ลุงเฉียนพยักหน้าอย่างหนักแน่น แล้วพูด: “หลังจากนี้สามวัน ถ้าหากไม่ได้ข่าวคราวจากลูกพี่ใหญ่ หรือว่ายังหาตัวลูกพี่ใหญ่ไม่เจอ งั้นทางเรา จะต้องถอยตัว”
“กลับไปทางเก่า พวกเราจะตามคุณท่านหลี่ ออกไปจากเมืองเอก” ลุงเฉียนพูด
หลี่ฝางยืนโง่อยู่ครู่ ในใจรู้รู้สึกหนักมากๆ : “งั้นเปอร์เซ็นต์ที่พ่อผมจะกลับมาคือ……”
“ในใจของฉัน เปอร์เซ็นต์ที่ลูกพี่ใหญ่ยังมีชีวิตอยู่ หรือร้อยเปอร์เซ็นต์ตลอดไป” ลุงเฉียนพูด
“ใช่แล้ว ยัยฉินวี่เฟยนั่น อยู่ที่บ้านพักตากอากาศใช่มั้ย นายไปอยู่เป็นเพื่อนเธอเถอะ” เห็นได้ชัดว่าลุงเฉียนไม่อยากให้บทสนทนานี้ดำเนินไปต่อ จึงปัดมือ
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วเดินออกไป
พูดมากไปตอนนี้ ก็ไม่มีประโยชน์
เวลาสามวัน รออย่างเงียบๆ ก็พอแล้ว
ออกมาจากลุงเฉียน หลี่ฝางก็มาหาฉินวี่เฟย
ฉินวี่เฟยในตอนนั้น กำลังนั่งอยู่บนศาลาในสวน ในมือถือหนังสืออยู่หนึ่งเล่ม พลางอ่านอย่างเงียบๆ
หลี่ฝางมอง พลางยิ้มทักทาย: “ไม่ได้รบกวนเธอใช่มั้ย?”
ฉินวี่เฟยเงยหน้า พลางหลี่ฝางที่กลับมา และยิ้มขึ้นอย่างดีใจ: “นายกลับมาแล้วเหรอ?”
หลี่ฝางมองฉินวี่เฟย ในมือของฉินวี่เฟย กำลังถือหนังสือเศรษฐกิจอยู่เล่มนึง ฉินวี่เฟยยิ้มอย่างเลิ่กลั่ก แล้วพูด: “นี่เป็นหนังสือที่พ่อฉันแนะนำมา พ่อให้ฉันอ่านเยอะๆ จะได้มีความรู้ไว้หน่อย”
“ใช่แล้ว ฉันยกบริษัทให้พ่อฉันดูแลแล้ว ฉันรู้สึกว่าฉันไม่มีความสามารถพอที่จะดูแลบริษัทใหญ่ขนาดนั้น แล้วก็ฉันผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึง สู้กับคนมากมายทั้งบริษัทไม่ไหวหรอก”
“สู้ยกอำนาจจัดการบริษัทนั้น ให้กับพ่อฉันดีกว่า ถึงยังไงก็เป็นคนกันเอง ฉันวางใจ แล้วก็ เมื่อก่อนที่คุณปู่ฉันยังอยู่ พ่อฉันก็เป็นคนดูแลบริษัท แถมเขายังทำได้ดีมากอีกด้วย”
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วพูด: “ก็ดีนะ แต่ว่า อ่านหนังสือแบบนี้ ฉันคิดว่าไม่มีประโยชน์หรอก ฉันว่าไปตามดูพ่อของเธอ แล้วเรียนรู้จากเขายังดีกว่า”
“ช่างมันเถอะ ที่จริงแล้วฉันก็อ่านเล่นๆ ไปงั้น นายคิดอยากให้ฉันเป็นประธานกรรมการบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปจริงๆ เหรอ ฉันไม่อยากเป็นหรอก เมื่อก่อน ฉันถูกบีบให้เป็นเท่านั้นเอง ตอนนี้ พี่ฉันก็ได้สติแล้ว และก็กลับไปช่วยงานที่บริษัทแล้วด้วย เขามีความสามารถในการจัดการบริษัทมากกว่าฉัน เพราะงั้น ฉันไม่คิดจะกลับไปที่บริษัทแล้ว” ฉินวี่เฟยพูด
หลี่ฝางชะงักอยู่ครู่ มองฉินวี่เฟย พลางถาม: “งั้นเธอคิดจะกลับไปที่ไหน? กลับมหาลัยเหรอ?”
ฉินวี่เฟยส่ายหน้า แล้วพูด: “ไม่อ่ะ ฉันเรียนจนเอียนแล้ว ถึงยังไงตอนนี้ฉันก็ยื่นเรื่องพักการเรียนไปแล้ว ก็ขี้เกียจกลับไปแล้ว แล้วก็ เพื่อนร่วมชั้นก็รู้ถึงฐานะของฉันแล้ว ประธานกรรมการบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ฉันกลับไปตอนนี้ คงจะถูกคนเขานินทากันแน่ๆ เลย ไม่ใช่แค่โดนเพื่อนร่วมชั้นนินทา แม้แต่คนในสังคม ก็จะจับตาฉันด้วย”
“นั่นมันก็จริง งั้นหลังจากนี้เธอวางแผนจะทำอะไร?” หลี่ฝางหัวเราะ พลางถาม
“ที่จริงแล้วฉันชอบวาดรูปน่ะ ฉันอยากจะวาดการ์ตูนสักเรื่อง นี่ถือได้ว่าเป็นความฝันของฉันเลย ถึงแม้สายทางนักวาดการ์ตูนในประเทศ จะลำบากมากๆ และพรสวรรค์ของฉันไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่ฉันอยาก ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ คงจะเป็นเรื่องที่มีความสุขมากๆ แน่” ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝาง ด้วยนัยน์ตามีความหวัง: “นายจะสนับสนุนฉันมั้ย?”
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “แน่นอนสิ”
“ใช่แล้ว เมื่อกี้ฉันได้ยินมา นายเลิกกับลู่หลุ่ยแล้วเหรอ?” จู่ๆ สีหน้าของฉินวี่เฟยก็เปลี่ยนไป เป็นซับซ้อนพลางมองหลี่ฝาง
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “เธอเข้าใจผิดว่าฉันกับเหยนเสี่ยวน่า มีอะไรกัน……”
“แน่นอน เหตุผลหลักๆ ที่เลิกกัน ก็เพราะว่าเธอรู้สึกไม่มั่นคง รู้สึกว่าฉันไม่ค่อยแคร์เธอเท่าไหร่ พูดตามตรง เหตุผลที่พวกเราสองคนเลิกกัน มันอยู่ที่ฉันเอง ฉันไม่ได้ใส่ใจเธอมานานมาก ไม่ได้ทำหน้าที่ที่แฟนที่ดีควรจะทำ”
ฉินวี่เฟยขมวดคิ้ว: “ทำไมนายไม่อธิบายกับเธอดีๆ นายกับเหยนเสี่ยวน่า……เป็นไปได้ไงกัน?”
“ช่างเถอะ ฉันรู้สึกว่าสภาพฉันในตอนนี้แย่มาก ถึงแม้ฉันจะอธิบายไป แล้วลู่หลุ่ยให้อภัย ไม่นาน พวกเราก็ต้องเลิกกันอยู่ดี ฉันคิดดีแล้ว ฉันก็ลู่หลุ่ย เราเข้ากันไม่ได้” หลี่ฝางถอนหายใจ พลางพูด
“ชีวิตของฉัน ไม่ได้ธรรมดาเหมือนคนทั่วไป ส่วนลู่หลุ่ย ก็ไม่มีทางเข้าใจฉันได้ ส่วนฉันถ้ายุ่งขึ้นมา ก็ดูแลฝั่งลู่หลุ่ยไม่ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง