ณ โรงพยาบาลจังหวัดภูเก็ต
ภายในห้องพักฟื้นวีไอพี ร่างคนถูกรถชนนอนหลับอยู่บนเตียงคนไข้ ตรงหลังฝ่ามือมีเข็มน้ำเกลือปักอยู่ ตามร่างกายเขามีรอยฟกช้ำจากการถูกรถยนต์กระแทก และผลจากการปะทะทำให้ตัวเขาไถลไปบนถนน ส่งผลให้ตรงหัวไหล่เกิดรอยถลอก ใบหน้ามีรอยช้ำ นานโอสั่งให้แพทย์เอ็กซเรย์สมองว่ากระทบกระเทือนหรือไม่ ผลที่ออกมาทำให้นานโอกับเพชรหอมโล่งอก
ส่วนเรื่องคดี นานโอเคลียร์กับเจ้าของรถคันนั้น และตกลงกันได้ด้วยดี เนื่องจากเจ้าของรถไม่มีความผิด เขาขับรถมาตามปกติ คนที่ผิดคือราซิเอลโล่ นานโอชดใช้ค่าซ่อมรถให้นายแพทย์เจ้าของรถ และออกค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวหลานชายเองทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยสักนิดเดียว นานโอกลับอยากเขกหัวหลานชายที่ทำอะไรโดยไม่คิด แต่ก็รู้เหตุผลของการกระทำนั้น
แม้ว่าราซิเอลโล่จะไม่เป็นอะไรมากนอกจากรอยฟกช้ำดำเขียว ทว่าเขากลับยังไม่ฟื้น ยังคงนอนหมดสติตั้งแต่ถูกรถชนจนถึงตอนนี้ก็นานร่วมสี่ชั่วโมง คนที่เฝ้าราซิเอลโล่ไม่ห่างยังมีความกังวลไม่หาย เพชรหอมจะสบายใจก็ต่อเมื่อเขาฟื้น
เหตุการณ์ที่ราซิเอลโล่วิ่งให้รถชนแลกกับที่เพชรหอมให้อภัย หล่อนไม่คิดว่าราซิเอลโล่จะบ้าดีเดือดได้มากถึงเพียงนี้ หล่อนคิดว่าเขาพูดเล่น แต่คงลืมคิดไปว่า นิสัยของมาเฟียหนุ่มพูดจริงทำจริง แล้วเมื่อเขาทำจริง เพชรหอมจะยอมให้อภัยตามที่บอกไปหรือไม่
เจ็ดปีที่เจ็บและจมอยู่กับความเสียใจ เป็นช่วงเวลาที่เพชรหอมทรมานใจมาก น้ำตาไหลไม่รู้เท่าไหร่ หล่อนต้องทนถูกคำดูถูกดูแคลนว่าท้องไม่มีพ่อ แถมยังต้องมาใช้ทุนการศึกษาให้กับบริษัทที่ออกค่าใช้จ่ายให้ตนไปร่ำเรียนหนังสือ เนื่องจากหล่อนเรียนไม่จบ ตามสัญญาที่ระบุไว้ หากหล่อนเรียนจบจะไม่ต้องชดใช้ทุน ในทางกลับกัน หากเรียนไม่จบ เพชรหอมจะต้องชดใช้เงินทั้งหมดให้กับบริษัท กว่าหล่อนจะใช้หนี้จำนวนนี้หมดก็กินเวลากว่าสามปี
ผลพวงจากการถูกราซิเอลโล่เมินเฉย ทำให้หล่อนเกิดความลำบาก ไหนจะดูแลลูก ไหนจะต้องใช้หนี้สิน และต้องทนคำติฉินนินทา ตลอดเจ็ดปีจึงเป็นช่วงเวลาที่กล้ำกลืนฝืนทนมาก ทว่าหล่อนไม่เคยย่อท้อ พอเห็นหน้ายศนัยแรงฮึดสู้ก็บังเกิด ระยะเวลาเจ็ดปีที่เพชรหอมทนเจ็บปวด มันน้อยกว่าระยะเวลาที่เขาตามง้อหล่อนมาก เขาเจ็บแค่ร่างกาย แต่หล่อนนี่สิ เจ็บทั้งกายและหัวใจ
หากเพชรหอมไม่ยอมยกโทษให้ราซิเอลโล่ตามคำพูด ก็เท่ากับว่าหล่อนไม่รักษาคำพูด การกระทำของเขาก็จะสูญเปล่า แต่หากทำตามก็จะมองว่า หล่อนยอมเขาง่ายไป เพชรหอมสองจิตสองใจว่า จะตัดสินใจอย่างไร ระหว่างที่เพชรหอมกำลังครุ่นคิด ร่างราซิเอลโล่ขยับตัว ดวงตาที่ปิดสนิทค่อยๆ ปรือ
“หิวน้ำจัง” เป็นประโยคแรกที่ดังผ่านปากคนเพิ่งตื่น เพชรหอมรีบหยิบหลอดใส่ลงไปในขวดน้ำ แล้วนำมาให้เขาดื่มทันที
“คุณเป็นยังไงบ้าง ฉันจะกดกริ่งเรียกพยาบาลมาดูคุณนะคะ” หล่อนบอกคนกำลังดื่มน้ำ
“ไม่ต้อง ฉันอยากให้เธอดูแลฉันมากกว่า” ราซิเอลโล่พูดอ้อน หลังจากดื่มน้ำจนพอใจ มองตาหล่อนปริบๆ “เธออย่าลืมสัญญานะว่า เธอจะยกโทษให้ฉัน”
“ไม่ลืมค่ะ ฉันยกโทษให้คุณ” ราซิเอลโล่ยิ้มกว้าง ดีใจเป็นที่สุด แต่พอหล่อนพูดประโยคต่อมา รอยยิ้มจางหาย ความดีใจเหลือศูนย์ “แต่ฉันคงกลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างที่คุณต้องการไม่ได้ เจ็ดปีที่ฉันต้องทนอยู่กับคำว่าเสียใจจะลบล้างในระยะเวลาไม่กี่วันคงไม่ได้” ราซิเอลโล่เข้าใจความรู้สึกเพชรหอม จะว่าไป ความผิดของเขาก็มากมายนัก จะให้ลบล้างในเวลาไม่กี่วันก็กระไรอยู่ “ที่สำคัญที่สุด คำว่าเหมือนเดิมของคุณคือ ให้ฉันไปเป็นนางบำเรอ ฉันคงไม่ค่ะ ฉันไม่ได้โง่เหมือนก่อนแล้ว”
ฟังอีกราซิเอลโล่ก็จุกอีก...จุกแน่นไปทั้งใจ
“ฉันขอโทษในความผิดทั้งหมดของฉัน และฉันก็เข้าใจความรู้สึกของเธอ เพราะหากฉันเป็นเธอ ฉันก็คงใจแข็งไม่ยอมยกโทษให้ง่ายๆ” ราซิเอลโล่เข้าใจจุดนี้ “ฉันรักเธอนะเพ้นท์ รักถึงขั้นตายให้เธอเห็นได้ แล้วที่ฉันบอกว่ากลับมาเหมือนเดิม ไม่ได้หมายความตามที่เธอคิด ฉันหมายถึงเราจะอยู่ด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูก เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ เธอเปิดโอกาสให้ฉันเข้ามาในชีวิตเธออีกครั้งนะ ให้ฉันได้แก้ตัวนะเพ้นท์”
ราซิเอลโล่ไม่เคยอ้อนวอนขอร้องผู้หญิงคนไหน นอกจากสาวตรงหน้าที่อาจกุมหัวใจเขาตั้งแต่ตอนนั้น ทว่าเขาเองอาจหยั่งไม่ลึกถึงความรู้สึกของตัวเอง จึงเมินเฉย เห็นเพชรหอมเป็นเพียงไม้ประดับบนเตียง ทว่าตอนนี้เขารู้หัวใจตัวเองแล้วและไม่มีวันปล่อยหล่อนหลุดมือไป
“ถ้าคุณอยากได้ ฉันก็จะให้” เพชรหอมตอบตกลง
“จริงเหรอ จะให้ฉันทำยังไงว่ามาเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่รักใยพิศวาส