NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง นิยาย บท 731

“นายกล้ายิงปืน?”

ไอ้เด็กซนแสดงสายตาที่ไม่เกรงกลัวออกมา พลางมองโหจื่อ

“ที่นี่มันที่ของฉัน ถ้านายกล้ายิงปืนล่ะก็ ฉันรับประกันได้เลยว่านายกับคุณชายของพวกนาย จะก้าวออกจากประตูไม่ได้แม้แต่ครึ่งก้าว” ไอ้เด็กซนพูดขู่ด้วยเสียงเย็นชา

โหจื่อหัวเราะเหอะๆ : “งั้นเหรอ?”

“พวกนายเก่งขนาดนั้นเลย ที่ไม่ยอมให้พวกฉันออกจากห้องไปแม้แต่ครึ่งก้าว?” โหจื่อยิ้มอย่างดูถูก และในตอนนั้นหลี่ฝางก็ควักโทรศัพท์ออกมา และพูดกับคน ที่ปลายสาย: “ลงมือ”

ทันใดนั้น ซินปาก็พาคนบุกเข้ามาในบาร์แห่งนี้ ใช้เวลาไม่กี่นาที ก็สามารถคุมตัวคนทั้งหมดไว้ได้

ที่หน้าประตู มีซินปาและคนของเขาอีกหลายคนยืนอยู่

ซินปาพูดขึ้นที่หน้าประตู: “คุณชาย บาร์แห่งนี้ ถูกพวกเราคุมไว้หมดแล้ว”

“นายกล้าแตะคนของฉัน?”

สีหน้าของไอ้เด็กซนแสดงให้เห็นถึงความโมโห เขามองไปที่หลี่ฝางพลางพูด: “นายในตอนนี้ถูกศัตรูล้อมหน้าล้อมหลัง มีศัตรูเต็มบ้านเต็มเมือง แต่ยังกลับกล้ามาทำให้พวกเราไม่พอใจ?”

หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพูด: “ข้างกายฉัน นอกจากเพื่อน ก็คือศัตรู พวกนายก็ไม่ยอมมาเป็นเพื่อนฉัน งั้นฉันก็คงทำได้แค่ให้นายเป็นศัตรู”

“แล้วก็นายคิดว่าฉันจะรู้สึกกลัว? ฉันว่านายดูถูกฉันเกินไปนะ ท่านจวนที่อยู่เบื้องหลังนายก็ไม่เห็นถึงความสัมพันธ์ในอดีตเลย งั้นฉันก็จะไม่นึกถึงมัน”

หลี่ฝางหันไป และพูดกับซินปาที่อยู่ด้านหลัง: “บาร์แห่งนี้ พังมันทิ้งให้หมด”

“ครับ คุณชาย” ซินปาพยักหน้า จากนั้นด้านนอกห้องส่วนตัว ก็มีเสียงแตกหักดังขึ้นมา

ถึงแม้ไอ้เด็กซนจะโกรธ แต่เขาก็ทำได้แค่มองตาปริบๆ ไม่กล้ากระดิก เพราะว่าปืนของโหจื่อ มันจ่ออยู่ที่หัวของเขา

“ถ้านายกล้าขยับ ฉันจะลั่นกระบาลนายซะ” โหจื่อพูดกับไอ้เด็กซน แล้วหัวเราะเหอะๆ

ไอ้เด็กซนหรี่ตา นัยน์ตาแสดงให้เห็นถึงความอาฆาต: “คิดไม่ถึงว่าไม่เจอหลายปี นายมีความสามารถเพิ่มขึ้นนะ ฉันจำได้เมื่อสามปีก่อน นายไม่กล้าพูดคำพวกนี้กับฉัน”

“ใช่แล้ว ตอนนั้นนายเก่งขนาดไหน ในตอนนั้นนายก็คือลูกบุญธรรมของท่านจวน ผู้สืบทอดที่เขาเลือก นอกจากหลอซ่า ฐานะของนาย ก็ไม่มีใครเทียบได้แล้ว พวกเราเจอนาย ยังต้องเรียกนายว่าคุณชายกันหมด แต่วันนี้มันไม่เหมือนกันแล้ว พวกเราไม่ใช่พี่น้องร่วมรบแล้ว ดังนั้น ฉันก็ไม่จำเป็นจะต้องไว้หน้านายแล้ว”

โหจื่อหัวเราะเหอะๆ พลางพูด: “แล้วก็ ฝากบอกท่านจวนด้วยนะ ถ้าหากเขาต้องการเปิดศึก งั้นก็มาเลย พวกเราไม่กังวลที่เรื่องหน้าตา”

“นี่เป็นความต้องการของนาย หรือว่าของคุณท่านรองเฉียนกันแน่?” ไอ้เด็กซนถามขึ้น

โหจื่อพูด: “นี่คือความต้องการของพวกเราทุกคน เมื่อก่อน เป็นลูกพี่ใหญ่ของเรามีใจเมตตา ให้พวกเราไม่ต้องไปงี่เง่ากับเรื่องในอดีต แต่ว่า พวกเราไม่เคยลืมมันเลย ในตอนนั้นที่พวกนายเย็นชาและนิ่งดูดาย”

“ศึกเป็นพวกนายที่เริ่มก่อ แต่ว่า สุดท้ายพวกนายกลับหนี พวกเราเลยไปต่อสู้แทนพวกนาย พวกนายมันเต่าหดหัวอยู่ในกระดอง ควรจะเลือดไหลได้ตั้งนานแล้ว”

โหจื่อพูด แล้วก็กดคอของไอ้เด็กซน ลงบนโต๊ะบาร์

กระสุนหนึ่งนัด ยิงผ่านข้างหูของไอ้เด็กซน

ไอ้เด็กซนกรีดร้อง ราวก็คนนอนไม่หลับอยู่ครู่

โหจื่อหัวเราะเหอะๆ : “วางใจ ฉันไม่ได้ยิงหูนายทิ้ง ก็แค่ถลอกนิดหน่อย ให้นายได้มีเลือดไหลบ้าง”

โหจื่อปล่อยไอ้เด็กซน และเอาปืนเก็บเข้ากระเป๋าของตน

ส่วนไอ้เด็กซนก็หาโอกาส ลงมือทันที จู่ๆ ก็ใช้มือข้างนึงคว้า ไปทางคอของโหจื่อ

แขนของไอ้เด็กซน ทำท่างอเอาไว้ ราวกับใช้ท่ากรงเล็บมังกรของเส้าหลิน แต่โหจื่อก็เหมือนกับจิ้งจกตัวนึง เกาะไปตามบนผนัง เมื่อมาถึงข้างกายไอ้เด็กซน ก็ตบไปที่ไหล่ของเขา และพูด: “ด้านบน”

เมื่อไอ้เด็กซนหันหน้ามอง โหจื่อก็ตบหน้าอย่างจัง ทำเอาไอ้เด็กซนลงไปกองกับพื้น

ไอ้เด็กซนล้มลงไปกับพื้นอย่างแรง พลางมองโหจื่ออย่างเหลือเชื่อ

“ทำไมนายถึงได้พัฒนาเยอะขนาดนี้?”

ไอ้เด็กซนจำได้คลับคล้ายคลับคลา ว่าเมื่อสามปีก่อน ฝีมือของโหจื่อ ยังไม่ดีเท่านี้

โหจื่อหัวเราะเหอะๆ : “ยังจะเพราะอะไรได้อีก ก็เพราะว่าฉันฉลาด นายโง่ไง”

โหจื่อปัดมือ มายืนอยู่ตรงหน้าไอ้เด็กซน แล้วพูด: “พูดตามตรง ท่านจวนก็เป็นไอ้เต่าหัวหดจริงๆ ถึงแม้เขาจะนำเราออกมา แต่ว่า ที่พวกเรายอมรับ ก็มีแค่หลอซ่าคนเดียว ท่านจวน ไม่มีค่ามาเป็นลูกพี่เราสักนิด”

“ไอ้เต่าหัวหดแบบนั้น น่าขายหน้าจริงๆ”

โหจื่อพูดอย่างดูถูก: “อะไรก็ไม่เป็น เป็นแค่มองคนแล้วสั่งการ”

“เหอะๆ เขาคงคิดว่าลูกพี่ใหญ่พวกเราไม่กลับมาแล้ว ดังนั้นจึงให้นายมาหาเรื่องคนของพวกเรา แบบนี้ ฝั่งสี่ตระกูลใหญ่ก็จะคิดว่าท่านจวนและพวกเราตัดความสัมพันธ์กันแล้ว ถึงตอนนั้น ไม่ว่าพวกเราจะแพ้อีกครั้ง เขายังสามารถยืนฝ่ายเดียวกับสี่ตระกูลใหญ่ และร่ำรวยไปด้วยกัน”

“ถ้าลูกพี่ใหญ่ของพวกเรากลับมา พวกเราชนะ ท่านจวนก็จะบอกว่าตนป่วย ตนไม่รู้อะไรทั้งนั้น ให้นายรับกรรมแทนเขาไป บอกว่าทั้งหมดเป็นความคิดของนาย จากนั้นก็แสดงละครเศร้าต่อหน้าลูกพี่ใหญ่ของพวกเราสักครั้ง”

โหจื่อยิ้ม แล้วพูด: “ฉันเขียนบทละครให้นายแล้ว นายคิดว่าไง?”

“ท่านจวนป่วยจริงๆ” ไอ้เด็กซนขมวดคิ้วพลางพูด

“เหรอ? งั้นก็ต้องหาหมอดีๆ มารักษาเขาแล้ว ถ้าไม่งั้นเอาแบบนี้ ส่งเขามาที่โรงพยาบาลของพวกเรา ให้พวกเรารักษาเขาอย่างดี”

โหจื่อพูด: “ถ้าช่วยไม่ได้แล้วจริงๆ ก็ให้พวกเราช่วยเขาจบชีวิตอย่างสงบสุข รับรองจะไม่เขาเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย”

“นาย……” ต่อหน้าคำเหยียดหยามของโหจื่อ ไอ้เด็กซนก็กัดฟันแน่น แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้

“เป้าหมายของพวกเขา ก็คือทำให้ลูกพี่ใหญ่ไม่มีทางกลับมา”

“พูดแบบไม่น่าฟัง ถ้าหากลูกพี่ใหญ่มีเกิดเรื่องไม่คาดคิด พวกมู่หรงฉางเฟิงก็ไม่จำเป็นต้องลงมืออะไรกับพวกเราเลย พวกเราก็ต้องหนีออกจากประเทศไปอย่างเชื่องๆ เหมือนกับเมื่อก่อน ใช้ชีวิตหนีตาย”

โหจื่อพูด: “ดังนั้น พวกเราจะชนะได้มั้ย ก็ทำได้แค่ดูว่าลูกพี่ใหญ่จะได้กลับมามั้ย”

“ลูกพี่ใหญ่ยอดเยี่ยมขนาดนั้น เพื่อที่จะไม่ทำร้ายหลายชีวิต เขาจึงจงใจพาทุกคน ไปที่ต่างประเทศ” โหจื่อพูดด้วยน้ำเสียงซับซ้อน: “ฉันอยากจะไปช่วย แต่ลุงเฉียนก็ไม่ยอมให้ฉันไป”

“โหจื่อ นายพูดกับฉันจากจริงใจ ครั้งนี้พ่อฉันจะกลับมาได้มั้ย?” หลี่ฝางถามอย่างเต้นใจรัว

โหจื่อส่ายหน้า แล้วพูด: “ฉันไม่รู้ บนโลกนี้ไม่มีเรื่องไหนแน่นอน ฉันไม่ได้พูดให้หมดกำลังใจ แต่ถ้าลูกพี่ใหญ่มีเปอร์เซ็นต์ที่จะชนะอยู่ร้อยเปอร์เซ็นต์จริงๆ งั้นเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องย้ายศึกนี้ไปที่ต่างประเทศหรอก”

“ไม่กี่วันก่อน ฉันได้ยินลุงเฉียนพูด ตอนที่ลูกพี่ใหญ่ไปกะทันหัน ก็จัดการเรื่องข้างหลังแล้ว พูดไว้ซะดิบดี” โหจื่อพูด

ใจของหลี่ฝาง ดำดิ่งลงไปไม่น้อย: “พูดแบบนี้ พ่อของฉันเขา……”

“คุณชาย ฉันพูดเรื่องพวกนี้ ก็แค่อยากให้นายเตรียมตัวให้พร้อมที่จะเผชิญในด้านนี้ ไม่ใช่ให้นายมองในแง่ลบ ที่จริงความสามารถของลูกพี่ใหญ่ ถ้าเขาอยากจะหนี บนโลกนี้ ก็มีไม่กี่คนที่สามารถฆ่าเขาได้”

โหจื่อพูด: “สิ่งเดียวที่พวกเราต้องกังวล คือลูกพี่ใหญ่จะเกิดมีความคิดที่จะฆ่ามั้ย”

“ความคิดที่จะฆ่า?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว

“ก็คือเพื่อที่จะล้างแค้นแทนพวกเรา ถึงแม้มีโอกาสที่จะหนี แต่ในใจก็อยากจะยอมแพ้” โหจื่อพูดอธิบาย

“ช่างเถอะ รออยู่เงียบๆ ดีกว่า ศึกฝั่งนั้น ก็เกิดขึ้นมาแล้ว เชื่อว่าไม่กี่วันนี้ ก็จะมีผลลัพธ์ออกมาแล้ว” โหจื่อถอนหายใจเฮือกใจ: “ฝั่งพวกเรา ก็ต้องปกป้องบ้านให้ดี และรอฮีโร่ลูกพี่ใหญ่ของพวกเรากลับมาอย่างเงียบๆ ”

“อืม” หลี่ฝางพยักหน้า

“ดูเหมือนคืนนี้นายเอาแต่ทำหน้าบึ้ง มีเรื่องในใจเหรอ?” โหจื่อมองหลี่ฝาง แล้วถามขึ้น

หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพูดด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี: “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่ความรู้สึกของฉันคนเดียวที่มีปัญหา ก่อนจะมา ฉันอกหัก จากแฟนสาวของฉัน ลู่หลุ่ย พวกเราเลิกกันจริงๆ แล้ว”

“พวกเราทะเลาะกันรุนแรงมาก ฉันคิดว่าฉันไม่มีโอกาสแล้ว ที่จริงฉันอารมณ์ดาวน์มากๆ อยากจะหาใครสักคน หาที่ที่นึง แล้วดื่มให้เมา แต่หน้าฉันมีเรื่องหลายเรื่อง ต้องการให้ฉันจัดการ ฉันไม่มีเวลาหรือแรงที่จะไปเศร้า ทำได้แค่เลือกที่จะอดทน” หลี่ฝางพูด

“นายโตแล้ว คุณชาย ไม่ได้ทำอะไรโดยขาดเหตุผลแล้ว” โหจื่อมองหลี่ฝาง แล้วยิ้มแบบเข้าใจ

หลี่ฝางยิ้มเหมือนไม่ได้ยิ้ม: “เหรอ? ฉันก็ไม่รู้ ฉันได้เปลี่ยนเป็นโตขึ้นจริงๆหรือเปล่า ก็แค่ ฉันรู้ว่า ณ จุดนี้ ฉันไม่สามารถเหมือนคนธรรมดา ที่อกหักแล้วก็ไประบายได้ ระบายอารมณ์ นี่ไม่ใช่ปัญหาของคนอื่น มันคือปัญหาของตัวฉันเอง ฉันจำเป็นที่จะต้องจัดการด้วยตัวเอง ถ้าหากจัดการได้ช้า ไอ้หมอนั่น ก็จะเหยียบบนที่ของฉันต่อไป”

“ไอ้เด็กซนเหรอ? ไม่รู้ว่าท่านจวนคิดยังไงกันแน่ หรือว่า เขาอยากจะกลืนกินพวกเราจริงๆ?” โหจื่อขมวดคิ้ว แล้วพูด: “ถ้าหากเป็นแบบนั้น ไอ้หมอนั่น ก็น่ากลัวจริงๆ”

“ถ้าหากไม่ใช่ เขาก็ไม่จำเป็นต้องเกิดปัญหากับพวกเรา เพื่อผู้หญิงไม่กี่คน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง