หรงจือจือลอบคิดในใจ นับว่านางถานไม่โง่ทีเดียว ไม่คิดว่าจะมองออกแล้ว
เพียงแต่ปากนางจะยอมรับได้อย่างไร?
นางมองนางถานราวกับยากจะเชื่อทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นพลางขมวดคิ้วว่า “ท่านแม่ ท่านพูดเช่นนี้ใส่ความข้าชัด ๆ! เสี้ยมเซิ้มอะไรกัน?”
“ข้าแค่คิดว่าตอนนี้ท่านพี่ก็สร้างคุณูปการให้แก่ราชวงศ์แล้ว ต่อไปต้องมีอนาคตที่สดใสอย่างยิ่งแน่ เดี๋ยวก็ต้องทำเงินกลับมาได้ไม่น้อย อีกอย่างน้องชายสามีเองก็กราบอาจารย์ที่สำนักขงจื๊อแล้ว คิดว่าไม่ช้าก็เร็วคงจะสอบผ่านเข้ารอบ”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็มอบสินเดิมให้อวี่เยียนเพิ่มอีกหน่อย ให้แล้วก็ให้ไปเถิด เหล่าบุรุษในบ้านเก่งกาจค้ำจุนเรือนนี้ได้ จะให้อวี่เยียนที่อายุเพียงสิบกว่าปีต้องไปตกระกำลำบากอยู่ข้างนอกได้อย่างไร?”
เมื่อพี่น้องตระกูลฉีได้ยินดังนั้น ในใจก็หวั่นไหวขึ้นมา
โดยเฉพาะฉีจื่อฟู่ จ้องมองหรงจือจือด้วยดวงตาเปล่งประกาย ที่แท้นางก็มองตนเช่นนี้เองหรอกหรือ คิดว่าไม่นานตนก็จะมีอนาคตที่ดีเช่นนั้นหรือ?
ใช่แล้ว เขาต้องมีแน่! ต้องมีสักวัน เขาจะทำให้ทุกคนในใต้หล้าเมื่อนึกถึงหรงจือจือ ก็จะคิดว่านางคือเครื่องประดับของตน
แต่ไม่ใช่อย่างในงานเลี้ยงวันนั้น ทั้ง ๆ ที่คนสร้างคุณูปการเป็นเขาชัด ๆ ทว่าสตรีสูงศักดิ์เหล่านั้นดันชื่นชมหรงจือจือสุดชีวิต บอกว่านางดีอย่างนั้นดีอย่างนี้!
ฉีอวี่เยียนยิ่งรีบมองนางถานแล้วเอ่ยว่า “ท่านแม่ท่านฟังสิ ขนาดพี่สะใภ้ยังบอกว่าจะให้ข้าไปตกระกำลำบากข้างนอกไม่ได้ ท่านคิดถึงข้าสักนิดไม่ได้เลยจริง ๆ หรือ?”
นางถานคิดว่าหลังแทงหรงจือจือได้แล้ว จะได้โจมตีอีกฝ่ายกลับ สุดท้ายดันถูกอีกฝ่ายกำจัดออกไปได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
นางเองก็ไม่แยแสฉีอวี่เยียน ได้แต่จ้องหรงจือจือด้วยความสงสัย “เจ้าคิดแค่นี้จริง ๆ หรือ?”
หรงจือจือ “แน่นอนอยู่แล้วเจ้าค่ะ ข้าขอสาบานด้วยอนาคตของท่านพี่ ทุกคำที่ข้าพูดล้วนเป็นความจริง”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น