เฉินเสี่ยวอุ้มศพของจางหลง เจ้าตัวก็ตกอยู่ในความเงียบสงบ
จางหลง เฉินเสี่ยว หม่าเฟิง หวางเชาทั้งสี่คน ได้เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ไม่เพียงแต่รักใคร่เหมือนพี่น้อง.........ก็ยังร่วมเป็นร่วมตายมาด้วยกัน
ตอนนี้ การตายของจางหลง ล้วนกระทบกระเทือนจิตใจอารมณ์ของพวกเขาทั้งสามคน.......
เฉินเสี่ยวตอนนี้ สีหน้าเหี้ยมเกรียม เขาเงยหน้าขึ้นมา จ้องมองโหจื่อ ใบหน้าเต็มไปด้วยพลังพิฆาต
“แกฆ่าพี่น้องฉัน......”
เฉินเสี่ยวกำหมัดไว้แน่น จนทำให้เกิดเสียงแก๊กๆดังขึ้น
“จุ๊ๆ แกเจ็บปวดตามไขข้อเหรอ?”
โหจื่อถามแบบแกมตลกว่า “พอดีฉันรู้จักกับหมอรักษาไขข้อกระดูกที่ดีมากคนหนึ่ง เอาไหมล่ะ ฉันจะแนะนำให้แกรู้จักดีไหม?”
“ช่างเถอะ ฉันคิดว่าแกคงจะไม่ได้ใช้แล้วล่ะ”
“เพราะว่า คืนนี้แกก็ต้องตายแล้ว”
โหจื่อหัวเราะไม่หยุด สีหน้าเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นขึ้นมาทันที “ฉันแนะนำร้านขายโลงที่ดีให้แกจะดีกว่านะ เขามีบริการเหมารวมทุกอย่างเสร็จสับอยู่ในนั้นหมดเลย ถ้าแกกับพี่น้องไปด้วยกันล่ะก็ คาดว่าพวกเขาจะให้ราคาพิเศษแบบยกแพ็คก็ได้นะ”
“อึ่ม เดี๋ยวฉันจะโทรศัพท์ให้เขาหน่อย”
โหจื่อพูดจบ เฉินเสี่ยวนั้นก็ลุกขึ้นยืนทันที ในมือของเขา ยังอุ้มศพของจางหลงอยู่เลย
เฉินเสี่ยวมองดูจางหลงในอ้อมกอด แล้วพูดว่า “ฉันจะไปแก้แค้นให้แกนะ”
เฉินเสี่ยวพูดพลางใช้มือลูบปิดตาของจางหลง ความหมายบอกให้เขาไปดีไปสู่สุคติ ในเมื่อเฉินเสี่ยวเตรียมพร้อมจะลงมือแล้ว งั้นหม่าเฟิงและหวางเชาสองคนนั้นก็ยืนอยู่ด้านข้าง
อย่างน้อย พวกเขาก็เป็นถึงยอดฝีมือระดับสูงในวงการต่อสู้ จัดการกับโหจื่อตัวเล็กๆเช่นนี้ พวกเขาย่อมไม่ใช้วิธีการสู้แบบรุมสังหารอย่างแน่นอน
สำหรับพวกเขาแล้ว นั่นถือว่าเป็นการหยามเกียรติเกินไป
ส่วนจางหลงนั้น ในบรรดาพวกเขาแล้ว เป็นคนที่อายุน้อยที่สุด และก็มีพรสวรรค์ทางด้านการต่อสู้ด้อยที่สุดคนหนึ่งด้วย......
แต่ว่าเฉินเสี่ยวไม่เหมือนกัน พละกำลังของเฉินเสี่ยวนั้น แข็งแกร่งกว่าจางหลงมากทีเดียว.......
เมื่อครู่นี้จางหลงยังสามารถสู้กับโหจื่อเสมอกันได้ งั้นเฉินเสี่ยว ก็คงจะต้องเป็นฝ่ายเหนือกว่าอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อครู่เฉินเสี่ยวก็ยังชกใส่โหจื่ออย่างแรงไปหนึ่งที
มุมปากของโหจื่อ ก็ยังมีเลือดซึมออกมา นี่แสดงว่าเขาก็ได้รับบาดเจ็บแล้ว
ถ้าอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้แล้ว เฉินเสี่ยวยังไม่สามารถสังหารโหจื่อได้ งั้นก็คงเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อแล้ว
ดังนั้น หม่าเฟิงและหวางเชา จะไม่มีทางที่จะเข้าไปช่วยอย่างเด็ดขาด
หวางหวังรับศพจางหลงมาจากมือของเฉินเสี่ยว แล้วกำชับเฉินเสี่ยวว่า “พี่รอง ฆ่าเขาให้ได้เลยนะ”
เฉินเสี่ยวพยักหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยพลังพิฆาต “สามคนนี้ ฉันจะไม่ให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียว”
หลังจากที่เฉินเสี่ยวพูดจบ ก็เริ่มขยับตัว เมื่อเขาเคลื่อนไหว แม้กระทั่งอากาศรอบๆก็เคลื่อนไหวตามไปด้วย กลิ่นอายสังหารก็แผ่ซ่านออกมาจากตัวของเขา หลี่ฝางก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
หลี่ฝางรู้ว่า ถ้าตัวเองประมือกับคนนี้แล้ว เกรงว่าจะต้องตายอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าในตัวของหลี่ฝาง เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาลไร้ขอบเขตที่ซ่อนเร้นอยู่ เต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลังมหาศาลที่ยิ่งใหญ่ แต่ถ้าจะต้องปลดปล่อยพวกนี้ออกมาใช้ล่ะก็ ก็ยังต้องอาศัยช่วงเวลาอีกระยะหนึ่ง
หลี่ฝางยังไม่รู้จักเทคนิคในการฆ่าคน ขาดแคลนประสบการณ์ต่อสู้ในสนามจริง
แต่ว่าโหจื่อไม่เหมือนกัน โหจื่ออยู่เมืองนอกมาสามปีแล้ว ได้ผ่านประสบการณ์การต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วน และยังเคยปฏิบัติการลับในการลอบสังหารมานับครั้งไม่ถ้วนอีกด้วย
อีกทั้งยังทำหน้าที่ที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้จนสำเร็จลุล่วงได้ดี นี่เป็นเหตุทำให้ชื่อเสียงฉายาว่ารอยกระสุนของเขานี้ โด่งดังไปทั่วในวงการทหารรับจ้าง
ความเร็วของเฉินเสี่ยวนั้นมีความไวมาก แต่ของโหจื่อ ก็ไม่ได้ช้าเหมือนกัน
ทั้งสองคนได้ประมือกันครั้งแรก ก็ทำให้ต่างฝ่ายต่างรู้สึกหวาดหวั่น
ยามเมื่อยอดฝีมือประมือกัน ทุกกระบวนท่าก็ล้วนแต่สังหารคนได้ทั้งนั้น ไม่มีโอกาสในทำการทดสอบ เมื่อเริ่มลงมือ ต่างฝ่ายต่างก็มุ่งจัดการฝ่ายตรงข้ามถึงขั้นเอาชีวิตกันให้ได้
การประมือในลักษณะเพื่อลองทดสอบนั้น ก็มีเพียงแต่ภายใต้สถานการณ์ที่เต็มเปี่ยมด้วยพละกำลังที่แน่นอน จึงจะเกิดขึ้นได้
ส่วนโหจื่อและเฉินเสี่ยวนั้น ต่างฝ่ายต่างเข้าใจดีว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการช่วงชิงมา ก็คือความเหลื่อมล้ำระหว่างกระบวนท่าเท่านั้นเอง
ความเหลื่อมล้ำระหว่างกระบวนท่าเพียงท่าเดียวเท่านั้น ก็มากเกินพอที่จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามถึงแก่ชีวิตได้
เพียงแค่กระบวนท่าเดียว ก็เพียงพอแล้ว
เฉินเสี่ยวกระโดดเตะด้วยพลังมหาศาล โหจื่อก็ยื่นมือออกไปขวางไว้ กลับต้องถอยหลังไปหลายก้าวอย่างไม่หยุดยั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง