สรุปตอน บทที่ 793 ยังมียอดฝีมือกำลังภายใน? – จากเรื่อง NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง โดย เฉียงเกอ9527
ตอน บทที่ 793 ยังมียอดฝีมือกำลังภายใน? ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง โดยนักเขียน เฉียงเกอ9527 เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
"ฆ่าเพชฌฆาตของตระกูลซูน แต่ว่าตระกูลจูเก่อ คนของตระกูลจูเก่อต่อให้จะโง่มากแค่ไหน ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำตามความต้องซุนจิ้นรึเปล่า? พวกเขากลัวซุนจิ้นต่างหาก แล้วจะทำตามความต้องการได้ยังไง!”
"คนที่ทำให้ตระกูลจูเก่อเชื่อฟังที่แท้จริง คือจูเก่อชื่อ ซึ่งก็คือท่านซุน"
ส้าวส้วยหัวเราะในลำคอ:“คุณท่านตงฟาง นายคิดว่าตนเองสามารถวางแผนทำร้ายทุกคน ทว่าคงคิดไม่ถึงใช่ไหม ท่านซุนรู้ตัวตนที่แท้จริงของนายมานานแล้ว"
"ท่านซุน เป็นคนบอกพี่ใหญ่ ว่านายคือคนที่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลัง แต่ว่า พี่ใหญ่ไม่เชื่อก็เท่านั้น"
"เพราะถึงอย่างไร นายก็เป็นคนให้ทุกอย่างกับพี่ใหญ่ เป็นคนนำทางในชีวิตของเขา เขาต้องไม่เชื่ออ่างแน่นอน ว่านายจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังคอยลอบทำร้ายเขา"
"รู้ไหมทำไมฉันถึงยังมีชีวิตอยู่?"
ส้าวส้วยขมวดคิ้วเป็นปม พร้อมกับพูด:“ตอนสุดท้าย พี่ใหญ่และฉันแยกกันเดินทางเป็นสองทาง แต่ฉันไม่ยอม เขาบอกกับฉัน เขาต้องไปพิสูจน์เรื่องหนึ่ง"
"ถ้าพวกเราสามารถไปรวมตัวกันได้อย่างราบรื่น ถ้าอย่างนั้น นายก็ไม่ใช่คุณท่านตงฟางแล้ว"
ขณะพูด จ้องมองไปที่ท่านจวน พูดด้วยแรงสังหาร:“แต่ว่า เขาพบเจอกับเรื่องไม่คาดคิด"
"ที่ตรงนั้น มีคนชื่อทาเฟย เขาเป็นคนรู้จักเก่าแก่ของนาย ใช่ไหม? ก่อนหน้านี้ เขาเคยมาเมืองเอกหนึ่งครั้ง ทั้งยังทำความรู้จักกับพี่ใหญ่"
"พี่ใหญ่ เข้าไปในถิ่นของทาเฟย อยู่ที่นั่นหนึ่งวัน แต่ว่า ตอนที่พี่ใหญ่เพิ่งออกไป เขาก็ถูกลอบทำร้าย คนที่ลอบทำร้าย ถ้าฉันเดาไม่ผิดละก็ คนๆ นั้นก็คือทาเฟย"
"แล้วคนที่บงการอยู่เบื้องหลัง ก็คือนายใช่ไหม"
ขณะที่ส้าวส้วยพูด เขาก็หยิบนาฬิกาข้อมือสีทองออกมาหนึ่งเรือน:“ฉันเอานี่มาจากมือของทาเฟย"
"นายฆ่าทาเฟยแล้ว?"
ท่านจวนเบิกตากว้าง
อำนาจของทาเฟย กว้างใหญ่อย่างมาก ถึงขั้นมีคนในองค์กรกว่าพันคน
อีกทั้ง ในมือของพวกเขา มีอาวุธปืน
คนที่ชื่อทาเฟยคนนี้ เป็นคนที่ไม่สามารถมีเรื่องด้วยได้ แม้แต่ประเทศที่เขาอยู่อาศัย ก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้
แต่ว่า......
ส้าวส้วยพยักหน้า แล้วพูด:“หรือว่า นายคิดว่าฉันควรจะปล่อยเขาไหม?"
ส้าวส้วยพูดเสียงเยือกเย็น:“ถึงแม้เขาจะไม่ยอมรับ ว่าเขาเป็นคนลอบทำร้ายพี่ใหญ่ แต่ว่า อยู่ในถิ่นของเขา เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นกับพี่ใหญ่ นอกจากเขาแล้ว ยังจะมีใครได้? ทุกคนไม่ใช่เด็กสามขวบ คิดว่าฉันโง่จริงๆ เหรอ?"
"อย่าว่าแต่รอบตัวเขามีคนนับพันคน ต่อให้มีหมื่นคน ฉันก็จะฆ่าเขา"
ส้าวส้วยหัวเราะเสียงเยือกเย็น:“ไม่ว่าใครที่ทำร้ายพี่ใหญ่ ฉันจะไม่มีวันปล่อยมันไป"
"แค่นายคนเดียวมีความสามารถในการทำเหรอ?"
ท่านจวนมองไปที่ส้าวส้วย:“นายมันใสซื่อเกินไปแล้ว"
"ต่อให้นายจะเก่งแค่ไหน นายจะหลบปืนนับสิบกระบอกได้เหรอ?" ท่านจวนส่ายหน้าเบาๆ
จากนั้น ท่านจวนถอยหลังหนึ่งก้าว มือปืนพวกนั้น เดินมาด้านหน้าหนึ่งก้าว
สีหน้าของมู่หรงฉางเฟิง ก็สับสนอย่างมาก
เขาคิดไม่ถึงว่า ตระกูลตงฟางที่ลึกลับที่สุด หัวหน้าตระกูล จะเป็นท่านจวน
เวลานี้ แววตาของมู่หรงฉางเฟิงที่มองไปทางท่านจวน นั้นแตกต่างจากเดิม"
"คุณท่านตงฟาง"
มองไปที่ท่านจวน มู่หรงฉางเฟิงพูดด้วยความเคารพ:“จะฆ่าเขาเหรอครับ?"
"นายลองทำดูได้"
ท่านจวนพูด เดินไปด้านหน้าหนึ่งก้าว เดินลงไปที่หุบเขา
ฝีเท้าของท่านจวน เร็วอย่างมาก ไม่เหมือนคนแก่ชราแม้แต่น้อย
ไม่นาน ท่านจวนก็ไปถึงตีนดอย
ปืนนับสิบกระบอก เล็งไปที่ส้าวส้วย แต่ไม่มีใครกล้ายิง
มู่หรงฉางเฟิง รู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที เขาไม่รู้ว่าเวลานี้ ตนควรจะยิงปืนออกไป หรือควรจะเดินออกไป?
นายลองทำดูได้?
มู่หรงฉางเฟิงไม่ค่อยเข้าใจประโยคนี้สักเท่าไหร่
ให้ยิง หรือไม่ให้ยิง?
เวลานี้ ส้าวส้วยส่ายหน้าไปมา:“ถ้านายยังไม่ไปอีก นายก็จะไปไม่ได้แล้ว"
ทันทีที่ส้าวส้วยพูดจบ กลุ่มคน เดินขึ้นมาจากตีนดอย
ท่านลู่ ก็เป็นหนึ่งในนั้น
โดยมีแกนนำ คือท่านซุน ซึ่งก็คือจูเก่อชื่อ
ซุนจิ้นอยู่ด้านหลังท่านซุน ด้านหลังของเขา มีคนหลายร้อยคนติดตามมาด้วย
ทั้งหมดล้วนเป็นคนตระกูลจูเก่อ
คนมากมาย ขึ้นไปบนภูเขา ล้อมเอาไว้
บางทีท่ามกลางสี่ตระกูลใหญ่ตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุด นอกจากตระกูลตงฟางแล้ว ก็คือตระกูลจูเก่อ
สำหรับคนตัวเล็กที่ไม่มีความสำคัญอะไรอย่างมู่หรงฉางเฟิง ส้าวส้วยดูถูกที่จะฆ่า และไม่มีความจำเป็นต้องฆ่า
มู่หรงฉางเฟิงมองดูกลุ่มคนที่ดำมืด รีบพาคนของตน หนีไปจากที่เกิดเหตุ
และในเวลานี้เอง หลี่ฝางอุ้มหลิงหลง มาถึงสถานตากอากาศแล้ว หาหมอแล้ว
หลังจากวางหลิงหลงลง หลี่ฝางตามหาฉินวี่เฟยไปทั่วทั้งสถานตากอากาศ แต่ว่า ไม่เจออะไรทั้งนั้น
ภายในใจของหลี่ฝาง ก็ยิ่งกระวนกระวายมากขึ้น
ตอนที่หมาป่าละโมบและโฮจุนออกไป หลี่ฝางไม่เห็นฉินวี่เฟย
และในสถานตากอากาศ ก็ไม่มีศพของฉินวี่เฟย
ขณะที่หลี่ฝางกำลังร้อนใจแทบบ้า ทันใดนั้นเอง หมอเดินออกมา บอกกับหลี่ฝาง:“ไม่ต้องหาแล้ว เด็กผู้หญิงคนนั้นยังไม่ตาย"
"ยังไม่ตาย?" หลี่ฝางขมวดคิ้วเป็นปม แล้วถาม:“แล้วเธออยู่ที่ไหนครับ?"
"นอนในห้องลับของผม คุณควรจะขอบคุณหลิงหลง หลิงหลงยอมทำทุกอย่าง ช่วยชีวิตผู้หญิงคนนั้น มาจากพวกนักฆ่า"
หมอพูดขึ้น:“แต่ว่า ผู้หญิงคนนั้นตกใจมาก เธอไม่เคยเห็นภาพที่เต็มไปด้วยการนองเลือดแบบนั้น ผมเอายากล่อมประสาทให้เธอกินแล้ว คงนอนอีกสักพักหนึ่ง"
เมื่อหลี่ฝางได้ฟัง จึงโล่งอก
ส้าวส้วยเดินเข้าไปในบ้าน หลี่ฝางเองก็เดินตามเข้าไปช้าๆ
หลิงหลงนั่งอยู่บนเตียง เหมือนไม่ได้เป็นอะไรมากมาย แต่ว่าโหจื่อ ยังนอนอยู่ตรงนั้น ไม่แม้แต่จะลืมตา
แต่หลี่ฝางได้ยินเสียงหายใจของโหจื่อ
ส่วนลุงเฉียน เขานอนอยู่ตรงนั้น หายใจรวยรินมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกไม่มากแล้ว
ตอนที่หมอเดินเข้ามา ส้าวส้วยขมวดคิ้วเป็นปมพร้อมกับถาม:“ลุงเฉียน......"
"ยังไม่ตาย ผมโทรศัพท์ติดต่อไปแล้ว เดี๋ยวน้ำเลี้ยงก็จะถูกส่งมา ร่างกายของลุงเฉียน ภายใต้การให้น้ำเลี้ยง สามารถอยู่ได้ประมาณสิบกว่าวัน อย่างน้อยก็ทำให้ ร่างกายของเขาไม่ทรุดหนักไปกว่าเดิม แต่หลังจากผ่านสิบกว่าวันนี้ไป ผมไม่สามารถรับประกันได้"
หมอส่ายหน้า มองส้าวส้วย:“พี่สะใภ้ใหญ่จะกลับมาเมื่อไหร่?"
ส้าวส้วยไม่ได้ตอบคำถาม คล้ายว่าไม่ได้ยินอย่างไรอย่างนั้น
ไม่นาน ท่านซุนเดินเข้ามา เขามองไปที่ลุงเฉียน นานครึ่งวันโดยไม่พูดอะไร
เมื่อสามปีก่อน ท่านซุนและลุงเฉียนสู้กันอยู่นั้น มีทั้งแพ้ชนะ เพียงแต่เวลานั้น ท่านซุนเป็นคนวางแผนให้ท่านจวน
ท่านซุนมองส้าวส้วย พูดด้วยความไม่เข้าใจ:“ในเมื่อจวนยอมรับสารภาพแล้วว่าเขาคือคุณท่านตงฟาง ทำไมนายถึงยังปล่อยเขาไป"
ท่านซุนรู้ ส้าวส้วยฝึกฝนจนมีกำลังภายในแล้ว
นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่านซุนลงมือ
ส้าวส้วยส่ายหน้าไปมา แล้วพูด:“ผมไม่มีความมั่นใจว่าจะเอาชนะเขาได้"
สีหน้าของท่านซุน แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย
หลังจากผ่านไปครึ่งวัน ท่านซุนจึงเอ่ยถามส้าวส้วย:“หรือว่าคุณท่านตงฟาง เขาเองก็......"
"มีชั่วขณะหนึ่ง ผมสามารถสัมผัสได้ถึงลมปราณ(ปราณ)ของเขา ลมปราณของเขา ไม่น้อยไปกว่าผม ความเป็นจริงที่พี่ใหญ่ไม่ยอมเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของคุณท่านตงฟาง ยังมีอีกหนึ่งเหตุผล ซึ่งก็คือ ความสามารถของเขา ไม่น้อยไปกว่าพี่ใหญ่" ส้าวส้วยพูด
ท่านซุนสูดลมหายใจเย็น ยากจะเชื่ออย่างเห็นได้ชัด
"เขาแข็งแกร่งมากขนาดนั้นเลยเหรอ?" ท่านซุนถามด้วยความตกใจ
"อย่าลืมสิ วรยุทธ์ของพี่ใหญ่ในอดีต มีครึ่งหนึ่ง เขาเป็นคนสอน จิ้งจอกชราเจ้าเล่ห์คนนี้ ฝึกฝนการต่อสู้มาตลอดชีวิต อีกทั้งสามปีที่ผ่านมานี้ เขายังซ่อนตัวอยู่ในภูเขาหลง แน่นอนว่าไม่มีวันอยู่เฉยๆเพื่อรอความตาย ไม่ว่าผมหรือพี่ใหญ่ ล้วนอาศัยพลังภายนอกจนจะฝึกฝนกำลังภายในได้สำเร็จ แต่ไอ้แก่นั่นไม่เหมือนกับพวกเขา กำลังภายในที่เขาฝึกฝนนั้น ล้วนอาศัยตนเอง"
ส้าวส้วยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูด:“ผมจะไปหาเขาแน่นอน แต่ไม่ใช่ตอนนี้"
หลี่ฝาง โหจื่อ ลุงเฉียนคนพวกนี้ ยังไม่ได้จัดการให้เรียบร้อย
วันนี้ ส้าวส้วยเป็นเสาหลักของคนพวกนี้ ถ้าหากส้าวส้วยพ่ายแพ้ คนพวกนี้ จะไม่มีใครรอดชีวิต
คนที่อยู่เบื้องหลังส้าวส้วย มีมากมายเหลือเกิน
ดังนั้น ถ้ายังไม่มีความมั่นใจ เขาไม่มีวันลงมือง่ายๆ
เขาเพิ่งกระจ่างแจ้งถึงการมีอยู่ในการปล่อยพลัง แตกต่างกันท่านจวน เขาอาจจะหนึ่งปีก่อน หรือสองปีก่อน ก็กระจ่างแจ้งแล้วก็ได้
นอกจากอายุของส้าวส้วยที่น้อยกว่าท่านจวนแล้ว เขาไม่มีข้อได้เปรียบอะไรอีกเลย
การลงมือบุ่มบาง มีแต่จะทำให้ท่านจวน เปิดเผยอย่างเต็มที่
ไม่เพียงแต่เปิดเผยตัวตนของคุณท่านตงฟาง ทั้งยังเปิดเผยความลับของยอดฝีมือกำลังภายในของเขา
เวลานี้ ส้าวส้วยหันไปมองหลี่ฝางอย่างมีเลศนัย:“คุณชาย ตั้งแต่วินาทีนี้ ผมจะสอนวรยุทธ์ให้คุณชายเอง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง