บทที่ 161 ขอบเขตสวรรค์ครึ่งขั้น[ฟรี]
บทที่ 161 ขอบเขตสวรรค์ครึ่งขั้น[ฟรี]
เหลียงซาน ในขณะนี้กำลังยืนมองสังเกตการณ์อยู่ที่จุดสูงสุดของหลังคาพระราชวัง เขามองไปยังหอประมูลตระกูลมี่จากระยะไกล
ข้าง ๆ เขาเป็นชายชราในชุดคลุมสีเทาที่กำลังมองไปยังหอประมูลตระกูลมี่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเช่นกัน
“ฝ่าบาท ถึงแม้กระหม่อมจะอยู่ในขอบเขตนภาระดับ 7 แต่กระหม่อมเกรงว่าหากเป็นกระหม่อมเองที่ต้องเผชิญกับการลงมือร่วมกันขนาดนี้ กระหม่อมเองก็คงจะต้านไม่ไหวเช่นกัน”
ชายชราที่สวมชุดสีเทาพูดอย่างเคร่งขรึม “แต่กระหม่อมมีความเห็นว่า ผู้คนจากสำนักเหล่านี้นั้นทำตัวโอหังมากเกินไปจริง ๆ พวกเขากล้าที่จะทำตัวหน้าด้านในอาณาจักรจันทราของท่าน ฝ่าบาทไม่คิดจะให้บทเรียนแก่พวกเขาเสียหน่อยหรือฝ่าบาท?”
เหลียงซานส่ายหัวและพูดว่า “ไม่! ข้าต้องการให้พวกมันสู้กันต่อไป ข้าต้องการที่จะรู้ว่าในท้ายที่สุดแล้วพวกสำนักเหล่านี้มันจะแข็งแกร่งสักแค่ไหนกัน และอีกอย่างอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ของหลิงตู้ฉิงยังไม่เปิดเผยเขี้ยวเล็บของมันเลย ข้าต้องการดูเช่นกันว่ามันจะปลดปล่อยพลังได้มากแค่ไหน”
“ฝ่าบาทตามรายงานของสายลับ หลิงตู้ฉิงและลูก ๆ ของเขาไม่ได้อยู่ที่อาคารประมูลตระกูลมี่ขอรับ” ชายชราที่สวมชุดสีเทาพูด
เหลียงซานส่ายหัวและพูดขึ้น “ถึงแม้ว่าหลิงตู้ฉิงจะไม่ได้ไปด้วยตัวเอง แต่พ่อบ้านของเขาอยู่ที่นั่น จากรายงานที่ข้าได้รับมา ชายชราลึกลับคนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาคนหนึ่งเช่นกัน แต่นอกเหนือจากข้อมูลนี้มันก็ไม่มีอะไรที่สามารถบอกเกี่ยวกับเขาได้เลย เรารู้จักตัวตนของหลิงตู้ฉิงแล้วในฐานะผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ และเรายังมีข้อมูลแบบคร่าว ๆ เกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาคนอื่น ๆ แต่สำหรับชายชราคนนี้เขาเป็นคนเดียวที่เรายังไม่มีข้อมูล ดังนั้นข้าจะใช้โอกาสนี้เพื่อดูความสามารถที่แท้จริงของเขา”
ชายชราในชุดเทาโค้งคำนับและพูดว่า “ฝ่าบาททรงปรีชายิ่งนัก!”
ในเวลาเดียวกัน ทางด้านของคฤหาสน์สราญรมณ์ที่เห็นสถานการณ์ภายในอาคารประมูลตระกูลมี่เช่นกัน เสี่ยวเยว่เฟิงก็ถอนหายใจ “นายท่าน ตอนนี้คงมีแค่ท่านคนเดียวที่ช่วยพวกเขาได้แล้ว ด้วยจำนวนผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภามากมายขนาดนี้ ข้าคนเดียวคงไม่อาจรับมือพวกเขาได้ทั้งหมด และไม่ว่าพ่อบ้านโม่จะทรงพลังแค่ไหนข้าก็เกรงว่าเขาจะตกอยู่ในอันตรายหากเราไม่ทำอะไรเลย ส่วนแม่นางมี่ก็เช่นกัน ถึงแม้ว่าท่านจะให้หลิงจู้ไว้กับนาง แต่ด้วยพลังของหลิงจู้เพียงอย่างเดียวคงไม่น่าจะต้านทานพวกเขาได้นานสักเท่าไหร่”
หลิงยู่ชานและคนอื่น ๆ ก็เร่งเร้า
“ท่านพ่อรีบไปช่วยพวกเขาเร็ว! ไม่อย่างนั้นน้ามี่อาจจะตายนะท่านพ่อ!”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ข้าบอกแล้วว่าพวกเจ้าประเมินความแข็งแกร่งของพ่อบ้านโม่ต่ำไป เขาจะช่วยข้าดูแลมี่ไลและเขาจะไม่ปล่อยให้หลิงจู้ถูกทำลายอย่างแน่นอน นี่ยังไม่ใช่เวลาที่ข้าจะเคลื่อนไหวด้วยตัวเองในตอนนี้”
ในขณะที่หลิงตู้ฉิงพูดจบ ทันใดนั้นกลิ่นอายเย็นยะเยือกอันน่าสยดสยองได้แผ่กระจายปกคลุมไปทั่วทั้งอาณาเขตเมืองหลวง
กลิ่นอายอันน่าสยดสยองนี้ แม้ว่าผู้คนในคฤหาสน์สราญรมย์ที่ดูสถานการณ์ผ่านจอภาพจากระยะไกล พวกเขาก็ยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่น่าสยดสยองที่แผ่กระจายออกมาได้อย่างชัดเจน
“โห ท่านปู่โม่ช่างน่ากลัวจริง ๆ” หลิงยู่ซานและคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึง แม้แต่เสี่ยวเยว่เฟิงก็อึ้งไปชั่วครู่ นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าพ่อบ้านชราผู้ที่ดูสุภาพจะมีด้านที่น่ากลัวเช่นนี้กับเขาด้วย
ในเวลานี้ที่อาคารประมูลตระกูลมี่มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาจำนวนกว่าหนึ่งโหลกำลังพุ่งเข้าหามี่ไลเพื่อแย่งชิงหลิงจู้เป็นของตัวเอง
เมื่อเผชิญกับความกดดันของพลังวิญญาณที่น่ากลัวเช่นนี้ทำให้มี่ไลรู้สึกสิ้นหวัง
โม่หยูถังที่ในขณะนี้ได้ยืนขึ้นและเริ่มปลดปล่อยพลังวิญญาณที่อยูในลูกปัดสะสมวิญญาณ ส่งผลให้ระดับการบ่มเพาะของเขาเพิ่มขึ้นทะลุไปสู่ขอบเขตนภาในทันที เขาเอื้อมมือไปดึงเส้นขนของหลิงจู้ออกมาหนึ่งเส้นและเดินออกจากโล่ห์พลังวิญญาณที่หลิงจู้สร้างขึ้นมาปกป้องเขา
หลังจากที่เดินออกจากการปกป้องของหลิงจู้ โม่หยูถังนำเส้นขนของหลิงจู้หลอมรวมมันเข้ากับร่างกายตนเอง ซึ่งทำให้ระดับการบ่มเพาะของเขายังคงเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
ชายชราที่มีใบหน้าสุภาพในตอนนี้ กลิ่นอายของเขาเปลี่ยนแปลงกลายเป็นน่าสยดสยอง รอบกายเขาเริ่มมีหมอกสีดำปกคลุมและก่อรูปขึ้นเป็นร่างของเก้าเทพอสูรจากนรก ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของชายชราที่ดูอบอุ่น สุภาพ กลายเป็นดั่งเทพอสูรอันน่าสยดสยอง
“อาวุธวิเศษของนายข้า หาใช่สิ่งที่มดปลวกอย่างพวกเจ้าจะมาสัมผัสได้ง่าย ๆ!” โม่หยูถังพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
พูดจบ โม่หยูถังโบกมือซ้ายของเขาสร้างหมอกพลังวิญญาณสีดำทมิฬขนาดยักษ์พุ่งเข้าหาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาทั้งห้าทางด้านซ้าย ส่วนมือขวาโม่หยูถังเหยียดนิ้วชี้ส่งลำแสงสีดำออกจากปลายนิ้วพุ่งไปหาไล้กวนที่กำลังยืนตะลึงอยู่
เมื่อโม่หยูถังเปิดเผยระดับการบ่มเพาะของเขาและออกมาจากเขตป้องกันของหลิงจู้ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะหวาดกลัว เหตุผลที่พวกเขากล้าโจมตีโดยไม่ยับยั้งชั่งใจเพราะพวกเขามั่นใจว่าหลิงจู้ไม่ได้ถูกใช้งานโดยผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภา พวกเขารู้ว่ามี่ไลเพียงแค่อาศัยอำนาจของตัวหลิงจู้เองในการเปิดใช้งานมัน พวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะแย่งชิง แต่ถ้าจู่ ๆ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาปรากฏขึ้นพร้อมอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ขั้นสูงสุด ผลลัพธ์ที่ออกมามันจะต่างกันราวสวรรค์กับนรก
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ทุกคนจึงมีความคิดอย่างเดียวกันเท่านั้น คือได้เวลาถอย!
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ทุกคนกำลังจะถอย พวกเขาก็ตระหนักได้ว่าโม่หยูถังไม่ได้คิดจะใช้อาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ขั้นสูงนั้นเลย แถมเขายังปล่อยให้อาวุธวิเศษนั่นเปิดม่านพลังป้องกันผู้คนที่อยู่ด้านหลังต่อไปอีกต่างหาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)