NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง นิยาย บท 768

สรุปบท บทที่ 768 คิดบัญชีกับมู่เสี่ยวไป๋: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

สรุปตอน บทที่ 768 คิดบัญชีกับมู่เสี่ยวไป๋ – จากเรื่อง NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง โดย เฉียงเกอ9527

ตอน บทที่ 768 คิดบัญชีกับมู่เสี่ยวไป๋ ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง โดยนักเขียน เฉียงเกอ9527 เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

มู่เสี่ยวไป๋สีหน้าตกตะลึง........

การกระทำของหลี่ฝางนั้น มันเป็นการบีบให้เขาเดินไปสู่เส้นทางมรณะ.........

แต่ว่าตัวเอง เดิมทีไม่ใช่เดินอยู่บนเส้นทางมรณะหรอกเหรอ?

หลี่ฝางมองดูสีหน้ามู่เสี่ยวไป๋ เขายิ้มเล็กน้อย ภายในรอยยิ้มแฝงไปด้วยจิตสังหาร “เป็นไงล่ะ ไม่กล้าเหรอ? หรือว่าไม่อยากจะไป?”

มู่เสี่ยวไป๋ส่ายหน้า “เรื่องที่คุณชายหลี่สั่งมา ผู้น้อยจะทำตามก็แล้วกัน”

เมื่อได้ยินคำนี้แล้ว ใบหน้าหลี่ฝางแสดงรอยยิ้มที่พอใจ “ไม่เลวเลย แกสามารถที่จะถอดหัวโขนของคุณชายมู่ออกได้อย่างรวดเร็ว รู้ว่าฐานะตัวเองตอนนี้เป็นอย่างไร ฉันชื่นชมมาก”

“ได้ ไปสิ แสดงฝีมือให้เต็มที่ อย่างน้อย นี่เป็นเรื่องแรกที่แกทำให้ฉัน ทางที่ดีที่สุด แกอย่าทำให้ฉันผิดหวังก็แล้วกัน”

หลี่ฝางพูดพลางทำตาหรี่แล้วยิ้มอย่างเย็นชา “ไม่เช่นนั้นแล้วล่ะก็ สิ่งที่จะสูญเสียไปไม่เพียงแค่ขาสองข้างเท่านั้น”

กลิ่นอายพิฆาตแผ่ซ่านตรงมา ทำให้มู่เสี่ยวไป๋สั่นสะท้านไปทั้งตัว

นาทีนี้เอง มู่เสี่ยวไป๋รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเหมือนกำลังถูกหลี่ฝางบีบรัดอยู่ หลี่ฝางต้องการจะให้เขาตายตอนเวลาไหนก็ย่อมได้

มู่เสี่ยวไป๋พยักหน้า มองไปยังหลี่ฝางอย่างหมดเรี่ยวแรง แล้วพูดว่า “วางใจเถอะครับคุณชายหลี่”

หลังจากที่มู่เสี่ยวไป๋จากไปแล้ว ซินปาก็เดินมาตรงหน้าหลี่ฝาง ถามอย่างสงสัยว่า “คุณชาย คุณเชื่อใจเขาจริงเหรอ?”

“นั่นน่ะสิ เสี่ยวฝาง มู่เสี่ยวไป๋ไอ้เวรตะไลนี้ ปลิ้นปล้อนตลบตะแลงมาหลายครั้งหลายหนแล้ว คุณจะปล่อยเขาไปอย่างนี้เลยเหรอ? หากเขาพลิกลิ้นไม่รักษาคำพูดแล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ?”

ถังหยู่ซวนก็ไม่เห็นด้วยเหมือนกัน “เกรงว่าจะเป็นการปล่อยเสือกลับเข้าป่านะสิ”

มู่เสี่ยวไป๋หนีรอดจากเงื้อมมือของหลี่ฝางแล้ว ถ้าคิดจะจับเขากลับมาอีกครั้งก็คงยากแล้ว

มู่เสี่ยวไป๋สามารถที่จะฉวยโอกาสนี้กลับไปหามู่หรงฉางเฟิงท่านจวนและตระกูลตงฟางก็ได้ แล้วลืมข้อตกลงสามข้อที่สัญญากับหลี่ฝางไว้จนหมดสิ้น

แต่ว่าหลี่ฝางยิ้มด้วยความมั่นใจว่า “เขาไม่กล้าหรอก”

“อย่าลืมนะว่า ก่อนที่ส้าวส้วยจะจากไป เคยยื่นคำขาดกับคนบ้านตระกูลมู่ทุกคนแล้ว ฉันเชื่อว่า มู่เสี่ยวไป๋น่าจะยังจำเรื่องนี้ได้”

หลี่ฝางแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “อีกอย่าง ตอนนี้มู่เสี่ยวไป๋ ยังจะมีคุณค่าอะไรที่ให้ตระกูลตงฟางเห็นความสำคัญอีก?”

“จางกงหมิงจากไปแล้ว หมาจื่อก็ถูกจับไปแล้ว ชางสู่ก็ไม่ได้อยู่กับเขาแล้ว ส่วนคนพวกนั้นของเขา ส่วนใหญ่ก็ถูกพวกเราซื้อมาหมดแล้ว ตอนนี้มู่เสี่ยวไป๋ ยังเหลืออะไรอีก? ตระกูลมู่ยังมีทรัพย์สมบัติอะไรบ้างล่ะ?”

หลี่ฝางพูดอย่างดูถูกว่า “มู่เสี่ยวไป๋หมดสิทธิ์ที่จะกลับไปซุกปีกตระกูลตงฟางแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทรยศพวกเราอย่างแน่นอน”

ขอเพียงมู่เสี่ยวไป๋ไม่โง่เขลาเบาปัญญา งั้นเขาก็จะไม่ทรยศอย่างแน่นอน

แสงจันทร์สาดส่อง.......

ในยามค่ำคืน เป็นเวลาสำราญของพวกนักท่องราตรีทั้งหลาย ในเวลานั้นเองกลับมีคนกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามาด้วยอารมณ์ที่เกรี้ยวกราด

“อาหาวเหรอ? แกทำอะไรอ่ะ? พาคนมามากมายอย่างนั้น?”

อาหาวถือกระบองไว้ในมือ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

ถ้าหากเป็นเพียงแค่รอยยิ้มที่แปลกประหลาด ยามรักษาความปลอดภัยของบาร์เบียร์ คงจะไม่พบความผิดปกติอะไร แต่ว่ากระบองในมือของเขา และยังมีคนที่อยู่ข้างหลัง ก็เปิดเผยถึงจุดเป้าหมายของอาหาวออกมาทันที

อาหาวหัวเราะแล้วพูดว่า “ฉันก็มากินเหล้าสิ หรือจะให้มาบาร์เบียร์กินข้าวต้มรอบดึกล่ะ”

อาหาว ก็คือคนในจำนวนกลุ่มคนที่พึ่งออกมาจากไนต์คลับเมื่อครู่นี่เอง

“งั้นแกถือกระบองมาทำอะไร?”

ยามเฝ้าหน้าประตูก็ถามต่อว่า “บริษัทก็ดีต่อแกไม่เบาเลย แกคิดจะทำอะไรกันแน่?”

คนที่อยู่ข้างหลังคนหนึ่ง ยกกระบองขึ้นมา แล้วฟาดลงตรงศีรษะของยามเฝ้าประตูคนนั้น

ผู้ชายที่สวมเสื้อลายพรางขมวดคิ้ว ก็ไม่ค่อยเชื่อเหมือนกัน

ผู้ชายที่สวมเสื้อลายพรางมองไปยังคนที่เดินเข้ามาด้วยความสงสัย แล้วถามว่า “แกบอกว่ามู่เสี่ยวไป๋ทุบทำลายที่ทำกินของพวกเราหลายที่แล้วเหรอ มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน? ข้างกายของมู่เสี่ยวไป๋ ก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น จางกงหมิงก็หนีไปแล้ว หมาจื่อก็ถูกจับแล้ว นับไปนับมา ก็ไม่ถึงร้อยคนเท่านั้นเอง อาศัยคนแค่หยิบมือเดียว ก็ทุบทำลายแหล่งทำมาหากินของพวกเราไปได้ถึงสิบกว่าแห่งเลย แล้วพวกยามเฝ้าประตูพวกเราล่ะ? แม้งตายไปไหนกันหมดแล้ววะ?”

“นั่นสิ มู่เสี่ยวไป๋มีคนมากมายขนาดนั้นมาจากไหนกัน?” ได้เด็กซนก็สงสัยขึ้นมา “แกถูกคนอื่นอำเล่นรึเปล่า?”

“ไม่มี จริงแท้แน่นอน มู่เสี่ยวไป๋เป็นคนที่บัญชาการอยู่เบื้องหลังจริงๆ คนของพวกเราก็เห็นกับตากันทั้งนั้น”

“พวกนั้นที่ตามมู่เสี่ยวไป๋มาทุบทำลายแหล่งทำกินของพวกเรา ไม่เพียงแต่เป็นคนของมู่เสี่ยวไป๋ ยังมีกลุ่มคนที่พวกเราเพิ่งจ้างมาใหม่ด้วย พวกเขาก็แปรพักตร์ไปหมดแล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามู่เสี่ยวไป๋ให้ยาเสน่ห์อะไรพวกเขากิน พวกเขาฟังคำสั่งมู่เสี่ยวไป๋อย่างไม่ขัดขืนเลย”

“ต่อให้นับรวมพวกเศษสวะพวกนี้แล้ว ก็ไม่น่าเป็นไปได้นะ”

ไอ้เด็กซนก็ถามต่อไปว่า “พวกเขายังมีพรรคพวกที่อื่นช่วยอีกหรือเปล่า?”

“ใช่แล้ว อีกทั้งคนยังเยอะมากด้วย พวกเขาเข้ามาในแหล่งทำกินของพวกเรา ก็ลงมือทุบทำลายสิ่งของทั้งหมด อีกทั้งยังทำร้ายแขกประจำของเราไปด้วย ที่สำคัญที่สุดก็คือ คนพวกนี้ไร้มนุษยธรรมจริงๆ เห็นของอะไรที่มีค่า เขาก็ทุบทำลายอันนั้นเลย ฉันได้ยินมาว่า ตอนที่พวกเขาทุบทำลายข้าวของ ยังใช้มือถือของตัวเองถ่ายรูปที่ตัวเองทุบทำลายไว้ด้วย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขาเล่นอะไรกันแน่”

ไอ้เด็กซนได้ฟังดังนั้นแล้วก็ขมวดคิ้ว

ไอ้เด็กซนมองดูผู้ชายที่สวมเสื้อลายพราง แล้วถามว่า “มันเป็นเรื่องอะไรกันแน่นะ?”

ไอ้เด็กซนคิดแล้วก็ยังไม่เข้าใจ

ผู้ชายที่สวมเสื้อลายพรางก็รีบถามว่า “ฉันถามแกหน่อย งั้นตอนนี้มู่เสี่ยวไป๋อยู่ที่ไหน?”

“ก็อยู่ที่จัตุรัสเย่หมิงจูแหละ คนส่วนใหญ่ที่ทุบทำลายแหล่งทำกินของพวกเราเสร็จแล้ว ต่างก็วิ่งไปรวมตัวอยู่ที่จัตุรัสเย่หมิงจู เข้าไปรายงานผลกับมู่เสี่ยวไป๋”

“ไป ไปหามู่เสี่ยวไป๋กัน”

ไอ้เด็กซนพูดว่า “แกกลับไปรวบรวมไพร่พล แล้วไปรวมตัวที่จัตุรัสเย่หมิงจู”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง