Chapter 14
"แกโทรเรียกทนายเหรอ" เธียเตอร์หันมาถามเธอด้วยสีหน้ามึนงงปนตกใจ
"เปล่า" เรียวส่ายหน้ารัวๆ และเหลือบสายตามองผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง
เดี๋ยวนะ!! เรียวก้มมองหาบางสิ่งที่อยู่ในกระเป๋า ใช่ มันหายไป โทรศัพท์ของเธอหายไป
"เหอะ คิดว่าฉันจะกลัวใช่ไหม ไม่มีทาง พ่อฉันเป็นใคร พ่อนิวเป็นใคร แกคงรู้ดี"
"งั้นก็มาสิ เอาเลย โทรตามญาติโกโหติกามาด้วย เอามาให้หมด ฉันก็อยากจะรู้ว่าถ้าเขารู้ถึงสันดานของพวกเธอสองคนจะทำยังไง"
"คิดว่าตัวเองดีกว่างั้นสิ!! ตอนเรียนแกก็คอยแต่แย่งของของฉัน แค่ฉันแย่งคืนมาบ้างมันจะตายเหรอ"
"ฉันไปแย่งของเธอตอนไหนไม่ทราบ"
"อย่าให้สาธยาย เพราะวันนี้ก็คงพูดไม่จบ!! "
"ตัวเองไม่ได้เองแล้วมาอิจฉาริษยาคนอื่น"
"ฉันไม่ได้อิจฉา!! "
"น่ารำคาญ"
"นี่!! "
"พวกคุณ!! เลิกทะเลาะกันสักที!! "
"พวกเราจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดค่ะ!! ฉันจะไม่ยอมอีแสบแน่!! "
"เอาเลยค่ะ ดีเลย" เธอแค่อยากประชดประชันเท่านั้น ในเมื่อมีผู้ชายมาเสนอเป็นทนายความให้แล้ว เรื่องนี้พ่อก็คงจะไม่รู้
"คุณอิงกาญจน์ครับ กลับไปก่อนได้เลยครับ ทางนี้ผมจะจัดการเอง" ทนายความคนนั้นหันมาพูดกับเธออย่างนอบน้อม
"แล้วเธียเตอร์..."
"ผมรับหน้าที่ให้มาดูแลคุณอิงกาญจน์คนเดียวครับ"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจัดการเอง" เธียเตอร์หันมาตบไหล่เธอเบาๆ
"ได้ไง เรื่องเกิดขึ้นเพราะฉัน ไม่งั้นแกคงไม่ไปต่อยมันหรอก"
"ฉันโทรบอกแม่แล้ว เดี๋ยวทนายฉันคงมา"
"งั้นฉันรอทนายแกมาก่อนค่อยไป"
ไม่นานนัก ทนายความสาวของเธียเตอร์ก็มา เธอก็โดนเพื่อนสนิทไล่ให้กลับบ้านก่อน
"...ฝากด้วยนะคะ"
เรียวหันไปบอกทนายความของตัวเองก่อนจะเดินออกมาจากสถานีตำรวจ ดูสภาพเธอสิ มีแต่รอยเสื้อผ้าฉีกขาด ใบหน้ามีรอยตบที่มุมปาก เลือดยังแห้งติดอยู่เลย มันเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงพอสมควร ทั้งดึงหัว จิกตบ ถือเสียว่าออกกำลังกายก็แล้วกัน
เธอบิดเนื้อบิดตัวพลางเดินลงบันไดมาก็เห็นรถเบนซ์สีดำสนิท จอดอยู่ พร้อมกับชายหนุ่มรูปงามยืนเด่นเป็นสง่า กอดอกพิงประตูรถ สีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก ใส่เสื้อยืดสีขาวถูกคลุมด้วยเสื้อสูทสีกรม ทรงผมถูกจัดไว้อย่างดี คิ้วถูกขมวดเข้าหากันเล็กน้อย
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร…
เรียวค่อยๆ เดินไปยืนตรงหน้าเขาก่อนจะเอ่ยถาม
"คุณมาทำอะไรที่นี่"
“…” พอลสันไม่ยอมตอบ ใช้สายตาจ้องมองเธอนิ่ง ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าในเสื้อสูท ส่งมาให้
"คุณ!! ...เอามันมาได้ยังไง ฉันคิดว่าทำหายไปแล้วเสียอีก"
"คุณอายุเท่าไหร่แล้ว" อยู่ๆ เขาเอ่ยถามถึงอายุเธอ…
"21ค่ะ"
"โตแล้ว แต่ยังมีเรื่องตบตีกันแย่งผู้ชาย"
"ฉันไม่ได้ตบแย่งผู้ชาย!! "
"แล้วทะเลาะกันเรื่องอะไร"
"คุณไม่จำเป็นต้องรู้หรอกค่ะ ขอบคุณสำหรับโทรศัพท์" เธอดึงโทรศัพท์ออกจากมือของเขาก่อนจะหันหลังเดินออกไป
หมับ!
แต่กลับโดนคว้าแขนไว้ได้ก่อน
"อะไรอีก!! อยากโดนกัดอีกหรือไง!! " เธอกำลังอารมณ์ไม่ดี ไม่อยากจะชวนเขาทะเลาะกันหรอกนะ
“…” พอลสันใช้สายตามองรอยช้ำที่แขนของหญิงสาวก่อนจะขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเดิม
เรียวเห็นเขาไม่ได้สนใจสิ่งที่เธอพูด แต่กลับสนใจบางสิ่งที่อยู่บนร่างกายของเธอมากกว่า…เขามองอะไร
“หาเรื่องเจ็บตัว” พอลสันบ่นพึมพำ
“…เรื่องของฉัน!!” เรียวมองตามสายตาของเขาก็เห็นรอยช้ำบนแขนของตัวเอง จึงรีบเอาแขนเสื้อลงเพื่อปกปิดทันที "ปล่อย!! "
"ปากคุณนี่ ใช้ได้เลยนะ"
"ค่ะ ฉันทราบ และตอนนี้ไม่ใช่เวลาทำงาน ฉันจะปากดีมากกว่านี้ก็ได้"
"พยศดีจริงๆ " เขากัดฟันพูด ก่อนจะเปิดประตูรถเพื่อดันเธอเข้าไปข้างใน
แต่…
"เอ่อ...คุณ...คุณพอลสัน...ใช่ไหมครับ" มีผู้ชายอายุประมาณ 40 ต้นๆ ใส่สูทผูกเนกไทสีน้ำเงินเดินเข้ามามองพอลสันใกล้ๆ แต่เขากลับไม่สนใจสายตายังคงจ้องมองหญิงสาวข้างกายอยู่ "ผม...ผมพยายามติดต่อคุณมาตั้งนานแล้ว ไม่คิดว่าจะได้เจอ...เดี๋ยว...เดี๋ยวสิครับ"
พอลสันดันตัวหญิงสาวขึ้นรถก่อนจะเข้าไปนั่งข้างในเพื่อปิดทางออกไม่ให้เธอลงมาได้ ก่อนที่รถจะออกตัวขับออกไป
"คุณ...จะพาฉันไหน"
"กลับบ้าน"
"ฉันไปเองได้"
"ฟังคำสั่งมันจะตายไหม!! "
"ตอนนี้ฉันไม่ใช่เลขาของคุณนะคะ" พอลสันหันมาทำตาขวางใส่เธอก่อนจะเอี้ยวตัวเข้ามาใกล้
"หรืออยากจะเป็นอย่างอื่น...ถ้าคุณยังไม่หุบปาก ผมจะข่มขืนคุณในรถนี่แหละ"
“…” เรียวที่กำลังจะอ้าปากรีบกลืนคำพูดลงคอทันที ไม่ใช่ว่าเธอกลัวเขา แต่เธอรู้ว่าเขาคงจะทำจริงเพราะดูจากน้ำเสียงของแล้ว…มันดูจริงจังเกินไป
เมื่อเห็นหญิงสาวสงบลงได้ เขาก็เริ่มเอ่ยปากถาม
"ไปมีเรื่องอะไรกัน"
"ก็...ก็...มันเป็นเรื่องของผู้หญิง คุณอย่าถามเลยค่ะ ฉันไม่อยากจะพูด" ใครจะอยากพูดว่าทะเลาะกันเพราะเรื่องแฟนเก่า เธอไม่อยากจะคิดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว
"ผมเป็นผู้ช่วยคุณ ก็ต้องไปกับคุณสิครับ" งั้นก็ดีเลย เธอจะได้ไม่ต้องกังวล
"งั้นไปกันเลยแล้วกันค่ะ" เรียวลุกขึ้นและเดินไปที่ลิฟต์
เชนอธิบายให้เธอฟังว่า ที่นี่คือบริษัทใหญ่มีทั้งหมด 50 ชั้น 1-30 ชั้นแรก เป็นบริษัท LB Entertainment เป็นบริษัทผลิต ศิลปิน นักแสดง และค่ายเพลง ในประเทศไทย ซึ่งมีหลายคนมีชื่อเสียงได้โด่งดังไปต่างประเทศ และนักแสดงที่มีชื่อเสียงหลายคนอยู่ในสังกัดนี้ ก็จะแบ่งแต่ละชั้นเกี่ยวกับรายการวาไรตี้ ละคร และศิลปินนักร้อง เธอไม่อยากจะเชื่อว่าเขาคือประธานใหญ่ผู้อยู่เบื้องหลัง รายการดังๆ ละครดีๆ ศิลปินอีกมากมาย
"แล้วคุณพอลสันมีความรู้เรื่องวงการบันเทิงเหรอคะ"
"ความจริง นายเป็นประธานใหญ่แค่คอยเซ็นเอกสารกับตรวจงานเท่านั้นครับ คนที่ดูแลส่วนของ LB Entertainment จริงๆ คือคุณนาเดียร์ครับ"
"อ๋อ เป็นแค่ผู้อยู่เบื้องหลังสินะ"
ส่วนงานที่นายดูแลคือส่วน 32-50 ชั้นบนครับ คุณเรียวคงทราบดีว่าบริษัท Red Blood มีบริษัทในเครือเยอะมาก การดูแลจึงต้องละเอียดรอบคอบมากเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เสียผลประโยชน์ ชั้นที่ 32-35 จะดูแลเกี่ยวกับบริษัทที่นายมีหุ้นส่วนอยู่หรือเรียกว่าได้ลงทุนเงินไว้ ซึ่งตามหลักคือนายไม่ใช่เจ้าของที่แท้จริง หากมีอะไรเกิดขึ้นหรือข้อผิดพลาดอะไรจะขึ้นตรงกับเควิน ส่วนชั้นที่ 36-49 จะเป็นการดูแลบริษัทที่นายเป็นเจ้าของโดยตรง ทั้งโรงแรม โรงพยาบาล โรงเรียน ร้านอาหาร ธุรกิจระหว่างประเทศ สินค้านำเข้า ผับ บาร์ กาสิโน จะขึ้นตรงกับนายครับ ส่วนชั้น 50 คือส่วนสำคัญในการคัดกรองเอกสารก่อนถึงมือนายครับ" เรียวเดินไปด้วย สายตาสาดส่องไปด้วย หูก็ฟังเชนไปด้วย
เชนพาเธอเดินลงไปที่ชั้น 30 เพื่อนำเอกสารการทำงานประจำเดือนของทุกคนใน LB Entertainment กับเลขาของนาเดียร์ ก่อนจะพาขึ้นมาชั้น 32 เพื่อพูดคุยกับหัวหน้าแผนกทุกคนและทุกชั้น ย้ำว่าทุกคนและทุกชั้นตั้งแต่ 32 - 49 เธอต้องใส่ส้นสูงเพื่อเดินไปจดบันทึกการทำงานประจำเดือนและคอยดูเอกสารต่างๆ อย่างหัวหมุน การเป็นเจ้าคนนายคนไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ การบริหารคนจัดการคนก็ยากพอกัน นับถือเควินเลยจริงๆ ที่สามารถเดินขึ้นลงได้
หลังจากจัดการเขียนข้อมูลและอ่านเอกสารทั้งหมดแล้วเธอก็ไปวางไว้บนโต๊ะในห้องทำงานของเขา ดีที่วันนี้คุณพอลสันไม่เข้าบริษัท เพราะการอยู่กับเขาสองคนในห้องคงได้แผลอีกแน่ เธอออกมานั่งที่ของตัวเอง จากนั้นก็ได้โอกาสจัดการถอดรองเท้าส้นสูงที่กัดข้อเท้าของเธอออก ทำให้เห็นเลือดออกประปราย
"คุณเรียว รองเท้ากัดเหรอคะ"
"ค่ะ สงสัยเดินนานไปหน่อย"
"ฉันมีพลาสเตอร์ค่ะ" คุณลูน่าเปิดลิ้นชักแล้วหยิบพลาสเตอร์สีใสส่งให้เธอ
"ขอบคุณค่ะ" เรียวรับมา แกะพลาสเตอร์แปะลงบนหลังข้อเท้าข้างหลัง
"เวลาไปตรวจงาน คุณเรียวใส่รองเท้าธรรมดาก็ได้ค่ะ ไม่ต้องใส่ส้นสูงขึ้นลงแบบนี้"
"ใส่ได้เหรอคะ ฉันคิดว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่"
"ได้ค่ะ"
"ไว้ครั้งหน้าก็แล้วกันนะคะ ขอบคุณสำหรับพลาสเตอร์ค่ะ"
"ยินดีค่ะ" ในบริษัทก็คงมีแค่คุณลูน่า ที่เธอสามารถพูดคุยด้วยได้ นอกนั้นก็มีแต่สายตาของพวกจ้องอยากจะหาเรื่องแค่เพราะเธอเป็นเลขาที่ดูเหมือนใช้เส้นเข้ามาทำงานเท่านั้นเองเหรอ ถึงได้คอยนินทาว่าร้ายตลอดเวลา
G Cafe
เรียวมาตามนัดที่เลขาน้ำส่งมาเมื่อวาน เรื่องรถที่เธอไปขับชนเขาเมื่อวันก่อน และตอนนี้เจ้าของรถก็นั่งอยู่ข้างหน้า สไตล์การแต่งตัวที่ดูเรียบง่าย เสื้อเชิ้ตสีขาวใส่เข้าในกางเกงสแลก นิ้วมือยาวกำลังจับช้อนคนกาแฟในแก้วใบเล็กอยู่ การเคลื่อนไหวร่างกายของเขามันดูมีเสน่ห์ยังไงก็ไม่รู้ และที่สำคัญคือเขาเป็นหนุ่มฝรั่งแถมภาษาอังกฤษของเธอก็งูๆ ปลาๆ สุดๆ
"Can you speak thai? "
"Yes ผมพูดได้ครับ" เขาตอบเสียงเรียบ ทำให้เรียวพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
"ขอโทษนะคะสำหรับเรื่องรถ พอดีวันนั้นฉันมีธุระต่อก็เลยไปก่อน"
"ไม่เป็นไรครับ"
"งั้นค่าเสียหายเท่าไหร่คะ ฉันจะโอนให้เดี๋ยวนี้เลย"
"ไม่ต้องครับ"
"หมาย...หมายความว่าไงคะ เอ่อ...ที่คุณนัดฉันมาเจอเพราะจะให้ชดใช้ค่าเสียหายไม่ใช่เหรอคะ" เขาเหลือบสายตาขึ้นมามอง ทำให้เห็นดวงตาเป็นประกายสีเทาฟ้า
"ผมมีเรื่องต้องการจะคุยกับคุณ"
"อะไรคะ" เรียวมีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเรื่องส่วนตัวที่เขาจะคุยคือเรื่องอะไร
"ผมต้องการร่วมลงทุนให้โรงแรมของคุณครับ คุณอิงกาญจน์"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: [Paulson] พอลสัน : รักให้จำ