NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง นิยาย บท 673

สีหน้าของเหอสง เปลี่ยนเป็นขาวซีดมาก

“พวกแกคงคิดจะผลักให้ตระกูลลู่ไปยมโลกทั้งตระกูลเลยสิ” เหอสงมองไปยังลุงเฉียน พูดด้วยสีหน้าเย็นชา

ลุงเฉียนหัวเราะแล้วพูดว่า “พวกเราจะไปช่วยพวกเขาเอง”

“ช่วยตระกูลลู่เหรอ? ถึงเวลาพวกแกก็เอาตัวไม่รอดแล้ว จะช่วยยังไง?” เหอสงพูดว่า “ฉันเฝ้าปกป้องดูแลตระกูลลู่มาหลายปีเช่นนี้ ไม่อยากเห็นตระกูลลู่ถูกกวาดล้างสิ้นซาก ท่านเฉียง ฉันยังอยากขอให้ท่านกับหลอซ่าโปรดให้ความเมตตาด้วย ปล่อยตระกูลลู่ไปเถอะ”

“ช่วงเวลาที่ผ่านมา ตระกูลลู่ก็ได้ตัดความสัมพันธ์กับพวกเขาไปนานแล้ว” เหอสงพูด

ลุงเฉียนส่ายหน้าแล้วพูดว่า “สีดำก็ย่อมเป็นสีดำ จะล้างยังไงก็ยังเป็นสีดำ เรื่องนี้ฉันคิดว่าแกน่าจะรู้ดีมากกว่าฉัน ถ้าคนหนึ่งเคยฆ่าคนมาแล้ว หรือว่าเพราะเขาสำนึกผิดกลับตัวเป็นคนดี แล้วกฎหมายก็จะยกเลิกประหารชีวิตเขาเหรอ?”

“ท่านลู่ เป็นด่านปราการสำคัญของพวกเรา พวกเราต้องการเขา” ลุงเฉียนพูด

เหอสงมองหน้าลุงเฉียน แล้วหัวเราะ “หรือว่าแกไม่กลัวฉันจะสังหารกวาดล้างให้สิ้นซากเหรอ?”

“ถ้าแกมีความกล้าหาญชาญชัยพอ ก็เข้ามาได้เต็มที่เลย”

ลุงเฉียนหัวเราะแล้วพูดว่า “แน่นอน แกก็จะต้องมีความสามารถมากพอจึงจะทำเช่นนั้นได้”

ลุงเฉียนตบมือส่งสัญญาณ ด้านหลังภูเขาเทียม ก็ปรากฏมีชาย 4 คนออกมา

ทั้ง 4 คนนี้ ก็แยกย้ายกันล้อมเหอสงไว้ทั้ง 4 ด้าน

“แกสู้ชนะพวกเขาสี่คนก่อนแล้วค่อยคุยกัน” ลุงเฉียนพูด

เหอสงผลักตัวหลิงหลงออกไป มองหน้าลุงเฉียนแล้วพูดว่า “ได้ ถ้าฉันชนะพวกเขา 4 คน แกก็ต้องบอกตำแหน่งที่ตั้งของท่านลู่ให้ฉันด้วย”

“ฮ่าๆๆ แกก็ยังคิดหลงผิดอย่างนั้นอีก”

ลุงเฉียนพูดว่า “ท่านลู่แกไม่สามารถช่วยไปได้หรอก อีกอย่างฉันก็ไม่บอกแกหรอกว่าเขาอยู่ที่ไหน”

“แต่ว่าถ้าแกชนะพวกเขา 4 คนได้ ฉันก็อาจจะให้คุณชายน้อยของตระกูลลู่ ยกให้แก” ลุงเฉียนหัวเราะแล้วพูดว่า “เอาล่ะ พวกแกเริ่มได้แล้ว”

เหอสงมองหน้าลุงเฉียน แล้วพูดว่า “ยังไงก็แล้วแต่ วันนี้ฉันก็จะต้องพาท่านลู่ออกไปให้ได้”

“นอกจากหลอซ่ากลับมา ไม่เช่นนั้นแล้ว ไม่มีใครที่จะขวางฉันได้!”

เหอสงมองไปยัง 4 คนนี้ด้วยสายตาเย็นชา ใบหน้าเต็มไปด้วยพลังพิฆาต

ส่วนชายทั้งสี่คนนี้ ต่างก็ปิดคลุมใบหน้าไว้ แต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดดำทั้งชุด ดูราวกับเป็นพวกภูตผีปีศาจ

แววตาของพวกเขา ไม่มีความรู้สึกใดๆ ได้แต่จ้องหน้าเหอสง

หนึ่งในนั้น คนที่มีรูปร่างสูง 2 เมตรกว่า เขายกก้อนหินจากภูเขาเทียมขึ้นมาก้อนหนึ่ง ก้อนหินก้อนนั้น มีน้ำหนักมากถึง 200 กว่ากิโลกรัม

คนรูปร่างสูงคนนี้ยกมันขึ้นมาอย่างง่ายดาย จากนั้นก็ทุ่มไปยังเหอสง

เหอสงพูดอย่างดูถูกว่า “ก็มีเพียงแค่พละกำลังอย่างเดียวเท่านั้นเอง!”

พูดพลางเหอสงสูงก็เอียงตัวหลบพ้นไปได้

ส่วนที่เหลืออีก 3 คน แทบจะลงมือพร้อมกัน ย่างก้าวขาออกไป พุ่งกระโจนเข้าไปหาเหอสง

ทั้งสามคนนี้ เข้ามาจากสามทิศสามทาง ท่าทางแต่ละคนดุดันยิ่งนัก ใบหน้าของเหอสง แสดงออกถึงความหนักแน่นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เหอสงเฝ้าคุ้มครองท่านลู่มาโดยตลอด เคยเผชิญเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกขนหัวลุกครั้งหนึ่ง นั่นก็คือการประมือกับหลอซ่าในครั้งนั้น

ในเวลาเดียวกันนี้เอง กลุ่มคนพวกโหจื่อและลู่เฟยก็วิ่งเข้ามา ร่วมชมดูการต่อสู้ด้วย

“แม้แต่ซือปาจี้ก็ยังต้องลงมือด้วยเลย” หลิงหลงขมวดคิ้ว แล้วสูดลมหายใจเข้าไปอย่างแรง

ลุงเฉียนพยักหน้าแล้วพูดว่า “ลูกพี่ไม่อยู่ ส้าวส้วยก็ไม่อยู่ ก็เลยต้องอาศัยพวกเขา”

“เหอสงคนนี้ ไม่ใช่จะต่อกลอนกันง่ายๆ เมื่อก่อนนั้นไปฝึกเรียนกับอาจารย์พร้อมกับลูกพี่เรา วรยุทธ์ในตัวเขาเก่งกาจทีเดียวเลย” ลุงเฉียนพูด

เรื่องนี้ หลิงหลงก็ย่อมรู้ดีอยู่แล้ว

เมื่อพบกับเหอสง หลิงหลงไม่มีแม้แต่โอกาสจะหลบหนี

ลู่เฟยเมื่อเห็นเหอสงแล้ว ตกตะลึงตาค้าง “ลุงเหอ!”

ลู่เฟยคิดไม่ถึงว่าเหอสงจะมาด้วย แต่เมื่อเห็นเหอสงแล้ว ในใจของเขาก็โล่งอกขึ้นมาทันที

ลู่เฟยรู้สึกว่าข้างกายตัวเองเต็มไปด้วยความปลอดภัยมากขึ้นทันที

หลายปีมานี้ ตระกูลลู่ก็เหมือนกับมีเทพเจ้าคุ้มครองอยู่ตลอดเวลา นั่นก็คือเหอสง ราวกับว่าถ้าเหอสงยังอยู่ ก็จะไม่มีศัตรูอะไรที่จัดการไม่ได้เลย

ต่อให้ศัตรูจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน ก็ยังสู้เขาเหอสงไม่ได้

อีกอย่างวรยุทธ์ของลู่เฟยนั้น เหอสงก็เป็นคนฝึกสอนให้

“แกก็คือหลิงหลงเหรอ?” มองหน้าหลิงหลง ลู่เฟยก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “แกไม่ใช่ถูกคนของฉันจับไว้แล้วเหรอ?”

หลิงหลงไม่ได้สนใจลู่เฟย ได้แต่จ้องดูการต่อสู้ระหว่างเหอสงกับคนชุดดำ

ลู่เฟยขมวดคิ้วทันที เขาเอามือถือออกมา โทรศัพท์ให้ชายผมแสกกลาง

แต่ว่า ปลายทางนั้นไม่มีใครรับสาย ตอนนี้ ลู่เฟยมองไปยังหลิงหลงอย่างร้อนรน แล้วพูดว่า “เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่? แล้วลูกน้องฉันล่ะ”

“ถูกฉันฆ่าตายแล้ว” หลิงหลงพูดอย่างเรียบง่าย

“อะไรนะ แกฆ่าลูกน้องฉันเหรอ?” ลู่เฟยได้ยินดังนั้น สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมขึ้นมาทันที

“ถูกต้องแล้ว เพราะว่าเขาตบฉันหนึ่งที ดังนั้นฉันจึงฆ่าเขา ทำไมเหรอ มีปัญหาเหรอ? ”

หลิงหลงมองค้อนลู่เฟย ด้วยท่าทีที่เหยียดหยามมาก

ลู่เฟยกัดฟันอย่างแรง มองหน้าหลิงหลงแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “นังนี่แม้งรนหาที่ตาย!”

พูดจบ ลู่เฟยก็บุกเข้าไปหาหลิงหลงทันที

ส่วนหลิงหลงนั้นก็ไม่ใช่พวกอ่อนหัด ใช้มีดแทงไปยังลู่เฟย

ลู่เฟยนึกไม่ถึงว่าวรยุทธ์ของหลิงหลงสูงส่งเพียงนั้น จึงถูกมีดบาดเข้าที่แขน แต่ว่าบาดแผลไม่ลึกเท่าไหร่นัก

ลู่เฟยยิ้มแบบหยอกเย้า “ที่แท้แกก็เป็นวรยุทธ์นี่เอง”

“พูดไร้สาระ!” คราวนี้ ถึงทีหลิงหลงจู่โจมบ้างแล้ว

ส่วนลู่เฟยกำลังจะตั้งรับมือ โหจื่อกลับลอบโจมตีข้างหลังเขา ทำให้ลู่เฟยถูกรุมทันที

“โคตรแม้งโว้ย พวกแกเล่นสองรุมหนึ่งเลยเหรอ?” ลู่เฟยโวยวาย

“ยังไงเหรอ ที่นี่ไม่ใช่ลานเวทีประลอง ใครเป็นคนกำหนดว่าต้องหนึ่งต่อหนึ่งล่ะ? ฮ่าๆๆไอ้โง่เอ๊ย แกก็ไม่ดูว่าตัวเองประสบชะตากรรมอะไรอยู่ สถานการณ์ที่ศัตรูมีมากแต่ฝ่ายเรามีน้อย แกก็ต้องหัดรู้จักอดทนไว้มั่ง” โหจื่อมองหน้าลู่เฟย แล้วพูดเยาะเย้ย

หลิงหลงไม่เหมือนโหจื่อ พูดมากเช่นนั้น เธอได้แต่ลุยเข้าไปยังลู่เฟยอย่างเดียว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง