ท่านจวนไม่เข้าใจจริงๆ ตัวตนของตน ถูกเปิดเผยไปได้อย่างไร
บนโลกใบนี้ คนที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของตน มีไม่กี่คนเท่านั้น
"นายรู้ตัวตนที่แท้จริงของฉันได้ยังไง"
ท่านจวนเป็นคนฉลาด ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ สิ่งที่เขาเชี่ยวชาญที่สุดก็คือ อ่านสีหน้าของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
ถ้าหากอีกฝ่ายเพียงแค่ลองเชิงตัวตนที่แท้จริงของตน เช่นนั้น ท่านจวนเพียงแค่มองก็ดูออกแล้ว
แต่ส้าวส้วยที่อยู่ตรงหน้า น้ำเสียงในการพูด แววตาที่มองตน เห็นได้ชัดว่ามั่นใจอย่างมาก
ดังนั้น ส้าวส้วยน่าจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของตน
เวลานี้ ใบหน้าของท่านจวน ฉายความกระวนกระวายขึ้นมา
ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ เขาวางกลยุทธ์ต่างๆมาโดยตลอด เก็บทุกคนเอาไว้ในมือของตนเอง รวมถึงสี่ตระกูลใหญ่ด้วย ทั้งหมดล้วนเป็นหมากในมือของเขา
ส้าวส้วยหัวเราะหึๆ แล้วพูด:“ฉันไม่รู้"
"พี่ใหญ่เป็นคนบอกฉัน"
ส้าวส้วยมองท่านจวน ด้วยแววตาที่เหี้ยมโหด:“สำหรับการเดินทางของเรา คนที่รู้ มีไม่กี่คนเท่านั้น ก่อนที่ลูกพี่ใหญ่จะตาย จงใจเผยให้นายรู้นิดหน่อย ดังนั้น ระหว่างทางกลับมาของพวกเรา จึงเจอหลุมพราง"
"ดังนั้น นายเป็นคนหักหลังพวกเรา"
สีหน้าของท่านจวนสับสนเล็กน้อย:“ ที่แท้เขาก็สงสัยในตัวฉันมานานแล้ว"
"พี่ใหญ่แค่ไม่อยากจะเชื่อเท่านั้น ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ นายคิดว่าสิ่งที่นายทำมันไม่มีช่องโหว่อะไรเลยจริงๆเหรอ? รายละเอียดของนาย ลึกลับอย่างมาก พวกเราเคยสืบเรื่องของนายมาก่อน แต่กลับสืบไม่พบอะไรทั้งนั้น"
"บางครั้ง การที่นายปิดบังตนเองเกินไป ก็เป็นการเปิดเผยตนเอง"
ส้าวส้วยมองท่านจวน แล้วพูด:“ตอนนั้นที่ติดตามรับใช้นาย ก็พบว่านายมีเส้นสายไม่เหมือนคนธรรมดา แต่ว่า รอบตัวนายกลับไม่มีญาติแม้แต่คนเดียว คนที่อยู่กับนาย มีแค่ลูกชายบุญธรรมเท่านั้น"
"นายมีเงินมากมาย แต่เงินพวกนี้มากจากไหน นายกลับไม่เคยพูด ราวกับตกลงมาจากบนฟ้าอย่างไรอย่างนั้น"
"ตอนนั้นที่ทั้งสี่ตระกูลใหญ่มีปัญหากับพวกเรา นายซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาโดยไม่มีเหตุผล ลอยตัวอยู่เหนือปัญหา พวกเขาปล่อยนายได้อย่างไร? แล้วทำไมพวกเขาถึงปล่อยตัวนาย?"
"เพราะเห็นว่านายเป็นคนแก่น่าสงสาร? ดังนั้นพวกเขาก็เลยเมตตาอย่างนั้นเหรอ?"
ส้าวส้วยหัวเราะหึ :“สาเหตุที่แท้จริงเป็นเพราะตระกูลตงฟางออกคำสั่งพวกเขาอย่างลับๆใช่ไหม"
"อีกเรื่องนี้ นายเป็นคนส่งฟีนิกซ์มาอยู่กับพวกฉันใช่ไหม? ถ้าฉันพูดไม่ผิดละก็ เธอเป็นหลานสาวแท้ๆของนาย? นายมันใจร้ายจริงๆ ตอนนั้นถ้าพวกฉันไม่เข้าไปช่วยเธอ หรือช่วยเธอช้าไปอีกสักหน่อย ถ้าอย่างนั้นฟีนิกซ์ ก็คงตายไปแล้ว"
"ไม่ถูกสิ เธอไม่ได้ชื่อฟีนิกซ์ เหมือนเธอจะชื่อว่าตงฟางหวั่นเอ๋อ"
"หลอซ่าเป็นคนมีเมตตา แล้วจะไม่ช่วยได้ยังไง? ถ้าเขาไม่ช่วยฟีนิกซ์ ก็ไม่มีวันช่วยนาย และยิ่งไม่มีวันช่วยโหจื่อ" ท่านจวนพูดเสียงเรียบ
ท่านจวน รู้จักหลอซ่าเป็นอย่างดี
ทุกการกระทำของหลอซ่า ล้วนอยู่ในสายตาของท่านจวน
ยิ่งวางแผนอยู่ในใจ
เพียงแต่ว่า เมื่อถึงตอนหลัง ท่านจวนยิ่งพบว่า ยากจะควบคุม
เดิม เข้าไปช่วยหลอซ่า เป้าหมายของท่านจวนคือเพื่อใช้พวกเขาตรึงทั้งสี่ตระกูลใหญ่เอาไว้
สิ่งที่ทานจวนต้องการ คือความสมดุล
แต่ว่า มีวันหนึ่งท่านจวนกลับพบว่า เขาเริ่มไม่สามารถควบคุมหลอซ่าได้แล้ว
หลอซ่าเริ่มไม่เชื่อฟังคำพูดของเขาแล้ว
ดังนั้น ท่านจวนจึงเริ่มมีความคิดอยากจะกำจัดหมากตัวนี้ทิ้ง
หลอซ่าที่เป็นหมากตัวนี้ คล้ายว่าควบคุมยากยิ่งกว่า ทั้งสี่ตระกูลใหญ่ใหญ่
การต่อสู้ระหว่างสี่ตระกูลใหญ่และหลอซ่า ท่านจวนเป็นคนสร้างมันขึ้นมา
สงครามในครั้งนี้ เกิดขึ้นด้วยน้ำมือของท่านจวนอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ว่า ท่านจวนไม่ต้องการให้หลอซ่าชนะ
ดังนั้น สุดท้าย เขาได้ลอบใช้อำนาจ ช่วยทั้งสี่ตระกูลใหญ่ ให้ข้อมูลไม่น้อย
และเป็นเพราะการยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออย่างลับๆของท่านจวน หลอซ่า จึงได้พ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ
หลอซ่าแพ้แล้ว หนีออกไปจากเมืองเอก
"เธอเป็นหลานสาวของฉัน เป็นคนของตระกูลตงฟาง ตอนนั้นให้เธอไปอยู่กับพวกนาย เพื่อใช้เธอเป็นเครื่องมือ มาจัดการพวกนาย ตอนสุดท้าย พวกนายจะหนีกันไปหมดแล้ว ถ้าฉันยังไม่ใช้หมากตัวนี้ หรือจะให้ฉันทนดูพวกนายพาเธอไป?"
สีหน้าของท่านจวนเคร่งขรึม:“ส้าวส้วย นายเป็นคนมีความสามารถ น่าเสียดาย ที่นายติดตามคนผิดแล้ว"
"ความหมายของนายคือ ฉันไม่ควรติดตามพี่ใหญ่?"
ส้าวส้วยเลิกคิ้วขึ้น มองไปทางท่านจวน:“แล้วฉันควรจะติดตามใคร ติดตามนายอย่างนั้นเหรอ?"
สีหน้าของท่านจวนสับสน:“นายคือท่านซุน ไม่ใช่สิ ควรจะเรียกเขาว่าจูเก่อชื่อ นายเป็นคนที่จูเก่อชื่อให้ความสำคัญ มีความแข็งแกร่งที่น่ามหัศจรรย์ ทั้งยังมีพรสวรรค์ นอกจากหลอซ่าแล้ว เป็นอัจฉริยะด้านการต่อสู้ที่ยากจะพบเจอ ความเป็นจริง ฉันเป็นคนทำให้จูเก่อชื่อ เก็บนายเอาไว้ สอนวรยุทธ์กับนาย"
"ในตอนหลัง ฉันก็เป็นคนทำให้นายยอมรับหลอซ่า แล้วติดตามเขา"
"แต่ฉันคิดไม่ถึงว่า วันนี้ คนที่ทำลายแผนการทั้งหมดของฉัน คือนาย" ท่านจวนเริ่มรู้สึกเสียใจ
"บางที ถ้าหากจูเก่อชื่อยังมีชีวิตอยู่ ฉันคงไม่พ่ายแพ้จนน่าอนาถขนาดนี้ เขาเป็นคนฉลาด ไม่น้อยไปกว่าเหล่าเฉียน มีเขาอยู่ ตระกูลจูเก่อ ก็คงไม่ถูกพวกนายทำลายง่ายขนาดนี้"
ท่านจวนส่ายหน้า แล้วพูด:“จูเก่อชื่อเหมือนกับหลอซ่า เป็นคนที่ไม่สามารถสั่งสอนได้"
"พวกเขาแค่ไม่อยากจะเป็นหมากของนายก็เท่านั้น"
จู่ๆ ส้าวส้วยก็หัวเราะ :“นายคิดว่า ท่านอาจารย์ของฉันจูเก่อชื่อตายแล้วจริงๆ เหรอ?"
"จูเก่อเจิ้งเห็นเขาผูกคอตายด้วยตนเอง"
ตอนที่ท่านจวนได้ยินคำพูดนี้ แววตาของเขาตกตะลึง คล้ายว่าตกใจ แสดงออกมาจากแววตาของเขา
"หรือว่าจูเก่อชื่อแกล้งตาย?"
ท่านจวนไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่ เพราะถึงอย่างไร จูเก่อชื่อคนนี้ เป็นคนซื่อตรงจนรู้กันให้ทั่ว อีกทั้งตอนที่เขาอายุยังน้อย เคยทำเรื่องไม่ดีเอาไว้มากมาย พอแก่มา จึงกินเจและสวดมนต์
คนแบบนี้ฆ่าตัวตาย เป็นเรื่องที่ปกติอย่างมาก
ดังนั้น ท่านจวนจึงไม่ได้สงสัยในการตายของจูเก่อชื่อ แต่คำพูดของส้าวส้วยเมื่อครู่ ทำให้ท่านจวนตระหนักขึ้นมาทันที
"คุณท่านตงฟาง นายทำงานมาทั้งชีวิต ไม่เคยประมาทแม้แต่น้อย แต่ทำไมกับเรื่องของท่านอาจารย์จูเก่อชื่อที่มีพระคุณของฉัน ถึงไม่ใส่ใจขนาดนี้ล่ะ? ไม่แม้แต่จะมอง"
ส้าวส้วยหัวเราะ แล้วพูด:“จูเก่อชื่อตายแล้ว แต่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ คือท่านซุน"
"ไม่อย่างนั้น คนของตระกูลจูเก่อ จะทำตามซุนจิ้นง่ายๆแบบนี้เหรอ??" มองดูท่านจวน ส้าวส้วยหัวเราะร้ายกาจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง