บทที่ 132 ส่งเสริมเพื่อทำลาย[รีไรท์]
บทที่ 132 ส่งเสริมเพื่อทำลาย[รีไรท์]
หวงยี่เฟยหัวเราะแล้วพูดว่า “ท่านผู้นำ วางใจได้ ข้าจะจัดการดูแลเรื่องต่าง ๆ ในระหว่างนี้ให้เอง” ทั้งสองเดินกลับไปยังคฤหาสน์ในเมืองหลวงพลางหัวเราะดังลั่นไปตลอดทาง เมื่อกลับไปถึงคฤหาสน์ มี่ตั้วตั้วจึงรีบดำเนินการขายสินทรัพย์แทบทั้งหมดที่ไม่จำเป็นต่อแผนการเพื่อเตรียมเหรียญทองให้กับหลิงตู้ฉิง
อีกด้านหนึ่ง ในตอนนี้มี่ไลคุกเข่าลงคำนับให้หลิงตู้ฉิงด้วยความตื้นตัน “นายท่าน ข้าขอขอบคุณที่เมตตาสนับสนุนตระกูลข้า”
หลิงตู้ฉิงที่เห็นนางคุกเข่าลงคำนับ เขาจึงลุกขึ้น พยุงนางให้ยืนและพูดว่า “เจ้าอย่าได้เกรงใจ ยังไงเจ้าก็เป็นคนของข้า เราถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว และอีกอย่าง การที่ข้าช่วยให้ตระกูลของเจ้าแข็งแกร่งขึ้นนั่นก็เพราะในอนาคตเมื่อตระกูลมี่มีอำนาจมากขึ้น ข้าเองก็มีบางอย่างให้ตระกูลของเจ้าช่วยเหลือเช่นกัน”
มี่ไลมองไปยังหลิงตู้ฉิง แววตานางเป็นประกายและพูดว่า “นายท่าน ไม่ว่าท่านจะบอกให้ตระกูลของข้าทำอะไร พวกข้าย่อมยินดีที่จะบุกน้ำลุยไฟให้ท่านแน่นอน”
เมื่อพูดจบประโยค มี่ไลมีสีหน้าเขินอายและพูดต่อ “นายท่าน ท่านอยากมีลูกของท่านเองไหม?”
หลิงตู้ฉิงเลิกคิ้วขึ้นมองไปยังมี่ไลแล้วตอบว่า “ข้าก็มีลูกอยู่แล้วไงตั้งหลายคน”
“นายท่าน ที่ข้าหมายถึงไม่ใช่แบบนั้น ที่ข้าหมายถึงก็คือ…” มี่ไลหน้าเริ่มแดงขึ้น นางรวบรวมความกล้าและประทับจูบลงบนริมฝีปากของหลิงตู้ฉิงอย่างอ่อนหวาน
หลิงตู้ฉิงที่นั่งนิ่งเป็นท่อนไม้ เมื่อเขารับจูบจากมี่ไล เต๋าตู้ฉิงของเขาก็เริ่มโคจรอย่างบ้าคลั่ง พลังวิญญาณบริเวณรอบ ๆ คฤหาสน์เริ่มปั่นป่วนพุ่งเข้าสู่ร่างกายของหลิงตู้ฉิงอย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้นเขารีบดันตัวมี่ไลออกไปและพูดขึ้นอย่างเร่งรีบ “เจ้าออกไปก่อน อย่าเพิ่งรบกวนข้า”
หลังจากพูดจบ หลิงตู้ฉิงรีบนั่งลงกับพื้นและหลับตาลงทำสมาธิควบคุมการไหลเวียนของพลังวิญญาณที่ปั่นป่วนอยู่ในร่างทันที
เขาต้องรีบควบคุมพลังวิญญาณเหล่านี้อย่างระมัดระวัง ไม่เช่นนั้นระดับขอบเขตการบ่มเพาะของเขาอาจจะทะลวงไปยังขอบเขตถัดไปได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะทำให้แผนที่เขาวางไว้ในการสร้างรากฐานการบ่มเพาะของตนให้แข็งแกร่งกว่าชาติที่แล้วของเขาต้องพังทลายลง
มี่ไลที่กำลังดื่มด่ำอยู่กับความรู้สึกมีความสุขนั้น จู่ ๆ เมื่อนางถูกดันออก นางก็ยืนบื้อด้วยความตกตะลึงและเกิดความรู้สึกหงุดหงิดอยู่หน่อย ๆ แต่นางก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้เนื่องจากเกรงว่าหลิงตู้ฉิงจะไม่พอใจที่นางไปรบกวนการบ่มเพาะของเขา
เมื่อไม่รู้จะทำอะไรต่อ มี่ไลจึงนั่งลงข้าง ๆ หลิงตู้ฉิงและเริ่มหล่อเลี้ยงหลิงจู้ด้วยฝนฤดูใบไม้ผลิระหว่างที่รอหลิงตู้ฉิงไปพลาง ๆ
สถานการณ์ในคฤหาสน์สราญรมย์ดำเนินไปตามปกติ ทุกคนและบรรดาทหารต่างฝึกฝนกันอย่างมุ่งมั่น ส่วนเสี่ยวเยว่เฟิงด้วยการเกื้อหนุนจากค่ายกลที่หลิงตู้ฉิงวางไว้รอบคฤหาสน์ ทำให้นางสามารถตรวจจับบรรดาผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลอื่น ๆ ที่ส่งมาสอดแนมได้เป็นจำนวนมากและนางได้สังหารพวกเขาลงทั้งหมด
เมื่อเวลาผ่านไป ความโด่งดังของศาลาศักดิ์สิทธิ์ที่แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงก็เริ่มซาลง ไม่ว่ากลุ่มนักศึกษาหรืออาจารย์ในศาลาศักดิ์สิทธิ์จะพิสดารแค่ไหน สถาบันราชวงศ์เองก็ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดออกไปจากสถาบันมากมายนัก
แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ไม่อาจลืมตัวตนของศาลาศักดิ์สิทธิ์ได้ ยกตัวอย่างเช่นตระกูลเจิ้น
ในบรรดาลูกทั้งสามของเจิ้นฟูเห่า เจิ้นสีชวงและเจิ้นป่าเจ่านั้นไม่นับว่าโดดเด่นอะไร คนที่เพียบพร้อมและถูกยกให้เป็นมือขวาของเขาคือ เจิ้นจางหยู
“มีโอกาสสำเร็จไหม?” เจิ้นฟูเห่าถามลูกชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโต๊ะในห้องทำงานของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)