ซาบริน่าไม่ตอบ เธอทำเพียงก้มหน้ารับประทานอาหารต่อไป
เปลือกของมันหวานยังปลอกออกไม่หมด เธอจึงรับประทานพลางปลอกเปลือกไปพร้อมกัน
“ชอบมันหวานขนาดนั้นเลยเหรอ?” ไนเจลถาม
“ใช่ รสชาติมันหวานดีน่ะค่ะ” ซาบริน่าตอบ
“ก็ไม่ได้หวานขนาดนั้นเสียหน่อย ถ้าเป็นช็อคโกแลตก็ว่าไปอย่าง! ส่งมานี่สิ ฉันอยากลองชิมบ้าง ถ้ารู้ว่าเธอหลอกฉัน ฉันจะจัดการเธอตรงนี้เลย!”
ไนเจลแย่งจานจากมือซาบริน่าไปพร้อมกับดึงมันหวานออกจากมือเธอไปด้วย ดูเหมือนว่าไนเจลจะไม่สนใจว่าพวกเขาทั้งสองอยู่ในที่สาธารณะ และเขาก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องฝุ่นที่กระจายไปทั่วอีกด้วย เขาใช้ส้อมจิ้มมันหวานเข้าปาก
ซาบริน่าตกตะลึง
เธอจ้องไปที่ไนเจลอย่างงงงวย
ไนเจลกลืนลงไปทีละน้อย หลังจากรับประทานเสร็จ เขาชะงักก่อนจะพูดว่า “ให้ตายสิ ฉันไม่คิดเลยว่าอาหารที่ไซต์ก่อสร้างจะถูกปากขนาดนี้ มันหวานนั่นอร่อยมาก…ไม่หวานอย่างเดียวมันหอมด้วย ธรรมดา ๆ แต่เหนียวนุ่ม”
เขาแสดงท่าทีที่เกินจริงและเก้งก้างอย่างเห็นได้ชัดเจน
แต่ซาบรินาก็หัวเราะออกมาได้
เสียงหัวเราะนั้นน่ารักและมากจากใจจริง
ไนเจลตกตะลึง คิ้วของเขาขมวดเป็นปม
เขาไม่เคยเห็นเธอหัวเราะ โดยส่วนใหญ่เขาจะเห็นเธออยู่ในสภาพของผู้หญิงอมทุกข์ซึ่งค่อยปฏิเสธคนรอบอยู่ตลอด แม้แต่ครั้งที่เธอเผยให้รอยยิ้มซึ่งจะเรียกได้ว่าเป็นโอกาสที่ริบหรี่เหลือเกินก็ตาม แต่นั่นกลับเป็นรอยยิ้มที่เป็นเพียงการขยับกล้ามเนื้อและตอบรับตามมารยาทเท่านั้น
ถึงกระนั้น ครั้งนี้ไม่ใช่แบบนั้น
เสียงหัวเราะของเธอกังวานราวกับเสียงเพลง รอยยิ้มของเธอราวกับ...
ไนเจลหน้าบิ้งตึง ขณะที่เขาครุ่นคิด เสียงของน้ำพุจากธรรมชาติสาดกระเซ็นเข้ามาในจิตใจของเขา
เสียงหัวเราะอันแสนหวานของซาบริน่าคล้ายกับเสียงน้ำใสไหลเป็นลำธารเล็ก ๆ บนภูเขา
เธอมีรอยยิ้มอันสดใสและบริสุทธิ์ซึ่งถ่ายทอดความเป็นเด็กที่ไร้เดียงสาของเธอออกมา
ทันใดนั้น ไนเจลก็นึกขึ้นได้ว่าเธอมีอายุเพียงยี่สิบปี น้อยกว่าเขาสี่ปี
บ่ายวันนั้น ซาบริน่าไม่ได้กลับไปที่บริษัท เนื่องจากไนเจลรับประทานอาหารของเธอจนหมด เขาจึงตัดสินใจพาเธอไปที่ร้านอาหาร เขาสั่งอาหารมาจนเต็มโต๊ะ เธอไม่ได้เริ่มกินโดยทันที แต่ยินดีรับฟังสิ่งที่ไนเจลพูดพล่ามเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในใจของเขาอย่างเงียบ ๆ
แม้ว่าเขาจะหยาบคายและด่าทอคนอื่นโดยใช้คำพูดที่ไม่ไตร่ตรองก่อน แต่ซาบริน่าก็ไม่สนใจ
เธอเพียงแค่รับฟังอย่างว่าง่าย
ไนเจลส่งเธอกลับไปที่โรงพยาบาลที่เกรซพักรักษาตัวตอนห้าโมงเย็นก่อนจะรีบออกมา เขาอยากจะพิชิตใจของซาบริน่า แต่เขาก็ยังไม่กล้าพอที่จะล่อลวงสาวบ้านนอกคนนั้นและสู้กับลูกพี่ลูกน้องของเขาโดยตรง
ขณะที่ซาบริน่าเดินเข้าไปในวอร์ดคนเดียว ทันใดนั้น เธอก็สังเกตเห็นเซบาสเตียนอยู่ภายในวอร์ดเช่นกัน เขากำลังป้อนอาหารที่เตรียมมาให้กับแม่ของตน
“เซบาสเตียน ทำไมวันนี้คุณมาเร็วกว่าฉันได้ล่ะ? เดี๋ยวฉันป้อนข้าวแม่เองก็ได้ค่ะ” อารมณ์ของซาบริน่าในวันนั้นค่อนข้างดีตั้งแต่เช้า
เซบาสเตียนยื่นชามให้ซาบริน่า และเธอก็ค่อย ๆ ป้อนอาหารเกรซ ขณะที่รับประทานอาหาร เกรซพึมพำอย่างมีความสุข “อ่า จะดีแค่ไหนถ้าฉันสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสักหน่อย?”
“แม่คะ แม่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานเลยแหละค่ะ” ซาบรินาพูดขณะป้อนอาหารเกรซ “แต่แม่จะต้องทานให้มากกว่านี้ อีกเดี๋ยวร่างกายของแม่ก็จะดีขึ้น พอร่างกายแม่แข็งแรง อายุก็จะยืนยาวไปด้วยเหมือนกันนะคะ”
“อืม งั้นแม่จะฟังหนูนะ แม่จะทานให้มากกว่านี้” แม้จะรู้ว่าเธอจะอยู่ได้อีกไม่นาน เกรซก็ยังดูมีความสุข
เซบาสเตียนซึ่งอยู่ข้างพวกเขาพูดว่า “หลังจากที่เธอป้อนอาหารแม่เสร็จแล้ว ฉันจะพาเธอไปซื้อเสื้อผ้า”
"อะไรนะ?" ซาบริน่ามองเขาด้วยความประหลาดใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โทษทัณฑ์พิพาทใจ
รออัพเดทค่ะ นานมาก...
รอการอัพเดทตอนต่อไปค่ะ ลุ้นทั้งเรื่อง สนุกมงมาก...