ในที่สุดเมื่อหลิงตู้ฉิงปรับแต่งวัสดุต่าง ๆ ลงบนรถม้าเสร็จ เขาจึงเริ่มขั้นตอนต่อไปคือการประทับอักขระเวทย์เพื่อแทรกแซงกฎแห่งแรงโน้มถ่วงและอื่น ๆ
เมื่อถึงขั้นตอนนี้ พลังวิญญาณที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ก็มารวมตัวกันที่คฤหาสน์สราญรมย์อีกครั้ง
บรรดาผู้คนภายนอกต่างพึมพำกับตัวเอง ‘นี่เขาจะหล่อเลี้ยงผู้ครองสายเลือดพฤกษาสวรรค์อีกรอบแล้วงั้นเหรอ? แล้วหลังจากรอบนี้มันจะพร้อมให้กินแล้วรึยัง?’
เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ หลายคนที่ยังคงพะว้าพะวงยังไม่ได้เข้าไปคุยกับหลิงตู้ฉิงต่างเริ่มเปลี่ยนใจ และเตรียมพร้อมที่จะขอเข้าพบกับหลิงตู้ฉิงในคฤหาสน์สราญรมย์
อันที่จริงทุกคนเองก็รู้ดีว่าการขอเข้าพบอย่างเป็นมิตรกับคนของสำนักเก้าเทพอสูร ซึ่งหนึ่งในพวกเขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์แถมยังมีอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์ขั้นสูงสุดอยู่ในครอบครองย่อมเป็นเรื่องที่ควรทำกว่าการเข้าโจมตี และแย่งชิงผู้ครองสายเลือดพฤกษาสวรรค์มา
สถานการณ์กระแสพลังวิญญาณผัวผวนในคฤหาสน์สราญรมย์ยังคงดำเนินต่อไปเป็นเวลา 3 วัน หลิงตู้ฉิงได้ประทับอักขระเวทย์มากมายทุกชนิดเข้าไปทั้งด้านในและด้านนอกตัวรถ
หลังจากการทำงานอย่างหนักหลาย 10 วันที่ผ่านมา สีหน้าของหลิงตู้ฉิงจึงดูเหนื่อยอ่อน
“เฟ่ยเอ๋อ จื่อซิน ข้าต้องการใช้ร่างของพวกเจ้าเพื่อกู้คืนพลังวิญญาณของข้า” หลิงตู้ฉิงพูดกับเหลียงเฟ่ยเอ๋อและโจวจื่อซิน
เหลียงเฟ่ยเอ๋อ ซึ่งเข้าใจผิดคิดว่าหลิงตู้ฉิงกำลังจะชักชวนนางไปทำเรื่องอย่างว่า นางพูดอย่างเขินอายว่า “สามี ข้าว่าเราควรกลับไปทำกันที่ห้องกันจะดีกว่านะ…”
โจวจื่อซินรู้สึกประหม่าเล็กน้อย แม้ว่านางจะเตรียมใจไว้แล้วว่านางจะยอมทำตามที่หลิงตู้ฉิงสั่งทุกอย่าง แต่การมีอะไรกันพร้อม ๆ กัน 3 คนมันก็น่าอายเกินไปสำหรับนาง
หลิงตู้ฉิงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าไม่ได้จะทำเรื่องนั้นกับพวกเจ้า ข้าแค่ต้องการเพียงกลิ่นอายของพวกเจ้าเท่านั้น”
ในที่สุดเหลียงเฟ่ยเอ๋อก็เข้าใจ นางคล้องแขนขวาของหลิงตู้ฉิงไว้และแนบชิดกับเขา ส่วนโจวจื่อซินคล้องแขนซ้ายของหลิงตู้ฉิงอย่างเขินอายและพูดแผ่วเบาว่า “นายท่าน ท่านต้องการเลือดของข้าด้วยรึเปล่า?”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “ข้าไม่ได้ต้องการเลือดของเจ้า ข้าต้องการเพียงแค่กลิ่นอายจากร่างกายของเจ้าเท่านั้นก็พอ และอีกอย่างสายเลือดพฤกษาสวรรค์ในร่างของเจ้าตอนนี้มันก็ไม่ได้แข็งแกร่งนัก หากเจ้าเสียมันออกไปบ่อย ๆ มันจะทำให้เจ้าอ่อนแอลง”
เสี่ยวเยว่เฟิงเดินมานั่งตรงหน้าหลิงตู้ฉิงและไม่สนใจหญิงทั้งสองในอ้อมแขนของเขา นางถามด้วยสีหน้าปกติว่า “นายท่าน ทำไมท่านถึงต้องลงทุนวัสดุมากมายเพื่อปรับแต่งรถม้าแบบนี้?”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “นั่นก็เพราะว่าหากมีอะไรจำเป็นทำให้ข้าต้องออกไปด้านนอก ข้าไม่อยากจะต้องมากังวลเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางก็แค่นั้น”
“แล้วตอนนี้นายท่านทำให้มันแข็งแกร่งไปถึงระดับไหน? และมันทำอะไรเพิ่มขึ้นได้บ้าง ท่านบอกข้าได้ไหม?” เสี่ยวเยว่เฟิงถามอย่างสงสัย แม้ว่านางจะเฝ้าดูการปรับแต่งทุกขั้นตอนของรถม้าอย่างใกล้ชิด แต่นางก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าจะมีอะไรแปลกไปกว่าเดิม
“เจ้าจะรู้เองเมื่อถึงเวลา” หลิงตู้ฉิงยิ้ม
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน หุ่นเชิดที่เฝ้าประตูก็ส่งข้อความมาว่า “นายท่าน ชายชราชื่อ หลูซ่างเก๋อ ขอเข้าพบท่าน”
หลิงตู้ฉิงตอบว่า “ให้เขามอบวัสดุที่เทียบเท่ากับตัวตนของเขาก่อนที่จะเข้ามา”
ก่อนที่หลิงตู้ฉิงจะได้พูดอะไรต่อ เสี่ยวเยว่เฟิงพูดอย่างประหม่า “นายท่าน หลูซ่างเก๋อ คนนี้เป็น ‘ผู้ลี้ภัย’ อีกคนที่ซ่อนตัวอยู่ในทะเลชางหมาง และไม่มีสักคนที่รู้ประวัติของเขาว่าเขาเป็นคนมาจากที่ไหน แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นได้มาถึงขอบเขตนภาระดับ 12 แล้ว นอกจากนี้เขายังมีไม้เท้าที่เป็นสมบัติวิเศษระดับราชวงศ์ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงอย่างมากในอาณาเขตทะเลชางหมาง”
“ข้าไม่สนใจชื่อเสียงอะไรของเขาทั้งนั้น ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ทำอะไรข้าไม่ได้อยู่แล้ว” หลิงตู้ฉิงพูดอย่างไม่แยแส
ที่ประตูทางเข้าคฤหาสน์สราญรมย์ หุ่นเชิดทั้งสองพูดว่า “นายท่านแจ้งว่าเจ้าต้องส่งมอบวัสดุที่เทียบเท่าตัวตนของเจ้า เจ้าจึงจะสามารถเข้าไปได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)