พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) นิยาย บท 102

บทที่ 102 แลกเปลี่ยนกระบวนท่า[รีไรท์]

บทที่ 102 แลกเปลี่ยนกระบวนท่า[รีไรท์]

หลิงเจิ้งสงมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยความข้องใจ

เขาเดาว่าหลิงตู้ฉิงต้องได้รับการสืบทอดวิชาการบ่มเพาะจากพ่อและแม่ของเขา ซึ่งวิธีการบ่มเพาะของหลิงตู้ฉิงต้องแข็งแกร่งกว่าของเขามากอย่างแน่นอน

แต่ไม่ว่าวิธีการบ่มเพาะที่หลิงตู้ฉิงได้รับสืบทอดมาจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน การบ่มเพาะก็ยังคงต้องดำเนินการทีละขั้นตอนตามระดับขั้น

ขอบเขตรวมแสงดาราของเขาแข็งแกร่งกว่าขอบเขตควบแน่นลมปราณของหลิงตู้ฉิง อย่างน้อยเป็นพันเท่า แล้วหลิงตู้ฉิงจะช่วยเขาเพิ่มระดับการบ่มเพาะได้ยังไง?

“ท่านปู่ ท่านไม่ได้สู้กับใครอย่างจริงจังมากี่ปีแล้ว?” หลิงตู้ฉิงถาม

หลิงเจิ้งสงถอนหายใจ “ถ้าหากข้าจำไม่ผิด มันก็น่าจะประมาณ 7 หรือ 8 ปีแล้วล่ะ ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่หลังจากที่ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตรวมแสงดารา หากไม่มีความจำเป็นจริง ๆ ก็ไม่ออกหน้าสู้ด้วยตัวเองนักหรอก”

“งั้นวันนี้ท่านกับข้าเรามาแลกเปลี่ยนวิชากันหน่อยเป็นไง? แน่นอนว่ามันเป็นเพียงการแลกเปลี่ยนกระบวนท่าธรรมดา ๆ ไม่จำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณในการประมือกัน” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ

เนื่องจากความแตกต่างระหว่างระดับการบ่มเพาะขอบเขตควบแน่นลมปราณระดับสูงสุดและขอบเขตรวมแสงดารานั้นมากเกินไป หากพวกเขาใช้พลังวิญญาณในการประมือกัน หลิงตู้ฉิงในตอนนี้คงสู้ไม่ได้แน่นอนหากปราศจากหลิงจู้

หลิงเจิ้งสงยิ้มและพูดว่า “เอาสิ!”

หลิงเจิ้งสงเองก็อยากลองเผชิญกับความแข็งแกร่งที่ลึกลับและมหัศจรรย์ของหลิงตู้ฉิงตามที่ผู้คนร่ำลือกันเช่นกันว่ามันจะเป็นยังไง

ทั้งสองคนจึงพากันออกจากห้องทำงานและเดินไปยังลานฝึกของคฤหาสน์ตระกูลหลิง

บรรดาคนในคฤหาสน์เมื่อได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงและหลิงเจิ้งสงกำลังจะประลองกัน ทุกคนก็รีบวิ่งมาดูด้วยความตื่นเต้นทันที

ด้านหนึ่งเป็นแม่ทัพใหญ่ผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงแต่ไม่เคยมีใครได้เห็นเขาต่อสู้มาหลายปี ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นสัตว์ประหลาดที่เพิ่งโด่งดังได้ไม่นานและยังฆ่าผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขอบเขตรวมแสงดาราได้ในพริบตา ทุกคนสนใจผลการประลองนี้เป็นอย่างมาก

“เนื่องจากนี่เป็นการแลกเปลี่ยนกระบวนท่าธรรมดา เพราะฉะนั้นพวกเราจะไม่ใช้อาวุธ!” หลิงเจิ้งสงพูด

“ไม่มีปัญหา!” หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและหันกลับมาพูดกับหลิงยู่ชานที่เฝ้าดูจากด้านข้าง “ยู่ชานเจ้าจงดูให้ดี นี่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์สำหรับเจ้า”

หลิงยู่ชานเมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาไม่กล้าที่จะละเลย เขารีบจับตาดูด้วยความตั้งใจไปยังกระบวนท่าที่หลิงตู้ฉิงกำลังจะใช้ทันที

หลังจากหลิงตู้ฉิงและหลิงเจิ้งสงซึ่งอยู่ในสนามได้เข้าสู่ตำแหน่งแล้ว พวกเขาก็มองหน้ากันและเริ่มเคลื่อนไหว

ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ใช้รากฐานการบ่มเพาะพลังวิญญาณใด ๆ ใช้เพียงกระบวนท่าการต่อสู้ประชิดตัวเท่านั้น

หลิงยู่ชานเมื่อเห็นวิธีที่หลิงตู้ฉิงเคลื่อนไหว เขารู้ทันทีว่าทำไมพ่อถึงอยากให้เขาตั้งใจดู มันเป็นรูปแบบเพลงหมัดที่หลิงตู้ฉิงเคยสอนให้เขานั่นเองเป็นหนึ่งในสามกระบวนท่าเหมือนกับที่หลิงยู่ชานได้เห็น

ตอนนี้หลิงเจิ้งสงเริ่มจริงจังกับการแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากับหลิงตู้ฉิงมากขึ้น

แม้ว่าหลิงตู้ฉิงจะไม่ได้ใช้พลังวิญญาณ แต่หลิงเจิ้งสงกลับรู้สึกได้ถึงพลังของกำปั้นที่ทำให้พลังวิญญาณบริเวณรอบ ๆ ผันผวน

รูปแบบเพลงหมัดเช่นนี้เป็นรูปแบบที่หลิงเจิ้งสงใฝ่หาอยู่ หลิงเจิ้งสงจึงเริ่มใช้ประสบการณ์ศิลปะการต่อสู้หลายปีที่สั่งสมมาเพื่อรับมือกับเพลงหมัดของหลิงตู้ฉิงและค่อย ๆ ซึมซับความเข้าใจของเพลงหมัดหลิงตู้ฉิงไปด้วยในเวลาเดียวกัน

เมื่อสู้กันไปได้สักพัก หลิงเจิ้งสงก็เริ่มรู้ตัวว่าตอนนี้ความแข็งแกร่งของขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 3 ของตนกำลังเพิ่มพูนขึ้นอย่างช้า ๆ และเขาเริ่มตระหนักอะไรได้บางอย่าง

ตอนนี้หลิงตู้ฉิงใช้การผสานร่วมกันระหว่าง วิชาตัวเบาสะบั้นวายุและเพลงหมัดกระบวนท่าแรกสั่นคลอนสวรรค์ เข้าโจมตีหลิงเจิ้งสงจากทุกทิศทาง ทำให้ร่างของหลิงเจิ้งสงเหมือนกับจมหายไปอยู่ในพายุของหมัด

จากการมองของคนภายนอก อาจจะเหมือนว่าหลิงตู้ฉิงออกหมัดจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน แต่อันที่จริงหลิงตู้ฉิงออกกระบวนท่าหมัดเพียงหมัดเดียว ส่วนเงาหมัดที่เหลือนั้นล้วนเกิดจากเจตจำนงของหมัดที่หลิงตู้ฉิงได้สร้างขึ้น

แน่นอนว่าหลิงตู้ฉิงไม่ได้ต้องการที่จะทำร้ายหลิงเจิ้งสง แต่หลิงตู้ฉิงกำลังชี้นำให้หลิงเจิ้งสงเห็นปัญหาในการฝึกฝนของตนเองและตั้งใจนำทางหลิงเจิ้งสงในเส้นทางเจตจำนงของหมัดและช่วยทะลวงระดับบ่มเพาะไปในเวลาเดียวกัน

หลิงเจิ้งสงที่จมอยู่ในพายุหมัดของหลิงตู้ฉิง พลังวิญญาณในร่างกายของเขาค่อย ๆ เริ่มก่อรูปเปล่งแสงคล้ายกับดวงดาวที่สว่างไสวขึ้นสองดวงออกมาจากร่างกาย

เมื่อแสงดาวทั้งสองปรากฏขึ้น หลิงตู้ฉิงจึงรีบดีดตัวถอยออกทันทีและยิ้มให้หลิงเจิ้งสง เมื่อเห็นว่าหลิงเจิ้งสงตกอยู่ในสภาวะหยั่งรู้ หลิงตู้ฉิงจึงไม่จำเป็นต้องทำอะไรต่ออีก

“กลับคฤหาสน์!” หลิงตู้ฉิงกล่าวกับคนอื่น ๆ และจากนั้นเขาก็พากลุ่มคนของเขากลับไปที่คฤหาสน์สราญรมย์

หลิงเจิ้งสงที่อยู่ในช่วงเวลาสำคัญของการบ่มเพาะ ทุกคนในตระกูลหลิงต่างกังวลมาก ดังนั้นจึงไม่มีใครเดินออกไปส่งพวกของหลิงตู้ฉิง

ระหว่างทางหลิงเทียนหยุนถามอย่างสงสัย “ท่านพ่อ ทำไมแสงที่เปล่งประกายออกมาจากตัวของปู่ทวดถึงแตกต่างจากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดาราคนก่อนที่ท่านได้สังหารไป ทำไมร่างกายของคนที่ท่านพ่อสังหารไปข้าไม่เห็นว่าเขาจะมีดาวที่เปล่งแสงได้ออกมาจากร่างกายเลย แต่ทำไมของท่านปู่ทวดถึงมีดาวปรากฎออกมาจากร่างตั้งสองดวงล่ะ?”

หลิงตู้ฉิงอธิบายว่า “นั่นเป็นเพราะว่าอันที่จริงแล้วหากคนที่ทะลวงขอบเขตรวมแสงดาราโดยใช้รากฐานขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 10 เป็นรากฐานในการทะลวงขอบเขต คนพวกนั้นจะนับได้ว่าเป็นเพียงแค่ขอบเขตรวมแสงดาราปลอม พลังวิญญาณขอบเขตรวมแสงดาราของพวกเขาจะไม่สามารถก่อรูปออกมาเป็นลักษณะดวงดาวได้และพวกเขายังไม่สามารถที่จะทะลวงไปยังขอบเขตถัดไปได้ แต่แน่นอนความแข็งแกร่งของคนเหล่านี้ก็ยังเหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญของเขตประสานทะเลปราณอยู่หลายเท่าตัว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)