เมื่อมองไปที่คฤหาสน์สราญรมย์ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา ด้วยการคงอยู่ของค่ายกลจึงยังไม่มีใครกล้าที่จะบุกเข้าไปก่อนเป็นคนแรก
ทุกคนต่างชำเลืองมองไปยังเหล่าอสูรโลหิต และลอบสังเกตว่าพวกเขาจะทำอะไรต่อไป
พวกเขาต่างได้ยินมาว่าอสูรโลหิตเหล่านี้มาที่นี่ก็เพราะเรื่องที่หลูซ่างเก๋อถูกกินไปก่อนหน้านี้
หลีเทียนหยู ผู้ซึ่งเป็นอดีตสหายของหลูซ่างเก๋อได้ลุกขึ้นและพูดกับจี้จู่ว่า “พวกท่านเป็นผู้ที่มาจากสันเขาหมื่นอสูรใช่ไหม? ข้าและหลูซ่างเก๋อ พวกเราเป็นสหายกัน ในเมื่อตอนที่เขาถูกสังหารข้าเองก็ต้องการที่จะช่วยเขา แต่เนื่องจากทางฝั่งของหลิงตู้ฉิงนั้นมีผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งรายล้อมอยู่เป็นจำนวนมากและข้าไม่สามารถสู้กับพวกเขาได้ ข้าจึงจำใจต้องหนีเอาตัวรอดออกมาก่อน แต่ตอนนี้ในเมื่อพวกท่านได้มาถึงแล้ว ข้าอยากจะขอติดตามพวกท่านเข้าไปด้านในเพื่อล้างแค้นให้กับสหายของข้า”
หลีเทียนหยูเคยได้ยินชื่อของสันเขาหมื่นอสูรมาก่อน ถ้าหากเขาสามารถผูกสัมพันธ์กับสันเขาหมื่นอสูรได้ เขาแน่ใจว่าเขาจะไม่ต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในอาณาเขตทะเลชางหมางอีกต่อไป และอนาคตของเขาจะต้องสดใสแน่นอน
และยิ่งถ้าหากเขาโชคดีได้ติดตามโอรสสวรรค์ของสันเขาหมื่นอสูร ชะตาชีวิตของเขาในอนาคตจะต้อง…
ในขณะเดียวกับที่หลีเทียนหยูกำลังฝันหวาน จี้จู่ได้หายตัวเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ราวกับว่าเขาสามารถทะลุมิติมาได้
“เจ้าเป็นสหายของหลูซ่างเก๋องั้นเหรอ?” จี้จู่ถามขณะส่งยิ้มให้
หลีเทียนหยูพยักหน้าและรีบตอบทันที “ใช่ ๆ ข้าเป็นสหายที่สนิทที่สุดของเขา”
“ถ้างั้นหลูซ่างเก๋อได้บอกเจ้าเกี่ยวกับกุญแจเปิด เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ ไหม?” จี้จู่ถามขึ้น
หลีเทียนหยูรีบส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “ขะ เขาไม่เคยเอ่ยถึงอะไรที่เกี่ยวกับมันมาก่อนเลย นี่เขามีกุญแจเข้าสู่ เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ อยู่กับตัวด้วยงั้นเหรอ?”
“เจ้าคงจะไม่รู้จริง ๆ สินะว่า หลูซ่างเก๋อได้ขโมยกุญแจเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับของนายท่านพวกเราไป และหนีมาซ่อนตัวที่นี่?” จี้จู่เริ่มเผยรอยยิ้มอันน่าสยดสยอง “เจ้าที่ไม่รู้แม้กระทั่งเรื่องใหญ่ขนาดนี้ นี่เจ้าเป็นสหายกันภาษาอะไร? ไร้ประโยชน์สิ้นดี! ตายไปซะ!”
หลีเทียนหยูสะดุ้งโหยงพร้อมกับตะโกนอย่างรวดเร็ว “อะ อันที่จริงข้าเองก็ไม่ได้สนิทกับเขาถึงขนาดนั้น…”
อันที่จริงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลูซ่างเก๋อเป็นเพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น ฉะนั้นเขาจะไปรู้เรื่องราวที่หลูซ่างเก๋อขโมยกุญแจมาจากโอรสสวรรค์ของสันเขาหมื่นอสูรได้ยังไง? ในขณะที่เขากรีดร้อง เขารีบถอยตัวห่างอย่างรวดเร็ว
แต่น่าเสียดายที่จี้จู่ได้เข้ามาถึงตัวเขาก่อนที่จะทันได้หนีพ้น และสูบเลือดเขาจนหมดตัวทิ้งไว้แต่ศพที่แห้งกรอบหล่นลงสู่พื้นเบื้องล่าง
เมื่อทุกคนได้เห็นภาพเช่นนี้ ทุกคนต่างพากันถอยห่างจากเหล่าอสูรโลหิตมากขึ้นทันที
ไม่มีใครที่คิดว่าผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในจุดสูงสุดของขอบเขตนภา จะไม่สามารถต้านทานการโจมตีของอสูรโลหิตได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว
จี้จู่เหลือบมองไปยังผู้คนที่อยู่รอบ ๆ และพูดด้วยย้ำเสียงเย็นชา “อย่าพึ่งทำอะไรกันทั้งนั้น ข้าจะเข้าไปสังเกตการณ์ด้านในก่อน”
หลังจากพูดจบ จี้จู่ก็หายตัวเข้าไปด้านในคฤหาสน์ทันที
เฉินถิงฟาง ผู้มาจากสำนักยอดเขาหยกจักรพรรดิขมวดคิ้ว และพูดกับหญิงชราที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นาง “ท่านป้าซู อสูรโลหิตตนนั้นมันเข้าไปแล้ว เราควรจะใช้เหรียญตราผนึกสวรรค์ช่วยเขาดีไหม เราอาจจะได้ผูกสัมพันธ์กับสันเขาหมื่นอสูรไปในตัวด้วยอีกทางหนึ่ง”
ซูอี้เว่ยส่ายหัวและพูดว่า “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ อสูรโลหิตทั้ง 12 ตนนั่นไม่ใช่อสูรธรรมดา โดยเฉพาะจี้จู่ที่เป็นผู้นำกลุ่มของพวกเขา นอกจากที่เขาจะมีระดับการบ่มเพาะอยู่ในจุดสูงสุดของขอบเขตนภาแล้ว เขายังมีสายเลือดของอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถเดินทางผ่านมิติได้ ด้วยความสามารถนี้ของเขา เขาจึงกล้าที่จะบุกเข้าไปด้านในคฤหาสน์ ตอนนี้พวกเราก็รอดูไปก่อนว่าเขาจะสามารถกับเจ้าหนุ่มนั่นได้รึเปล่า ถ้าเขาสามารถจัดการได้ เราก็ไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงใช้เหรียญตราผนึกสวรรค์”
“ผ่านมิติ?” เฉินถิงฟางขมวดคิ้ว
ซูอี้เว่ยพยักหน้าและพูดว่า “จี้จู่ นั้นมีชื่อเสียงอย่างมากในทักษะการลอบสังหารและสอดแนม ตอนนี้เรารอฟังข่าวดีจากเขาก่อนดีกว่าค่ะ”
ด้านในคฤหาสน์สราญรมย์ หลิงตู้ฉิงยังคงสงบนิ่งถึงแม้ว่าเขาจะถูกรายล้อมไปด้วยศัตรูมากมายที่อยู่ด้านนอก
และที่ด้านข้างของเขามีรถม้าสีดำทมิฬจอดอยู่พร้อมกับโม่หยูถัง ซือโถวเหวินหยวนเองก็ยืนอยู่อีกด้านของเขา และเขยิบไปไม่ห่างเท่าไหร่ โจวจื่อซินก็กำลังแช่ตัวอยู่ในอ่างเหล็กเช่นกัน
หลิงตู้ฉิง ในตอนนี้กำลังนั่งหลอมกระบี่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ด้วยการใช้แร่เหล็กทมิฬที่ได้มาจากเผ่าอสูรทมิฬเป็นส่วนผสมหลักในการหลอมกระบี่ จากกระบี่ยาวธรรมดาที่มีสีดำทมิฬหลังจากที่มันถูกเปลวเพลิงลามเลียอยู่ซ้ำ ๆ จากสีที่ดำทมิฬของมันก็ค่อย ๆ เปลี่ยนกลายเป็นสีม่วงแทน
ในขณะที่เขากำลังจะใช้เปลวเพลิงเผาตัวกระบี่รอบใหม่ ร่างของจี้จู่ จู่ ๆ ก็โผล่ขึ้นมาตรงหน้าเขาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“เดินทางผ่านมิติ?” หลิงตู้ฉิงถามขึ้น
ถึงแม้ปากของหลิงตู้ฉิงจะพูดขึ้น แต่แขนของเขาก็ยังไม่หยุดขยับ เขายังคงทำการหลอมกระบี่ต่อไปโดยไม่หยุดแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)