“นายกล้ายิงปืน?”
ไอ้เด็กซนแสดงสายตาที่ไม่เกรงกลัวออกมา พลางมองโหจื่อ
“ที่นี่มันที่ของฉัน ถ้านายกล้ายิงปืนล่ะก็ ฉันรับประกันได้เลยว่านายกับคุณชายของพวกนาย จะก้าวออกจากประตูไม่ได้แม้แต่ครึ่งก้าว” ไอ้เด็กซนพูดขู่ด้วยเสียงเย็นชา
โหจื่อหัวเราะเหอะๆ : “งั้นเหรอ?”
“พวกนายเก่งขนาดนั้นเลย ที่ไม่ยอมให้พวกฉันออกจากห้องไปแม้แต่ครึ่งก้าว?” โหจื่อยิ้มอย่างดูถูก และในตอนนั้นหลี่ฝางก็ควักโทรศัพท์ออกมา และพูดกับคน ที่ปลายสาย: “ลงมือ”
ทันใดนั้น ซินปาก็พาคนบุกเข้ามาในบาร์แห่งนี้ ใช้เวลาไม่กี่นาที ก็สามารถคุมตัวคนทั้งหมดไว้ได้
ที่หน้าประตู มีซินปาและคนของเขาอีกหลายคนยืนอยู่
ซินปาพูดขึ้นที่หน้าประตู: “คุณชาย บาร์แห่งนี้ ถูกพวกเราคุมไว้หมดแล้ว”
“นายกล้าแตะคนของฉัน?”
สีหน้าของไอ้เด็กซนแสดงให้เห็นถึงความโมโห เขามองไปที่หลี่ฝางพลางพูด: “นายในตอนนี้ถูกศัตรูล้อมหน้าล้อมหลัง มีศัตรูเต็มบ้านเต็มเมือง แต่ยังกลับกล้ามาทำให้พวกเราไม่พอใจ?”
หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพูด: “ข้างกายฉัน นอกจากเพื่อน ก็คือศัตรู พวกนายก็ไม่ยอมมาเป็นเพื่อนฉัน งั้นฉันก็คงทำได้แค่ให้นายเป็นศัตรู”
“แล้วก็นายคิดว่าฉันจะรู้สึกกลัว? ฉันว่านายดูถูกฉันเกินไปนะ ท่านจวนที่อยู่เบื้องหลังนายก็ไม่เห็นถึงความสัมพันธ์ในอดีตเลย งั้นฉันก็จะไม่นึกถึงมัน”
หลี่ฝางหันไป และพูดกับซินปาที่อยู่ด้านหลัง: “บาร์แห่งนี้ พังมันทิ้งให้หมด”
“ครับ คุณชาย” ซินปาพยักหน้า จากนั้นด้านนอกห้องส่วนตัว ก็มีเสียงแตกหักดังขึ้นมา
ถึงแม้ไอ้เด็กซนจะโกรธ แต่เขาก็ทำได้แค่มองตาปริบๆ ไม่กล้ากระดิก เพราะว่าปืนของโหจื่อ มันจ่ออยู่ที่หัวของเขา
“ถ้านายกล้าขยับ ฉันจะลั่นกระบาลนายซะ” โหจื่อพูดกับไอ้เด็กซน แล้วหัวเราะเหอะๆ
ไอ้เด็กซนหรี่ตา นัยน์ตาแสดงให้เห็นถึงความอาฆาต: “คิดไม่ถึงว่าไม่เจอหลายปี นายมีความสามารถเพิ่มขึ้นนะ ฉันจำได้เมื่อสามปีก่อน นายไม่กล้าพูดคำพวกนี้กับฉัน”
“ใช่แล้ว ตอนนั้นนายเก่งขนาดไหน ในตอนนั้นนายก็คือลูกบุญธรรมของท่านจวน ผู้สืบทอดที่เขาเลือก นอกจากหลอซ่า ฐานะของนาย ก็ไม่มีใครเทียบได้แล้ว พวกเราเจอนาย ยังต้องเรียกนายว่าคุณชายกันหมด แต่วันนี้มันไม่เหมือนกันแล้ว พวกเราไม่ใช่พี่น้องร่วมรบแล้ว ดังนั้น ฉันก็ไม่จำเป็นจะต้องไว้หน้านายแล้ว”
โหจื่อหัวเราะเหอะๆ พลางพูด: “แล้วก็ ฝากบอกท่านจวนด้วยนะ ถ้าหากเขาต้องการเปิดศึก งั้นก็มาเลย พวกเราไม่กังวลที่เรื่องหน้าตา”
“นี่เป็นความต้องการของนาย หรือว่าของคุณท่านรองเฉียนกันแน่?” ไอ้เด็กซนถามขึ้น
โหจื่อพูด: “นี่คือความต้องการของพวกเราทุกคน เมื่อก่อน เป็นลูกพี่ใหญ่ของเรามีใจเมตตา ให้พวกเราไม่ต้องไปงี่เง่ากับเรื่องในอดีต แต่ว่า พวกเราไม่เคยลืมมันเลย ในตอนนั้นที่พวกนายเย็นชาและนิ่งดูดาย”
“ศึกเป็นพวกนายที่เริ่มก่อ แต่ว่า สุดท้ายพวกนายกลับหนี พวกเราเลยไปต่อสู้แทนพวกนาย พวกนายมันเต่าหดหัวอยู่ในกระดอง ควรจะเลือดไหลได้ตั้งนานแล้ว”
โหจื่อพูด แล้วก็กดคอของไอ้เด็กซน ลงบนโต๊ะบาร์
กระสุนหนึ่งนัด ยิงผ่านข้างหูของไอ้เด็กซน
ไอ้เด็กซนกรีดร้อง ราวก็คนนอนไม่หลับอยู่ครู่
โหจื่อหัวเราะเหอะๆ : “วางใจ ฉันไม่ได้ยิงหูนายทิ้ง ก็แค่ถลอกนิดหน่อย ให้นายได้มีเลือดไหลบ้าง”
โหจื่อปล่อยไอ้เด็กซน และเอาปืนเก็บเข้ากระเป๋าของตน
ส่วนไอ้เด็กซนก็หาโอกาส ลงมือทันที จู่ๆ ก็ใช้มือข้างนึงคว้า ไปทางคอของโหจื่อ
แขนของไอ้เด็กซน ทำท่างอเอาไว้ ราวกับใช้ท่ากรงเล็บมังกรของเส้าหลิน แต่โหจื่อก็เหมือนกับจิ้งจกตัวนึง เกาะไปตามบนผนัง เมื่อมาถึงข้างกายไอ้เด็กซน ก็ตบไปที่ไหล่ของเขา และพูด: “ด้านบน”
เมื่อไอ้เด็กซนหันหน้ามอง โหจื่อก็ตบหน้าอย่างจัง ทำเอาไอ้เด็กซนลงไปกองกับพื้น
ไอ้เด็กซนล้มลงไปกับพื้นอย่างแรง พลางมองโหจื่ออย่างเหลือเชื่อ
“ทำไมนายถึงได้พัฒนาเยอะขนาดนี้?”
ไอ้เด็กซนจำได้คลับคล้ายคลับคลา ว่าเมื่อสามปีก่อน ฝีมือของโหจื่อ ยังไม่ดีเท่านี้
โหจื่อหัวเราะเหอะๆ : “ยังจะเพราะอะไรได้อีก ก็เพราะว่าฉันฉลาด นายโง่ไง”
โหจื่อปัดมือ มายืนอยู่ตรงหน้าไอ้เด็กซน แล้วพูด: “พูดตามตรง ท่านจวนก็เป็นไอ้เต่าหัวหดจริงๆ ถึงแม้เขาจะนำเราออกมา แต่ว่า ที่พวกเรายอมรับ ก็มีแค่หลอซ่าคนเดียว ท่านจวน ไม่มีค่ามาเป็นลูกพี่เราสักนิด”
“ไอ้เต่าหัวหดแบบนั้น น่าขายหน้าจริงๆ”
โหจื่อพูดอย่างดูถูก: “อะไรก็ไม่เป็น เป็นแค่มองคนแล้วสั่งการ”
“เหอะๆ เขาคงคิดว่าลูกพี่ใหญ่พวกเราไม่กลับมาแล้ว ดังนั้นจึงให้นายมาหาเรื่องคนของพวกเรา แบบนี้ ฝั่งสี่ตระกูลใหญ่ก็จะคิดว่าท่านจวนและพวกเราตัดความสัมพันธ์กันแล้ว ถึงตอนนั้น ไม่ว่าพวกเราจะแพ้อีกครั้ง เขายังสามารถยืนฝ่ายเดียวกับสี่ตระกูลใหญ่ และร่ำรวยไปด้วยกัน”
“ถ้าลูกพี่ใหญ่ของพวกเรากลับมา พวกเราชนะ ท่านจวนก็จะบอกว่าตนป่วย ตนไม่รู้อะไรทั้งนั้น ให้นายรับกรรมแทนเขาไป บอกว่าทั้งหมดเป็นความคิดของนาย จากนั้นก็แสดงละครเศร้าต่อหน้าลูกพี่ใหญ่ของพวกเราสักครั้ง”
โหจื่อยิ้ม แล้วพูด: “ฉันเขียนบทละครให้นายแล้ว นายคิดว่าไง?”
“ท่านจวนป่วยจริงๆ” ไอ้เด็กซนขมวดคิ้วพลางพูด
“เหรอ? งั้นก็ต้องหาหมอดีๆ มารักษาเขาแล้ว ถ้าไม่งั้นเอาแบบนี้ ส่งเขามาที่โรงพยาบาลของพวกเรา ให้พวกเรารักษาเขาอย่างดี”
โหจื่อพูด: “ถ้าช่วยไม่ได้แล้วจริงๆ ก็ให้พวกเราช่วยเขาจบชีวิตอย่างสงบสุข รับรองจะไม่เขาเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย”
“นาย……” ต่อหน้าคำเหยียดหยามของโหจื่อ ไอ้เด็กซนก็กัดฟันแน่น แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง