บทที่ 175 วันประลอง
บทที่ 175 วันประลอง
หลังจากที่ชั้นเรียนของหลิงตู้ฉิงจบลง บรรดานักศึกษาของศาลาศักดิ์สิทธิ์ที่ยังคงนั่งเหม่ออยู่ในลานบรรยายบางคนก็เริ่มแสดงอาการแปลก ๆ ออกมา
ซึ่งอาการแปลก ๆ ที่ว่านี้คือจู่ ๆ พวกเขาก็ลุกขึ้นมาออกท่วงท่ารำกระบี่บ้าง รำดาบบ้าง พวกเขาทำตัวบ้า ๆ บอ ๆ เช่นนี้อยู่เรื่อย ๆ ไม่หยุด
2 วันต่อมา โม่หยูถังและเสี่ยวเยว่เฟิงได้กลับมาที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์แทบจะเวลาเดียวกัน พวกเขากลับมาพร้อมกับใบหน้าที่ดูมีความสุข และช่วงเวลาที่พวกเขากลับมานั้นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่บรรดานักศึกษาในศาลาศักดิ์สิทธิ์ ค่อย ๆ ตื่นขึ้นจากสภาพเหม่อลอยและอาการแปลก ๆ จากนั้นพวกเขาจึงเริ่มฝึกฝนบนเส้นทางการบ่มเพาะของตนเองต่อ
หลิงตู้ฉิงมองไปที่การฝึกของพวกเขาและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“นายท่าน ดูเหมือนว่าการเคี่ยวเข็นของเราที่ลงแรงไปจะไม่สูญเปล่าแล้วนายท่าน” โม่หยูถังอุทาน
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดว่า “ยังมีเวลาอีก 7 วันจนกว่าจะถึงวันประลองกับคณะอื่น ๆ หลังจาก 7 วันนี้พวกเขาทั้งหมดน่าจะพัฒนาขึ้นอย่างมาก”
ในขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากัน จ้าวปาเทียนก็เข้ามาและถามว่า “ตู้ฉิง คณบดีจากคณะอื่นกำลังถามเกี่ยวกับการเตรียมการสำหรับการประลองของนักศึกษา”
“เตรียมการ? มันก็ไม่เห็นว่าจะต้องเตรียมการอะไรให้ยุ่งยาก เมื่อถึงเวลาพวกเขาก็แค่เลือกคนของพวกเขาขึ้นมาจะกี่คนก็ได้ ให้มาประลองกับนักศึกษาของคณะข้าตามวิถีการบ่มเพาะที่คล้ายคลึงกันก็แค่นั้นเอง” หลิงตู้ฉิงชี้ไปที่หลูหลิงและพูดต่อว่า “ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็เป็นประมาณว่า หลูหลิง เขาถนัดใช้พิษถ้าไม่ว่าใครในคณะโอสถศาสตร์สามารถล้างพิษของเขาได้ เราจะเป็นฝ่ายแพ้”
“ส่วนจูเหยียน การปักลายลงบนเศษผ้าของนางถือเป็นหนึ่งในแขนงของผู้เชี่ยวชาญการใช้ค่ายกลและลั่วหาวที่ฝึกฝนการวาดภาพเองก็มีทักษะที่คล้ายกับจูเหยียนเช่นกัน ดังนั้นหากคณะอื่น ๆ จะส่งนักศึกษาของพวกเขามาประลองกับสองคนนี้ ก็ให้พวกเขาส่งคนที่รู้เทคนิคการใช้ค่ายกลเพื่อให้มาประลองกับพวกเขา ส่วนนักศึกษาของข้าคนอื่น ๆ ที่เหลือพวกเขาสามารถประลองกับใครก็ได้เพื่อวัดความแข็งแกร่งกันตามปกติ”
“แต่ที่สำคัญที่สุดคือลูกของข้า พวกเขายังเด็กเกินไป แต่ละคนฝึกได้ไม่ถึง 1 ปี บางคนก็ไม่ถึงครึ่งปีด้วยซ้ำ ดังนั้นหากจะมีใครท้าประลองพวกเขา มันจะต้องมีเงื่อนไขพิเศษมาจำกัด คือให้ทุกคนที่ต้องการประลองกับพวกเขา ต้องจำกัดระดับการบ่มเพาะตัวเองให้อยู่ต่ำกว่าขอบเขตควบแน่นลมปราณเท่านั้น”
จ้าวปาเทียนพยักหน้าและพูดว่า “งั้นข้าจะบอกพวกเขาเรื่องนี้เอง”
หลิงตู้ฉิงพูดอย่างไม่แยแสว่า “แต่ถ้าพวกเขาบ่นว่าเงื่อนไขของข้าทั้งหมดมันเป็นเหมือนการดูถูกพวกเขา ท่านก็ไม่จำต้องไปสนใจ เพราะว่าพวกเขาจะได้เห็นความจริงใน 7 วันต่อจากนี้ว่านักศึกษาของข้ามันต่างจากของพวกเขาแค่ไหน”
จ้าวปาเทียนพยักหน้าและเดินจากไปให้คำตอบกับคณบดีคนอื่น ๆ
จริง ๆ แล้วอาจารย์คณะอื่น ๆ แต่ละคนไม่ได้มองการแข่งขันครั้งนี้ในแง่ดีสักเท่าไหร่ เพราะพวกเขามั่นใจมากว่านักศึกษาศาลาศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการฝึกฝนอันแสนวิเศษจะต้องชนะนักศึกษาของพวกเขาได้แน่นอน แต่พวกเขาก็ยังอยากมีส่วนร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้
เพราะอย่างน้อย ๆ บรรดานักศึกษาที่ได้เข้าร่วมการประลองก็ยังจะได้รับประสบการณ์การต่อสู้ และบรรดาอาจารย์ยังได้ลอบสังเกตแนวทางของวิชาที่เหล่าเด็ก ๆ ศาลาศักดิ์สิทธิ์แสดง เพื่อนำมาปรับใช้ในการสอนของตัวเองได้ต่อไป
ในพริบตาวันที่กำหนดไว้ก็มาถึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)