เข้าสู่ระบบผ่าน

โคตรคนยอดปรมาจารย์ นิยาย บท 182

ดวงตาของหญิงสาวเปล่งประกายขณะมองตรงไปที่เย่ซิว “นายเข้ามานี่สิ”

น้ำเสียงหวานนุ่มนวล

หลังจากที่ได้รับการรักษาจากเย่ซิว หยินหยางของเธอก็กลับมาสมดุล ทำให้เธอนอนหลับสนิท

หลังจากที่เธอตื่นขึ้น ก็พบว่าเย่ซิวไม่อยู่แล้ว เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

เธอรีบสวมใส่เสื้อผ้า ทันทีที่เปิดประตูก็พบเย่ซิว

เย่ซิวกำลังจะทำให้เธอหมดสติอีกครั้ง แต่ก็คิดได้ว่าเธอเป็นแม่ของลู่เสวี่ยเอ๋อร์

ถ้าเขาเดินจากไป อีกฝ่ายต้องไปหาหัวหน้ารักษาความปลอดภัยคนนั้นอีกแน่ ผลกระทบคงไม่ดีต่อตัวเองและลู่เสวี่ยเอ๋อร์

เมื่อคิดได้แบบนี้ เย่ซิวจึงตามเธอเข้าไปในห้อง

เขากดเธอจนมุมแล้วใช้วิธีเดียวกันกับครั้งก่อน จากนั้น...

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง อีกฝ่ายก็ทรุดตัวลงบนพื้นอย่างอ่อนแรง

เย่ซิวได้เอ่ยกับเธอว่า “จำไว้นะครับครั้งหน้าอย่าทำแบบนี้อีก”

หญิงสาวตกตะลึง ทันใดนั้นก็คิดได้ว่านั่นไม่ใช่เสียงของหัวหน้ารักษาความปลอดภัย

“นี่นายเป็นใคร?!”

เย่ซิวหันกลับมาถอดหน้ากากลงแล้วทิ้งไว้ที่ข้าง ๆ หญิงสาว จากนั้นก็ทุบหน้าต่างแล้วหนีออกไป

ทำไมเธอถึงคิดไม่ได้ ว่าผู้ชายที่สัมผัสใกล้ชิดกับตัวเองตั้งสองครั้ง ไม่ใช่ผู้ชายที่ตัวเองคุ้นเคย

เธอหยิบหน้ากากที่เขาใส่ขึ้นมา ใจของเธอเต้นแรงมาก

เธอกัดฟันและฝืนร่างกายที่อ่อนแอลุกขึ้นยืน

เธอเอาหน้ากากชิ้นนี้ไปล้างน้ำที่ห้องน้ำ ไม่นานหน้ากากก็ละลาย

หญิงสาวมองใบหน้ารูปทรงไข่ขาวอมชมพูของตัวเอง แล้วพึมพำกับตัวเองว่า “ฉันจะจำเสียงของนายเอาไว้ ขออย่าให้ฉันได้เจอนายอีก”

ตอนนี้จิตใจของเธอรู้สึกสับสนปนเปเป็นอย่างมาก

เธอไม่ได้โกรธและไม่ได้แค้น มีเพียงแค่ความคาดหวังและความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น

ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน? ที่ปลอมตัวเข้ามามีวัตถุประสงค์อะไร?

ทำไมถึงไม่หลับนอนกับเธอ…แต่กลับใช้วิธี…

“เป็นเพราะฉันมีเสน่ห์ไม่มากพอหรือเพราะว่านายมีความลับอะไรที่บอกไม่ได้กันแน่…”

ถ้าเย่ซิวรู้ว่าเธอคิดอะไรแบบนี้ เขาคงจะหงุดหงิดจนกระอักเลือดตาย

จอมยุทธที่เป็นถึงจอมยุทธระดับเก้าแต่กลับถูกสงสัยในความสามารถ

เพียงชั่วพริบตาก็ผ่านไปสองวัน เวลาเดินผ่านไวเหมือนโกหก

ในเวลาแปดโมงเช้า หลิ่วอวี้เอ๋อร์โทรศัพท์ไปหาเย่ซิว

เธอบอกว่าสินเชื่อจากธนาคารได้รับการอนุมัติแล้ว จึงอยากจะขอให้เขาเข้ามาเซ็นชื่อ จากนั้นเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีของเขา

เย่ซิวขับรถไปที่ธนาคารเพียงลำพัง

วันนี้หลิ่วอวี้เอ๋อร์ดูมีเสน่ห์และสวยขึ้นมาก

เพราะบทเรียนจากครั้งที่แล้ว เธอก็ไม่ได้สวมรองเท้าส้นสูงอีกเลย แต่หันมาสวมรองเท้าส้นเตี้ยแทน

ด้วยชุดสูททำงาน ประกอบกับใบหน้าที่งดงามและบุคลิกลุคคุณหนูสุดเท่ของเธอ ทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่สวยจนสังหารผู้ชายโดยปริยาย

“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเย่ซิว ตามฉันมาทางนี้ค่ะ”

บนใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มหวาน เธอพาเย่ซิวเข้าไปนั่งในห้องรับรองพิเศษ แล้วทำการรินชาให้เขาด้วยตนเอง

ทันทีที่เขาย่อเข่าจะนั่งลง เย่ซิวก็เห็นว่าวันนี้เธอสวมใส่ชุดสีดำ เป็นอะไรที่ไม่สามารถอธิบายได้

เย่ซิวรีบละสายตาลงทันที แต่หลิ่วอวี้เอ๋อร์เหมือนจะตระหนักได้ถึงบางสิ่ง เธอรีบยืดตัวขึ้นและจัดเสื้อด้านบนด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ

แต่โชคดีที่เธอมีประสบการ์การเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้มานานนับปี ไม่นานเธอก็กลับมาสงบลงอีกครั้ง ก่อนจะนำเอกสารออกมาให้กับเย่ซิว

หลังจากที่เย่ซิวแน่ใจแล้วว่าไม่มีปัญหา เขาก็เซ็นชื่อของตนเองลงในเอกสาร

ระยะเวลากู้ยืมคือสิบปี ดอกเบี้ยประจำปีคือสองพันล้าน

เพียงแค่ธุรกรรมนี้ ในระยะเวลาสิบปี ธนาคารก็จะทำกำไรได้มากกว่าสองหมื่นล้าน

เธอมัดผมทรงหางม้า ดูเหมือนสาววัยรุ่น

เธอเป็นหญิงสาวที่เข้ากับทุกลุคจริง ๆ

แม้ว่าเธอจะอายุสามสิบแล้ว แต่การแต่งตัวแบบนี้ไม่ว่าจะไปที่ไหน ผู้คนก็มักจะคิดว่าเธอเป็นสาววัยสิบห้าหรือไม่ก็วัยยี่สิบต้น ๆ เท่านั้น

เย่ซิวเดินลงมาจากรถของเขา

หูเม่ยเอ๋อร์หมุนตัวต่อหน้าเย่ซิว กระโปรงสะบัดพริ้ว “เป็นยังไงคะ สวยไหม?”

เย่ซิวพยักหน้าตอบ “สวยมาก”

เมื่อคนที่อยู่ละแวกนั้นได้เห็นต่างก็ตกตะลึง หลายคนที่เดินผ่านไปผ่านมาถึงกับเดินชนเข้ากับเสา

หูเม่ยเอ๋อร์ยิ้มมุมปากเล็กน้อย โน้มตัวไปใกล้ที่หูของเย่ซิวและหายใจแผ่วเบา “งั้นคุณก็มาเป็นแฟนของฉันไหมล่ะ?”

“ขอแค่คุณตอบตกลงเป็นแฟนกับฉัน ฉันรับรองเลยว่าจะมอบความสุขแบบจัดเต็มให้กับคุณ”

ต้องบอกว่าเสน่ห์ของหูเม่ยเอ๋อร์นั้นเหลือล้นจริง ๆ

เย่ซิวเริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่ เขารีบก้าวเดินไปข้างหน้า “รีบไปเถอะครับ เรายังมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ”

เมื่อเห็นเย่ซิวเดินไปอย่างเร่งรีบ ใบหน้าของหูเม่ยเอ๋อร์ก็แสดงรอยยิ้มอย่างผู้ชนะออกมา

“ก็ยังดีที่คุณไม่ได้มีความต้องการอะไรมากขนาดนั้น ถ้าคุณเป็นแบบนั้น คุณจะหนีจากเงื้อมมือของฉันไม่พ้นแน่ ๆ

สักวันหนึ่ง ฉันจะบีบคั้นความลับทั้งหมดจากตัวคุณออกมา”

เธอขยับเอวโค้งที่เซ็กซี่แล้วเดินตามไป

หลังจากที่ทั้งสองคนแสดงจุดประสงค์ เจ้าหน้าที่ชั้นสูงของกรมที่ดินก็ตกใจทันที

สถานที่นั้นมีทำเลที่ไม่ดี

และผืนดินที่นั่นมีสารอาหารน้อยมาก ใช้ปลูกพืชก็ไม่ได้ผล เพราะฉะนั้น หลายปีที่ผ่านมาจึงไม่สามารถขายที่ดินได้แม้แต่แปลงเดียว

แต่ตอนนี้มีคนยินดีที่จะซื้อที่ดินผื่นนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงจึงตกใจเป็นอย่างมาก

ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดคือต้องรีบขายออกไป

แบบนั้นจะถือเป็นการแก้ไขปัญหา และยังสามารถเพิ่มรายได้ได้มากอีกด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โคตรคนยอดปรมาจารย์