ก่อนหน้านี้เป็นเพราะสุขภาพไม่แข็งแรง นางถานจึงได้มอบหน้าที่หุงหาอาหารในบ้านให้หรงจือจือทำมานานแล้ว วันนี้อยากจะต้อนรับขับสู้ด้วยตนเอง เพื่อแสดงให้เห็นว่าให้ความสำคัญกับนางเซี่ย
หรงจือจือเพิ่งได้รับอิสระ แต่นางก็ไม่ได้ทำตัวว่าง ส่งคนไปสืบข่าวคราวที่เรือนด้านหน้า แล้วก็กำลังจัดการใบรายการสินเดิมของตนเอง
เพียงแต่ถึงแม้นางถานจะสติเลอะเลือน แต่กลับปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างรอบคอบยิ่ง ให้คนรับใช้คนสนิทของตนเฝ้าเรือนอย่างเข้มงวด สาวใช้ของหรงจือจือจึงไม่สามารถสืบรายละเอียดที่คุยกันได้
หลังจากได้ยินรายงานของเจาซี “คุณหนู หลังจากที่พระชายาซื่อจื่อแห่งจวนอ๋องกลับไปแล้ว ฮูหยินก็โมโหมาก ขว้างปาข้าวของในห้องหลายอย่างเลยเจ้าค่ะ!”
หรงจือจือเลิกคิ้ว “อย่างนั้นหรือ?”
หรือที่ไม่อยากให้ตนไปพูดอะไรกับจวนอ๋องเฉียน เป็นเพราะการแต่งงานได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว?
ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอย่างละเอียด
สาวใช้เฉินคนสนิทของนางถาน ก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่พอใจ จ้องหรงจือจือกล่าว “ฮูหยินซื่อจื่อ ฮูหยินใช้ให้บ่าวรับใช้มาตามท่านให้ไปพบเจ้าค่ะ!”
หรงจือจือก็อยากจะรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเช่นกัน จึงไม่รอช้า รีบลุกขึ้นทันที
เจาซีรีบหยิบเสื้อคลุมขนสัตว์ มาคลุมให้คุณหนูของตน เพื่อที่จะได้ไม่เป็นหวัด ด้านนอกมีหิมะตกปรอย ๆ เจาซีช่วยถือร่มให้ ค่อย ๆ เดินมุ่งหน้าไปยังสวนฉางโซ่วของนางถาน
ถึงแม้จะเป็นตอนกลางวันในฤดูหนาว แต่ลมก็พัดจนทำให้ใบหน้ารู้สึกเจ็บปวด หรงจือจือยังคงเดินด้วยท่าทางที่สูงส่ง และสง่างาม
สาวใช้เฉินไม่ชอบอีกฝ่ายเพราะความคิดของนางถามเป็นเหตุ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าท่าทางของซื่อจื่อฮูหยินผู้นี้ ไม่เป็นสองรองใครจริง ๆ คู่ควรกับซื่อจื่อของตนอย่างแท้จริง องค์หญิงพวกนั้น ไม่แน่ว่าอาจจะมีบุคลิกและความสามารถเช่นนี้
ที่ฉีจื่อฟู่เห็น ก็คือฉากนี้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น