกได้ แกก็จะ ส่งพ่อฉันคืนมาให้ฉัน”
ลู่เฟยมองดูโหจื่อแล้วพูดว่า “ฉันหวังว่าแกคงรักษาคำพูดนะ”
โหจื่อไม่พูดอะไร มอดูลู่เฟยแล้วพูดว่า “รอให้หลิงหลงมาก่อน ฉันก็จะมอบท่านลู่คืนให้แก”
“พูดได้ก็ย่อมทำได้” ใบหน้าโหจื่อก็ไม่มีท่าทีหยอกล้ออีกเลย
ส่วนนัยน์ตาของลู่เฟย ก็ส่องประกายความโหดเหี้ยมออกมาทันควัน
ลู่เฟยก็ได้เตรียมการเรียบร้อยแล้ว รอให้พ่อของตนเองปลอดภัยกลับมาก่อน แล้วจึงลงมือจัดการสถานตากอากาศนั่นเสีย
อาศัยจังหวะที่หลอซ่าไม่อยู่ จัดการสังหารพวกโหจื่อพร้อมกันทีเดียวให้หมด
เวลาผ่านไปไม่นานนัก ชายผมแสกกลางก็พาหลิงหลงมาถึงทางเข้าสถานตากอากาศ
ชายผมแสกกลางจึงโทรศัพท์ไปหาลู่เฟย แล้วพูดว่า “ลูกพี่ ผู้หญิงที่ท่านต้องการมาแล้วครับ”
“ดี”
ลู่เฟยยิ้มอย่างสบายใจ มองดูโหจื่อแล้วพูดว่า “ตอนนี้ พวกเรามาแลกเปลี่ยนตัวประกัน ได้แล้ว”
“รอเดี๋ยว” โหจื่อส่ายหน้า “ฉันขอตรวจสอบหน่อย ว่าแกจับคนของฉันมาได้จริงหรือเปล่า”
“ขอโทรศัพท์ให้ฉันหน่อย”
โหจื่อรับมือถือของลู่เฟยมา แล้วพูดว่า “ขอพูดกับหลิงหลงหน่อย”
ชายผมแสกกลางก็เอามือถือไว้ข้างหูหลิงหลง โหจื่อก็ถามว่า “ถูกจับจริงเหรอ?”
โหจื่อไม่อยากจะเชื่อ อย่างน้อยความสามารถของหลิงหลง เขาก็ย่อมต้องรู้ดีว่า แค่ฝีมือของกลุ่มชายผมแสกกลางพวกนั้น มันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลิงหลงอย่างแน่นอน
“แล้วแกคิดว่ายังไงล่ะ?” หลิงหลงยิ้มอย่างแปลกประหลาด
หลังจากนั้น ชายผมแสกกลางก็รู้สึกมีอะไรผิดปกติ แต่ว่าก็สายไปเสียแล้ว
ขณะนั้นเอง หลิงหลงก็เหมือนเล่นมายากล ทันใดนั้นเชือกในมือก็หลุดออกจากกัน มือนั้นไหลเลื่อนราวกับงูเลื้อย เข้าล็อกคอของชายผมแสกกลางไว้ แล้วพูดว่า “แกคิดว่า ฉันยอมก้มหัวให้แก เพราะคุณชายตระกูลฉินคนนั้นเหรอ?”
“งั้นแกหมายความว่าอย่างไร” ชายผมแสกกลางมองดูหลิงหลงอย่างหวาดผวา
“ฉันเพียงแต่รู้สึกว่าร้านกาแฟของฉัน ไม่เหมาะสมที่ใช้ในการฆ่าคน ดังนั้นก็คิดอยากจะเปลี่ยนสถานที่ก็เท่านั้น” หลิงหลงยิ้มอย่างโหดเหี้ยม “สถานที่นี้ ก็ไม่เลวเลยทีเดียว”
พูดจบ หลิงหลงก็บิดคอชายผมแสกกลางจนกระดูกคอหักเสียงดังแกร๊ก
ชายผมแสกกลางไม่รู้หรอกว่าหลิงหลงเคยประสบอะไรมาบ้าง หลิงหลงในเวลานี้ ไร้อารมณ์ความรู้สึกอะไรมานานแล้ว
เธอจะทำเพื่อฉินจื่อยี่ แล้วทำลายแผนการของลุงเฉียนได้อย่างไรกันเล่า?
แท้จริงแล้ว มันก็เป็นเพียงแค่แผนการเฉพาะหน้าของหลิงหลงเท่านั้นเอง
ในระหว่างทางนั้น เดินทีหลิงหลงคิดจะหลอกล่อให้ชายผมแสกกลางไปที่โรงพยาบาล แล้วจึงจัดการสังหารเขาเสีย แต่หลิงหลงนึกขึ้นมาได้ว่า ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็จะเป็นการเปิดเผยตำแหน่งโรงพยาบาลส่วนตัวของตระกูลหลี่หรือไม่?
ดังนั้น หลิงหลงจึงตัดสินใจที่จะรอให้มาถึงสถานตากอากาศแล้วค่อยลงมือ
“ตอนนี้ แกสมควรตายแล้ว”
หลิงหลงพูดอย่างเลือดเย็น แล้วเดินจากไปโดยไม่หันไปมอง
ขณะนี้ ทุกคนต่างก็ตกใจสุดขีดกับการกระทำของหลิงหลง
“ทุกคนไม่ต้องกลัว ก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงคนเดียวเท่านั้น ทุกคนลุยขึ้นไปพร้อมกันเลย”
คนพวกนี้ก็เป็นแค่นักเลงตัวเล็กๆ ล้วนแล้วแต่ทำตามหน้าที่ที่เคยผ่านความเป็นความตายมาเท่านั้นเอง ดังนั้น ความคิดจิตใจก็ยังคงเป็นใจดีสู้เสืออยู่
“ถูกต้อง ลุยเข้าไปพร้อมกันเลย”
ทันใดนั้น พวกชายหนุ่ม10 กว่าคนนั้นก็เริ่มลงมือพร้อมกัน ต่างพุ่งตรงไปหาหลิงหลง
แต่ว่าหลิงหลงไม่ได้อ่อนแออย่างที่พวกเขาคิด หลังจากไม่กี่นาทีผ่านไป คนพวกนี้ ต่างก็ล้มลงอย่างราบคาบภายใต้แข้งขาของหลิงหลง
ก็เป็นเวลานั้นเอง มีชายวัยกลางคน ปรากฏอยู่ตรงหน้าหลิงหลงอย่างกะทันหัน
“เป็นสาวเป็นนาง ทำไมถึงได้ลงมือรุนแรงขนาดนั้น”
วัยกลางคนคนนี้มองดูหลิงหลง แล้วขมวดคิ้ว “นี่คงไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยนะ”
“แกเป็นใคร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง