ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าดื่มไปเยอะ หรือว่าคิดถึงเรื่องราวในอดีตกันแน่……
หยิ่นเจิ้งในตอนนี้ จู่ๆก็ร้องไห้ออกมา
"เหอะๆ ลุงหยิ่น คุณโตขนาดนี้แล้ว ยังจะร้องไห้ทำไม?"หลี่ฝางยิ้มๆ พูดถามขึ้น
หยิ่นเจิ้งส่ายหัว พูดตอบ"เงินมันไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีเลย มันทำให้คนสูญเสียสติลืมตัวตนของตัวเอง"
"คุณร้องไห้ให้ตัวเอง? หรือว่าร้องไห้ให้กับพี่น้องของคุณ?"หลี่ฝางถามขึ้น
หลี่ฝางรู้สึกไม่เข้าใจ ว่าหยิ่นเจิ้งเป็นอะไรกันแน่
รู้สึกว่าตัวเองสูญเสียความเป็นตัวเองไปไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ก็เลยร้องไห้ออกมา?
หรือว่าพี่น้องของเขาใกล้จะตาย รู้สึกอาลัยอาวรณ์ก็เลยร้องไห้?
"น่าจะเป็นอันหลังนะ"
หยิ่นเจิ้งพูดขึ้น"นอกจากคนในครอบครัวของผมแล้ว เสี่ยวถิงก็เป็นคนที่สนิทที่สุดของผม"
"ตอนนี้เขากำลังจะตายแล้ว หรือผมไม่ควรจะร้องไห้อย่างนั้นเหรอ?"หยิ่นเจิ้งพูดขึ้นด้วยความเจ็บปวดใจอย่างยิ่ง
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ พร้อมกับพูดขึ้น"ถ้าคุณเจ็บปวดหัวใจจริงๆ ก็ไม่ควรร้องไห้ แต่ควรจะโทรไปบอกลูกน้องของคุณ ให้พวกเขาหยุดลงมือซะ"
"เสี่ยวถิงไม่ตาย ก็จะกลายเป็นอันตรายกับฉันภายหลัง"หยิ่นเจิ้งส่ายหัว พูดขึ้น
หลังจากที่หยิ่นเจิ้งพูดจบแล้ว น้ำตาที่ใบหน้า ก็แห้งหายไปทันที แทนที่ด้วย สีหน้าที่ทะเยอทะยานอย่างแรงกล้าเหมือนกับก่อนหน้านี้ หลี่งฝางส่ายหัว พูดขึ้น"น้ำตาที่ไหลออกมาของคุณเมื่อตะกี้ มันคือน้ำตาจระเข้ใช่ไหม?"
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ พูดขึ้น"เจ้าเล่ห์จริงๆ"
หยิ่นเจิ้งพูด"นี่ไม่ได้เรียกว่าเจ้าเล่ห์ แต่เรียกว่าผู้ที่กระทำการใหญ่ไม่ใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อยต่างหากล่ะ ควรจะมีจิตใจที่โหดเหี้ยมและไม่อ่อนไหวง่ายๆ คุณชายหลี่ คุณยังเด็ก อาจจะไม่เข้าใจสิ่งนี้ก็ได้"
"คุณแทบไม่รู้เลยว่าการที่ผมจะสามารถอยู่มาถึงทุกวันนี้ได้ มันไม่ได้ง่ายๆเลย ผมต้องปีนขึ้นมาทีละก้าวๆ กว่าจะมาถึงจุดๆนี้ ผมไม่อยากร่วงลงไปอีกแล้ว ไม่ว่าใครหน้าไหนที่อาจจะทำให้ผมร่วงหล่นลงไปได้ ผมก็ต้องกำจัดทิ้งให้หมด แม้ว่าคนคนนั้น จะเป็นเพื่อนสนิทอันเป็นที่รักของผมก็ตาม"
หยิ่นเจิ้งพูดขึ้นอย่างเยือกเย็น"ตั้งแต่สมัยโบราณ พวกเหล่าจักรพรรดิต่างก็โหดเหี้ยมไร้จิตใจกันทั้งนั้น"
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ"พอแล้ว พูดแก้ต่างให้กับความเห็นแก่ตัวของเองให้มันน้อยๆหน่อย ผมรู้สึกว่ามันไม่คุ้มค่าแทนเสี่ยวถิงเลยสักนิด
เขารวมหัวจมท้ายอยู่กับคุณมาตลอดทั้งทาง ผ่านอุปสรรคความทุกข์ยากมากมายมาตั้งเท่าไร เกรงว่าเขาก็ไม่ได้ทุกข์ยากน้อยไปกว่าคุณเหมือนกัน แต่ ตอนที่เขากำลังจะได้เริ่มใช้ชีวิตของเขา กลับถูกพี่น้องของตัวเองฆ่าตายเสียอย่างนั้น ให้ผมเดานะ เสี่ยวถิงจะต้องนอนตายตาไม่หลับแน่นอน"
"จริงๆแล้ว คำถามที่คุณถามผมก่อนหน้านี้ มันเกินความจำเป็นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ต่อให้ไม่ใช่เสี่ยวถิงเป็นคนทำก็เถอะ คุณก็ฆ่าเขาอยู่ดี"
หลี่ฝางพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ
หยิ่นเจิ้งไม่ได้พูดแก้ต่างอะไร ในตอนนี้เอง ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นมาจากในบ้านของเสี่ยวถิง
มีพวกคนสองสามคน สวมชุดสีดำทั้งตัว หนีออกมาจากบ้านของเสี่ยวถิง พวกเขาโทรศัพท์มาหาหยิ่นเจิ้ง บอกเขา ว่าทุกคนไม่เว้นแต่คนเฒ่าคนแก่ลูกเด็กเล็กแดงของครอบครัวเสี่ยวถิง ถูกระเบิดตายจนหมดแล้ว
ตอนที่ได้ฟังข้อมูลนี้ หยิ่นเจิ้งก็ยกเหล้าขึ้นมา ดื่มไปสองคำ
เขาเงยหน้ามองท้องฟ้า มองดวงดาวที่กระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้า พร้อมกับพูดขึ้น"เสี่ยวถิง อย่าว่าพี่เลยนะ ชาติหน้า พี่จะเป็นม้าเป็นวัวให้กับนายเอง เพื่อชดเชยให้กับสิ่งที่ทำกับนายในชาตินี้"
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ"ลุงหยิ่น คุณนี่ใจเหี้ยมโหดจริงๆ ทั้งครอบครัวคนแก่และเด็ก คุณก็ไม่ปล่อยไปแม้แต่คนเดียว"
"พวกเขาอาจจะรู้ความลับของผม ถ้าขืนผมปล่อยไว้ ก็จะเป็นอันตรายต่อผมภายหลังได้ แถมถ้าลูกชายของเขามีชีวิตอยู่ แล้วต่อไปได้รู้ความจริงขึ้นมา จะต้องมาแก้แค้นผมแน่นอน"
หยิ่นเจิ้งพูดขึ้น"คุณชายหลี่ ผมไม่ใช่คนดีอะไร ผมรู้อยู่แก่ใจ คุณอย่าต่อว่าอะไรผมเลย"
"เหอะๆ แค่คำเยาะเย้ยไม่กี่คำก็รับไม่ได้แล้ว"หลี่ฝางรู้สึกเสียดายแทนเสี่ยวถิง
ในตอนนี้เอง หยิ่นเจิ้งก็รับโทรศัพท์จากบริษัท หลังจากที่วางสายแล้ว สีหน้าของหยิ่นเจิ้งก็ดูนิ่งขรึมเข้มงวดขึ้นมาผิดปกติทันที
เขาขมวดคิ้วพูดขึ้น"ไอ้แมงป่อง คงจะบ้าไปแล้ว"
"มันทำไมเหรอ?"หลี่ฝางถามขึ้นต่อ
หยิ่นเจิ้งตอบ"เมื่อตะกี้พนักงานของผมบอกผมว่า คนของแมงป่อง กำลังสืบหาเบาะแสผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผมอยู่ ดูท่าแล้ว มันคงคิดจะลงมือกับพวกตำแหน่งสูงๆของบริษัทผมแน่ๆ"
หยิ่นเจิ้งหันไปมองหลี่ฝาง แววตาเต็มไปด้วยความโกรธเกลียดเคียดแค้น
"ถ้าเขาช่วยให้ผมทำการใหญ่ได้สำเร็จ ก็ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณที่ผมเลี้ยงดูเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านก็แล้วกัน"หยิ่นเจิ้งพูดขึ้นอย่างเย็นชา
หลี่ฝางมองหยิ่นเจิ้ง พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น"ดูท่า คงจะไม่ใช่แมงป่องหรอกที่บ้า เป็นคุณต่างหากที่บ้าคลั่ง ลุงหยิ่น คุณในตอนนี้ เปลี่ยนไปเป็นอีกคนแล้ว คุณในตอนนี้ ไม่ใช่คนแล้วจริงๆ"
ในเวลานี้ หลี่ฝางเริ่มรู้สึกว่าหยิ่นเจิ้งน่ากลัวขึ้นมาแล้ว
หยิ่นเจิ้งไม่ได้พูดอะไร แต่โทรศัพท์ไปหาพวกตำแหน่งสูงๆของบริษัทตัวเอง ลาหยุดให้กับพวกเขา ให้คนเหล่านั้น ออกไปพักผ่อนที่ต่างประเทศ รอถึงตอนที่รู้ผลแพ้ชนะของตัวเองกับแมงป่องเมื่อไร เมื่อนั้นค่อยกลับมา
ส่วนเรื่องบริษัท เอาไว้ก่อน ตอนนี้หยิ่นเจิ้งก็ขี้เกียจที่จะหาเงินแล้วเหมือนกัน เป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวในตอนนี้ของเขา ก็คือละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะกำจัดแมงป่องคนเดียว
พอหลังจากที่แมงป่องถูกกำจัดแล้ว เขาก็จะเริ่มทำการล้างบางครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างในอำเภอหลินเป็นของตัวเองทั้งหมด
พูดได้เลยว่า หยิ่นเจิ้งมีจิตใจที่ทะเยอทะยานมาก
หยิ่นเจิ้งหันไปมองหลี่ฝาง ก่อนจะพูดขึ้น"ถึงไม่ใช่คนผมก็ยอม คนที่ไม่เห็นแก่ตัวเองยอมโดนเอารัดเอาเปรียบก็จะตายเพราะพฤติกรรมของตัวเอง ผมไม่ได้รู้สึกว่าผมทำอะไรผิด หลายปีมานี้ ผมก็เป็นคนที่มีความทะเยอะทะยานชอบความท้าทายแบบนี้มาโดยตลอด คุณชายหลี่ ผมยังมีธุระอีก ขอตัวก่อนแล้วกันครับ"
"ใช่แล้ว สถานที่แห่งนี้ไม่ปลอดภัย คุณสามารถพาพวกลูกน้องของคุณไปพักที่โรงแรมของผมได้นะครับ หรือไม่ก็กลับไปที่เมืองหลักซะ"
ตอนที่กำลังจะเดินไป หยิ่นเจิ้งหันมาพูดแนะนำหลี่ฝาง"โรงแรมของผมไม่ใช่แค่ปลอดภัยอย่างเดียว สภาพแวดล้อมก็ดีด้วยนะครับ"
หลี่ฝางส่ายหัว ปฏิเสธ"ขอโทษครับ ลุงหยิ่น ตอนนี้ผมชักจะเริ่มกลัวคุณแล้ว ดังนั้นจึงอยากจะอยู่ให้ห่างจากคุณสักหน่อย"
หลี่ฝางไม่ได้โง่ ไปที่โรงแรมของเขา ก็เท่ากับว่าถูกหยิ่นเจิ้งจับตาดูอยู่ไม่ใช่หรือไง?
ถ้าเป็นแบบนี้ เวลาหลี่ฝางทำอะไร ก็จะถูกหยิ่นเจิ้งรู้หมด หลังจากที่หยิ่นเจิ้งจากไปแล้ว หลี่ฝางก็หยิบมือถือออกมา โทรไปหาไอ้หน้าหนวด
หลังจากรับสายแล้ว หลี่ฝางก็เปิดปากพูดทันที"ช่วยมาแล้วยัง?"
"ช่วยมาเรียบร้อยแล้วครับ สมาชิกในครอบครัวสี่คน ช่วยออกมาหมดแล้วครับ"ไอ้หน้าหนวดหัวเราะแหะๆ พูดขึ้น"คุณชายหลี่ คุณนี่ช่างคาดการณ์ได้อย่างกับเทพจริงๆนะครับ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง