โทษทัณฑ์พิพาทใจ นิยาย บท 301

“ไปเร็ว!”

คิงส์ตันถามว่า “ตามคุณผู้หญิงไปเหรอครับ?”

เซบาสเตียนตอบอย่างไม่พอใจ “ไม่ต้องถึงขั้นเข้าไปประกบเธอล่ะ! ทำตัวมีเมตตากับผู้หญิงคนนั้นไป เธอก็ไม่เห็นหรอก”

คิงส์ตันตอบทันที “รับทราบครับ นายน้อย!”

เนื่องจากไม่กล้าขัดคำสั่งของเซบาสเตียน เขาจึงเพียงสะกดรอยตามซาบริน่าไปห่าง ๆ เท่านั้น เขามองดูซาบริน่าขึ้นรถแท็กซี่แล้วตามเธอไปจนถึงหลุมฝังศพของเกรซ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขาต้องรักษาระยะห่างเพื่อสังเกตเธอ คิงส์ตันก็ไม่ได้ยินสิ่งที่ซาบริน่าพูด

เขาเดินห่างออกไปเล็กน้อยก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเซบาสเตียน “นายน้อยครับ นายหญิงฟอร์ดไปเยี่ยมหลุมศพของของคุณผู้หญิงครับ ผมเห็นเธอร้องไห้นิดหน่อย และดูเหมือนว่าเธอจะพูดว่าอีกไม่กี่วันเธอจะพาเจ้าหญิงน้อยมาเยี่ยมหลุมศพด้วยครับ”

เมื่อเขาพูดเช่นนั้น หัวใจของคิงส์ตันก็ปวดร้าว

ปลายสายอีกด้าน เซบาสเตียนตอบแต่เพียงว่า “เข้าใจแล้ว”

ฉับพลัน คิงส์ตันก็พูดขึ้นว่า “นายน้อย… แล้วผม… ”

“จับตาดูเธอต่อไป!” เซบาสเตียนสั่ง

“ตามต้องการครับ นายน้อย” หลังจากวางสาย คิงส์ตันยังคงมองหาจุดที่เขาสามารถจับตาดูซาบริน่าได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็น

ในขณะนั้น ซาบริน่ายังคงพึมพำอยู่หน้าหลุมศพของเกรซ เสียงของเธอเริ่มแผ่วเบาลงจนตอนนี้มีเพียงเธอเท่านั้นที่ได้ยิน “แม่คะ อย่างน้อย แม่ก็เคยมีประสบการณ์ความรักระหว่างแม่กับคุณฟอร์ดมาบ้าง แต่หนูกับเซบาสเตียนล่ะ? ระหว่างเราไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นเลย และเขาก็เกลียดหนูด้วยซ้ำ ถ้าหนูไม่ได้ให้กำเนิดลูกสาวของเขา เขาคงจะฆ่าหนูไปแล้ว

“แม่คะ บอกหนูทีว่าหนูควรทำยังไง?”

“หนูจะมีชีวิตอยู่ต่อไปยังไงดี?”

“ช่วยมอบความเข้มแข็งให้หนูหน่อยได้ไหมคะ? โปรดช่วยให้หนูหางานในเมืองนี้ได้ เพื่อที่หนูจะได้ดูแลตัวเอง และสุดท้ายหนูก็จะได้มีเงินเก็บมากพอที่จะไปเยี่ยมแม่ที่บ้านเกิดได้ด้วยนะคะ”

“แม่ ๆ แท้ของหนูท่านมีชีวิตที่น่าสงสาร แม้ในบั้นปลายสุดท้ายหนูก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าท่านจากไปยังไง”

“แม่คะ ถ้าแม่ได้ยินหนู ช่วยมอบความเข้มแข็งให้หนูด้วยนะคะ ได้ไหมคะ?”

ซาบริน่ายังคงคุกเข่าอยู่หน้าหลุมศพของเกรซตลอดทั้งช่วงเช้า และจากไป เมื่อใกล้เวลาของอาหารกลางวัน

หลังจากสั่งของทานที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดบริเวณใกล้เคียงแล้ว ซาบริน่าก็นั่งอยู่ในสวนและเปิดโทรศัพท์เพื่อดูโฆษณาการรับสมัครงาน

เธอไม่มีทักษะทางวิชาชีพเลย เธอมีความรู้ด้านการออกแบบตึกรามบ้านช่องเท่านั้น

นอกจากนี้ เธอยังไม่ได้รับปริญญาจากมหาวิทยาลัยหรือแม้แต่ประสบการณ์การทำงานในสำนักงานในเมืองใหญ่ เธอเคยทำงานในสถานที่ก่อสร้างในเมืองเล็ก ๆ ก่อนหน้านี้เท่านั้น

หลังจากดูว่าเป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว ซาบริน่าก็จำกัดบริษัทให้เหลือเพียงสี่หรือห้าแห่งที่เธอรู้สึกว่ามีโอกาสยอมรับเธอเข้าทำงาน และโทรหาทีละบริษัท

อย่างไรก็ตาม เธอไม่เคยคาดหวังว่าคำถามแรกที่แต่ละคนถามคือระดับการศึกษาของเธอ

ซาบริน่าไม่รู้จะตอบอย่างไร

อีกฝ่ายเริ่มจะด่าเธอว่า “เธอคิดว่าสถาปัตยกรรมง่ายเหมือนขายขนมปังเหรอ? ถ้าเธอโทรหาฉันอีก ฉันจะฟ้องเธอข้อหาสร้างความรำคาญให้ผู้อื่น!”

เมื่อเธอได้ยินคำพูดแสนรุนแรงของพวกเขา ซาบริน่าก็พูดไม่ออก

ไม่มีใครสนใจที่จะฟังเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานของเธอเลย

เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น ความคิดของซาบริน่าก็ผุดขึ้นมา เธอตัดสินใจไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ และใช้คอมพิวเตอร์ที่นั่นเพื่อสร้างเรซูเม่ง่าย ๆ จากนั้น เธอจะโพสต์ออนไลน์ และระบุในเรซูเม่ว่า หากใครเต็มใจที่จะให้โอกาสเธอในการสัมภาษณ์งาน เธอจะนำเสนอแบบร่างของตัวเองและอธิบายประกอบโดยละเอียดที่นั่น

ซาบริน่ารู้สึกมั่นใจในแผนการของเธอและถามคนเดินถนนที่เดินผ่านไปมาว่า “ขอโทษนะคะ มีร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่อยู่ใกล้ ๆ แถวนี้ไหมคะ?”

เธอถามคำถามแบบเดิมซ้ำ ๆ กับผู้คนที่ผ่านไปมาสองสามคน แต่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบเธอได้เลย แต่เมื่อซาบริน่าได้ถามนักการภารโรงที่อยู่แถวนั้น เธอก็รู้แล้วว่าร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่อยู่ที่ไหน “ฉันเคยเห็นเด็กจำนวนมากไปเล่นเกมที่อาคารตรงข้ามนั่นน่ะ คุณควรไปถามคนแถวนั้นอีกที คุณน่าจะเจอร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่อยู่ในอาคารนั่นแหละนะ” ผู้หญิงคนนั้นกล่าว

“อ๋อ ขอบคุณค่ะ” ซาบริน่ามุ่งหน้าไปยังอาคารตรงข้ามทันที

เป็นอาคารที่มีร้านค้ามากมาย ชั้นหนึ่งจะขายเกี่ยวกับพวกเครื่องสำอาง ส่วนชั้นสองจะเป็นรองเท้าและกระเป๋า ส่วนร้านค้าในชั้นสามถึงชั้นหกจัดจำหน่ายสินค้าหรูหราระดับไฮเอนด์ต่าง ๆ มากมาย ด้านบนสุดก็เต็มไปด้วยสำนักงานต่าง ๆ

เมื่อซาบริน่าหาร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ด้านข้างลิฟต์เจอ เธอจึงกดปุ่มเพื่อขึ้นไปยังชั้นที่เปิดอยู่

ทันทีที่ลิฟต์เปิดประตู ผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินออกมาจากลิฟต์ จากนั้น เธอก็ถามด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ

“ซาบริน่า! แกมาที่นี่ได้ไง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โทษทัณฑ์พิพาทใจ