NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง นิยาย บท 750

ท่านจวนค่อยๆเผยรอยยิ้มออกมา แล้วพูดด้วยใบหน้าที่สบายๆว่า “พูดถูกแล้ว ฉันก็อายุปูนนี้แล้ว คำที่พูดออกไป จะไม่ทำตามได้ยังไง?”

“ภายในสามวัน ฉันจะย้ายออกไปจากวิลล่าจูเซียนแห่งนี้ ถึงเวลานั้น วิลล่าจูเซียนแห่งนี้ก็จะกลายเป็นของเสี่ยวฝางแล้ว” ท่านจวนพูดด้วยรอยยิ้มที่สบายๆ

ถ้าเกิดบอกว่าท่านจวนไม่ปวดใจล่ะก็ แน่นอนว่านั่นต้องเป็นเรื่องโกหก

บางทีท่านจวนอาจจะไม่ได้เสียดายเงินห้าร้อยล้าน แต่ท่านจวนคนนี้ เขาอยู่ที่นี่มันนานกว่าเจ็ดปีแล้ว อีกอย่าง คฤหาสน์แห่งนี้ทุกๆทางเดิน ทุกๆการออกแบบ ล้วนถูกสร้างขึ้นตามความชื่นชอบของท่านจวน

แต่ว่า ท่านจวนก็ยังเหลือตัวเลือกเอาไว้

เขาบอกว่าหลังจากนี้สามวัน ถึงจะย้ายออกจากคฤหาสน์ แล้วมอบมันให้กับหลี่ฝาง

คิดว่า เขาเองก็คงจะเข้าใจดีแล้ว ภายในสามวันนี้ ถ้าหลอซ่าไม่กลับมา ก็แปลว่ากลับมาไม่ได้แล้ว

ถ้าเกิดถึงเวลานั้นหลอซ่าสามารถกลับมาได้ งั้นท่านจวน ก็มอบให้กับตระกูลหลี่เป็นการชดเชยก็แล้วกัน

ถ้าเกิดกลับมาไม่ได้ล่ะก็ งั้นสถานที่ของท่านจวนแห่งนี้ หลี่ฝาง ก็เอาไปไม่ได้

เพราะงั้น ท่านจวนก็ไม่ได้ขาดทุนอะไร

ผู้ชายที่สวมเสื้อลายพรางและไอ้เด็กซนถึงจะถูกโหจื่อพูดเยาะเย้ย แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก

ยังไงซะ เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านจวน พวกเขาก็ไม่กล้าเสียมารยาทอีกครั้ง

โหจื่อลูบท้องของตัวเองแล้วพูดว่า “ท่านจวน คนก็มากันครบแล้ว ยังไม่เริ่มกินข้าวกันอีกเหรอ? พอผมได้ยินว่าคุณจะเลี้ยงข้าว ผมเลยไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน”

ท่านจวนพยักหน้า และสั่งการไอ้เด็กซนผ่านทางสายตา

ไอ้เด็กซนเดินออกไป เพียงไม่นาน อาหารก็ถูกยกออกมา

อาหารแต่ละจาน ล้วนดูหรูหรา ท่านจวนหันไปพูดกับหลี่ฝางว่า “เสี่ยวฝาง รีบชิมดูสิ”

หลี่ฝางลังเลไปพักนึง ถึงค่อยขยับจับตะเกียบ

งานเลี้ยงที่มีเลศนัยแอบแฝงในครั้งนี้ หลี่ฝางเข้าใจมันดี

ด้วยเฉพาะไอ้ซือถูเฟย ยังเตือนหลี่ฝางเอาไว้ว่า ห้ามเขามาร่วมงานเลี้ยงนี้เป็นอันขาด

ข้างในอาหารเหล่านี้ จะใส่ยาพิษไว้รึเปล่าน่ะ?

แต่พอหลี่ฝางคิดดูดีๆ นี่เป็นถิ่นของท่านจวน ถ้าเกิดเขาต้องการทำอะไรตัวเขาล่ะก็ ไม่จำเป็นต้องวางยาถูกไหม?

โหจื่อไม่ใช่ส้าวส้วย ถึงแม้โหจื่อจะเก่งมาก แต่ว่า โหจื่อแค่คนเดียว ก็ไม่สามารถต่อกรกับจำนวนคนทั้งหมดที่อยู่ในคฤหาสน์ถูกไหม?

เพราะงั้น หลี่ฝางจึงรู้สึกว่า ข้างในอาหารไม่น่าจะมียาพิษ

ท่านจวนคนนี้ ไม่น่าจะใช้วิธีต่ำช้าแบบนี้ เพื่อทำร้ายตัวเองหรอก

อาหารไม่เพียงดูดี แถมรสชาติก็ยอดเยี่ยม หลังจากที่หลี่ฝางเริ่มขยับตะเกียบ ท่านจวนเองก็เริ่มลงมือทานขึ้นมาเหมือนกัน......

มีเพียงแค่ผู้หญิงที่สวมหน้ากากคนนั้น ที่ไม่ยอมขยับเขยื้อน

โหจื่อมองผู้หญิงที่สวมหน้ากาก แล้วหัวเราะออกมา “เป็นไรไป หน้าตาขี้เหร่แล้วกินอาหารไม่เป็นเหรอ มา เดี๋ยวฉันป้อนเธอเอง”

พอโหจื่อพูดจบ ก็ใช้ตะเกียบคีบแตงกวาขึ้นมา แล้วคีบไปให้เธอ

และเป้าหมายของโหจื่อ แน่นอนว่าไม่ใช่ต้องการที่จะป้อนข้าวผู้หญิงสวมหน้ากาก เขาต้องการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของผู้หญิงคนนี้ต่างหาก

แต่ว่า โหจื่อก็ล้มเหลว

ระหว่างนั้น ท่านจวนก็หยุดกระทำของโหจื่อ แล้วอธิบายกับโหจื่อว่า “เธอทานมาก่อนแล้ว”

“กินจนอิ่มแล้ว? ในเมื่อกินจนอิ่มแล้ว ทำไมถึงยังมานั่งเป็นอากาศธาตุในนี่อีกล่ะ” โหจือพูดด้วยน้ำเสียงที่แปลกประหลาด

พอพูดจบ โหจื่อก็โยน ตะเกียบออกไปหนึ่งอัน แต่ผู้หญิงสวมหน้ากากหลบมันได้

แต่ว่าระหว่างที่หลบ ผู้หญิงสวมหน้ากากก็เผยใบหน้าออกมาส่วนนึง

“ทำไมกันน่ะ ฉันถึงรู้สึกคุ้นๆเธอยังไงก็ไม่รู้?”

ทันใดนั้น โหจื่อมองไปยังผู้หญิงที่สวมหน้ากาก ด้วยใบหน้าที่ตึงเครียด

เวลานี้ ใบหน้าของโหจื่อ ได้เผยความโกรธออกมาเล็กน้อย “โหจื่อ แกจะเสียมารยาทเกินไปแล้ว ถึงฉันเชิญแกมากินอาหารในถิ่นของฉัน แต่ก็ไม่เคยอนุญาตให้แกมาก่อกวนในโต๊ะอาหาร”

โหจื่อไม่ได้สนใจคำพูดของท่านจวน แตะกลับมองไปยังผู้หญิงสวมหน้ากาก แล้วถามว่า “ตกลงเธอเป็นใครกันแน่? ทำไมต้องปิดบังตัวตน?”

“พวกเรารู้จักกันใช่ไหม?” โหจื่อจ้องมองไปยังผู้หญิงสวมหน้ากาก แล้วซักถามต่อ

หลี่ฝางดึงตัวโหจื่อแป๊บนึง เพื่อให้โหจื่อทำตัวมีมารยาทหน่อย ยังไงซะ ที่นี่ก็เป็นถิ่นของพวกเขา

และในเวลานี้ ใบหน้าของท่านจวนก็หมองลงเล็กน้อย แล้วพูดว่า “โหจื่อ ถ้าเกิดแกเองก็ทานจนอิ่มแล้ว ก็ไปนั่งพักผ่อนอยู่ที่ห้องข้างๆเถอะ”

โหจื่อส่ายหัวแล้วยิ้มออกมา “ให้ฉันออกไปน่ะได้ แต่ว่า ฉันอยากจะออกไปพร้อมกับเธอ”

ผู้หญิงสวมหน้ากากไม่ได้พูดอะไร ยืนขึ้นมาทันที แล้วเดิน ออกไปยังห้องข้างๆ

ส่วนโหจื่อมองหลี่ฝางแวบนึง แล้วพูดว่า “คุณชาย เดี๋ยวฉันกลับมา บนตัวผู้หญิงคนนั้น มีอะไรที่น่าสงสัย”

หลี่ฝางร้อนรนเล็กน้อย คิ้วขมวดขึ้นมาด้วยที่ไม่รู้ตัว แล้วพูดว่า “แกไม่คิดว่านี่เป็นการล่อเสือออกจากถ้ำเหรอ?”

สีหน้าของโหจื่อตกใจเล็กน้อย แล้วก็ส่ายหัว “ฉันเกือบจะหลงกลแผนของพวกเขาซะแล้ว”

พอพูดจบด้วยเสียงที่เบา โหจื่อก็หยิบตะเกียบขึ้นมาใหม่ แล้วพูดว่า “ต้องขอโทษด้วย ท่านจวน ฉันยังรู้สึกฉันยังกินไม่อิ่ม ขอกินต่ออีกหน่อยก็แล้วกัน จริงสิ ยังมีตะเกียบเหลือไหม? ตอนนี้ฉันมีตะเกียบแค่อันเดียว จะให้กินยังไงล่ะ”

แผนของท่านจวนล้มเหลวแล้ว จึงรู้สึกไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

“แกอยากจะรู้มาตลอดไม่ใช่เหรอว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันน่ะ?” ท่านจวนถาม

“โหจื่อ ผู้หญิงคนนั้นอาจจะมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นผู้หญิงที่อยู่ในใจของแก แกเชื่อรึเปล่า?” ไอ้เด็กซนก็ช่วยพูดเสริมอยู่ข้างๆ

โหจื่อหัวเราะออกมาแวบนึง “ถ้าเกิดพวกแกไม่พูดแบบนี้ ฉันก็คงเดาไม่ออกจริงๆว่าเธอเป็นใครกันแน่”

“ศิษย์พี่ เป็นแกเองเหรอ?”

โหจื่อหันหน้า มองไปยังห้องข้างๆ แล้วพูดว่า “ศิษย์พี่ กว่าพวกเราจะเจอกันได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ทำไมต้องปิดบังตัวตนกันด้วย ทำไมเหรอ ไม่เห็นแค่ไม่กี่วัน ก็กลายเป็นคนขี้อายแล้วเหรอ?”

สีหน้าของท่านจวนเปลี่ยนไปในทันที เขานึกไม่ถึงว่า โหจื่อจะเดาตัวตนของผู้หญิงสวมหน้ากากได้เร็วขนาดนี้

ตงฟางหวั่นเอ๋อ!

หรือก็คือฟีนิกซ์

ผ่านไปสักพักฟีนิกซ์ ก็เดินออกมาจากห้องข้างๆ หลังจากที่เธอออกมา ก็จ้องมองไอ้เด็กซนด้วยความดุเดือด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง