เจดที่อยู่ข้าง ๆ พวกเขาก็มีท่าทางที่เกลียดชังอย่างรุนแรงเช่นกัน ตอนนั้นเอง เธอสะกิดไหลสามีตนเอง “ลินคอล์น เมื่อวานคุณไม่ได้คุยกับมันแล้วเหรอ?”
ท่าทางของลินคอล์นมืดมน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังจนดูเหมือนว่าเขาต้องการจะฆ่าซาบริน่าด้วยสายตา “ผมคุยแล้ว แต่นางปีศาจร้ายนั่นกลับท้าทายผม ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะปีกกล้าขาแข็งเพราะมีเซบาสเตียนคอยหนุนหลังอยู่!”
“เพียงแค่เรามีผู้หญิงคนนั้นอยู่ในมือ ซาบริน่าจะต้องคุกเข่าลงต่อหน้าเราแน่!” เจดพูดพลางกัดฟันแน่น ขณะที่เธอถามลินคอล์นว่า “คุณเสียเงินเสียทองไปในการจ้างนักสืบเอกชนให้ไปสืบหาเบาะแสของผู้หญิงคนนั้นก็ไม่น้อย พวกเขาได้เบาะแสอะไรบ้างไหม?”
ลินคอล์นทำได้เพียงถอนหายใจ
เขาไม่ตอบ แต่เจดและเซลีนก็รู้ได้จากน้ำเสียงของเขาว่าดูเหมือนจะไม่มีความหวังมากนัก
เมื่อเห็นแววตาที่เจ็บปวดและเกลียดชังของภรรยาและลูกสาว ลินคอล์นก็รู้สึกผิดและโกรธเล็กน้อย “เราต้องตามหาผู้หญิงคนนั้นอย่างแน่นอน ต่อให้ต้องใช้เงินสักเท่าไหร่ ผมจะไปเสาะหาและพาเธอกลับมาให้ได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เราจะเจอตัวเธอ เราต้องป้องกันตัวเองก่อน เซลีนต้องแต่งงานกับเซบาสเตียน และกลายเป็นภรรยาของชายผู้มีอำนาจที่สุดในเซ้าท์ ซิตี้ก่อน...ลูกต้องเป็นให้ได้!”
เซลีนปาดน้ำตาของเธอ "พ่อ…"
“เซลีน พ่อจะหาทางให้ได้!” สายตาที่ชั่วร้ายของลินคอล์นจ้องไปที่ซาบริน่าด้วยความโกรธ
ในระยะไกล ซาบริน่าสั่นสะท้านในส่วนลองเสื้อผ้าของผู้หญิง
"เกิดอะไรขึ้น?" เซบาสเตียนถาม
“เสื้อผ้าพวกนี้อาจจะบางเกินไป ตอนนี้ใกล้จะฤดูหนาวแล้วด้วย มันอาจจะหนาวหน่อย ดังนั้นเสื้อผ้าพวกนี้ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่” เธอตอบอย่างสุภาพ เมื่อดูถุงจำนวนมากที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ เธอพูดต่อว่า “เราซื้อไปสองโหลได้แล้ว ควรจะพอได้แล้วมั้งคะ ถ้ามากกว่านี้ก็จะเปลืองแย่”
ตั้งแต่สมัยเด็ก ซาบริน่าไม่เคยใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยขนาดนี้มาก่อน จู่ ๆ การซื้อเสื้อผ้าจำนวนมากโดยเฉพาะยิ่งเสื้อผ้าที่มาจากแบรนด์หรูทำให้เธอรู้สึกละอายใจกับความฟุ้มเฟ้อเกินเหตุ
“ถ้าเธอไม่มีที่ชอบอีก เราหยุดเท่านี้ก็ได้” ชายคนนั้นพูด
“สำหรับฉันพอแล้วค่ะ”
"กลับบ้านกัน"
เซบาสเตียนไม่ได้ถือถุงใด ๆ ทั้งสิ้น และซาบริน่าก็เช่นกัน เมื่อเห็นว่าชายผู้นี้เป็นลูกค้าคนสำคัญ พวกเขาจึงมีคนนำสินค้าออกมาส่งให้
ขณะที่พวกเขาก้าวออกจากห้าง เซบาสเตียนไม่ได้ขึ้นรถ แต่สั่งการคิงส์ตันแทน "ส่งเธอกลับบ้านก่อน ฉันมีธุระที่บริษัท"
เขาบอกว่ามันเป็นเรื่องของธุรกิจ แต่คิงส์ตันรู้ดีว่าจริง ๆ แล้ว เขาจะไปตรวจสอบคนที่โจมตีพวกเขาก่อนหน้านี้ เมื่อเข้าใจสถานการณ์ คิงส์ตันก็พยักหน้า
ขณะที่เซบาสเตียนขึ้นรถอีกคันและจากไป คิงส์ตันบอกซาบริน่าว่า “คุณผู้หญิงครับ กลับบ้านกันเถอะ”
“เช่นนั้น…” ซาบริน่ายิ้มขณะที่เธอถาม “คิงส์ตัน คุณช่วยส่งฉันกลับไปที่ทำงานได้ไหม? ฉัน…"
เธอวางแผนจะกลับไปทำงานล่วงเวลาที่บริษัทหลังจากไปเยี่ยมป้าเกรซ เนื่องด้วยเพื่อนร่วมงานของเธอโยนงานทั่ว ๆ ไปมาให้เธอมากเกินไป
ขณะที่เธอยุ่งอยู่กับงานที่เลือกไม่ได้ระหว่างวัน แบบงานที่ผู้อำนวยการมอบหมายให้เธอทำก็ยังไม่ได้วาดเลย
เธอสามารถนำงานกลับบ้านได้ แต่นอกจากการวาดด้วยมือจะช้ากว่าแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่เซบาสเตียนจะเห็นอีกด้วย
มีคอมพิวเตอร์อยู่ที่สำนักงาน เธอจึงอยากทำงานล่วงเวลาที่นั่น
"ไม่มีปัญหา"
ซาบริน่าทำงานที่สำนักงานจนดึกดื่นในคืนนั้น การทำงานที่นั่นมีประสิทธิภาพมากกว่าการทำงานด้วยมือ ซาบริน่าเกือบลืมตัวไปตอนที่ได้ลงมือทำงานอย่างจริงจัง และเมื่อเสร็จงาน เธอสังเกตเห็นว่าตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้ว
เธอคว้ากระเป๋าออกไปทันที และพบว่าคิงส์ตันยังรออยู่
ตอนที่เธอถึงบ้าน ก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว
เดินผ่านทางเข้า เธอสังเกตเห็นเซบาสเตียนกำลังพักผ่อนอยู่ในห้องนั่งเล่น สวมชุดนอนของเขา ตรงหน้ามีแล็ปท็อปสีชมพูวางอยู่
“มาดูนี่สิ ชอบไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โทษทัณฑ์พิพาทใจ
รออัพเดทค่ะ นานมาก...
รอการอัพเดทตอนต่อไปค่ะ ลุ้นทั้งเรื่อง สนุกมงมาก...