หลังจากที่หลิงตู้ฉิงอธิบายกฎแห่งขอบเขตสวรรค์ 5 ปีผ่านไปในพริบตา
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาหลิงตู้ฉิงยังคงค้นคว้าเกี่ยวกับเหรียญตราผนึกสวรรค์
เหลียงเฟ่ยเอ๋อยังคงอยู่ในขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 12 ของนางและไม่สามารถทะลวงไปยังขอบเขตรวมแสงดาราได้ ในสถานการณ์เช่นนี้มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะให้เหลียงเฟ่ยเอ๋อใช้เหรียญตราผนึกสวรรค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับหลิงตู้ฉิงเอง 5 ปีที่ผ่านมาระดับการบ่มเพาะของเขาก็เติบโตขึ้นอย่างเชื่องช้ามาจนถึงขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 7
เนื่องจากความกว้างใหญ่ของทะเลวิญญาณของเขาแม้ว่าพลังวิญญาณในร่างกายจะเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องทำอะไรอยู่เรื่อย ๆ ทุกวินาที แต่มันก็ยังเป็นการยากที่จะบรรลุระดับได้ในแต่ละระดับ
ใน 5 ปี เด็ก ๆ เกือบทั้งหมดเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แม้แต่หลิงไช่หยุนที่อายุน้อยที่สุดก็อายุ 14 ปีแล้ว
แม้ว่าเด็ก ๆ ทุกคนจะโตขึ้น แต่ระดับการบ่มเพาะของพวกเขาก็ไม่ค่อยก้าวหน้าเช่นกัน
แม้แต่หลิงว่านจุนและหลิงยี่เทียนซึ่งทั้งคู่ฝึกฝนได้ค่อนข้างรวดเร็ว แต่ก็ยังไปถึงแค่เพียงขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 2
ในทางกลับกัน หลิงยู่ชานพี่ใหญ่ของพวกเขายังอยู่ในขอบเขตควบแน่นพลังปราณระดับ 9 ส่วนเด็กที่เหลือระดับการบ่มเพาะของพวกเขาก็ไล่เลี่ยกันหมด
พวกเขาจำคำพูดของหลิงตู้ฉิงได้อย่างแม่นยำว่าพวกเขาต้องสร้างรากฐานการบ่มเพาะของพวกเขาให้มั่นคงก่อนเป็นอันดับแรก
และเมื่อเด็ก ๆ ที่เริ่มเติบโตขึ้น เรื่องของการแต่งงานของพวกเขาจึงเริ่มกลายเป็นประเด็นที่ทุกคนต่างต้องสนใจ
ทั้งอาณาจักรจันทรารวมถึงเด็กหนุ่มสาวทุกคนต่างรอให้ตระกูลหลิงประกาศคัดเลือกชายหนุ่มหญิงสาวสำหรับงานหมั้น
น่าเสียดายที่ไม่มีองค์หญิงแห่งตระกูลหลิงองค์ใดแสดงความตั้งใจที่จะหาคู่เลย
ซึ่งในที่สุดก็มีบางคนไม่สามารถทนรอได้อีกต่อไปและส่งข้อความแสดงความปรารถนาอย่างกล้าหาญที่จะแต่งงานกับ หลิงว่านถิง หลิงฟ่างหัว ต่อหลิงยี่เทียน แต่หลังเหตุการณ์นั้นเรือนของผู้นั้นก็จะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นทันที
มักจะมี ‘สิ่งมีชีวิต’ ลึกลับและเศษขยะอยู่ในเรือนและที่สำคัญกว่านั้นสิ่งของในเรือนก็ทยอยกันหายไปอย่างลึกลับ ที่สำคัญที่สุดมักจะมีนางคณิกาที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างลึกลับบนเตียง ทำให้ชื่อเสียงของผู้ที่เสนอให้แต่งงานเสียศักดิ์ศรี
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ใครยังจะกล้าเสนอลูกชายของตัวเองให้หลิงยี่เทียนได้ระคายหูอีก?
เมื่อเผชิญหน้ากับความสามารถการเดินทางผ่านมิติที่ช่ำชองมากขึ้นของหลิงฟ่างหัว แม้แต่หลิงยี่เทียนก็ไม่กล้าที่จะทำให้นางขุ่นเคืองโดยไม่จำเป็น
อย่างไรก็ตามหลิงตู้ฉิงซึ่งสามารถตัดสินใจแทนลูก ๆ ของเขาได้ ไม่เคยสนใจเรื่องเหล่านี้
ต่อมาทุกคนก็ได้เข้าใจ
ไม่ว่าในกรณีใด หากใครก็ตามที่ต้องการผูกสัมพันธ์กับตระกูลหลิงผ่านการแต่งงาน พวกเขาไม่จำเป็นจะต้องสู่ขอเหล่าเด็กสาวของตระกูลหลิงมาเป็นสะใภ้ แต่พวกเขาสามารถนำเหล่าบุตรหรือหลานสาวของตนเองไปเสนอให้กับเหล่าบุตรชายของหลิงตู้ฉิงได้!
เมื่อทุกคนรู้เช่นนี้จึงเป็นผลให้มีการเสนอการแต่งงานอีกครั้ง
“น้าเฟ่ย ตอนนี้ข้ารำคาญมากเลย!” หลิงยี่เทียนพูดขณะที่เขานั่งอยู่ตรงหน้าเหลียงเฟ่ยเอ๋อ
เหลียงเฟ่ยเอ๋อถามอย่างนึกสนุก “มีอะไรรบกวนเจ้างั้นเหรอ?”
“คณะเสนาบดีเรียกร้องให้ข้าเลือกจักรพรรดินีและนางสนมทุกวัน ทุกคนต้องการให้ลูกสาวของตัวเองกับข้า และข้าเหนื่อยที่จะต้องนั่งปฏิเสธทีละคน ๆ” หลิงยี่เทียนพูดด้วยความทุกข์ใจ
ด้วนการแนะนำของหลิงตู้ฉิง หลิงยี่เทียนจึงมักจะมาหาเหลียงเฟ่ยเอ๋อเพื่อขอปรึกษา
เนื่องจากเหลียงเฟ่ยเอ๋อเคยเป็นเชื้อพระวงศ์มาก่อน และที่สำคัญกว่านั้นเหลียงเฟ่ยเอ๋อยังเป็นผู้ครองร่างแก่นแท้ปฐพี
“งั้นเจ้าก็ตกลงไปสิ” เหลียงเฟ่ยเอ๋อหัวเราะ
หลิงตู้ฉิงได้แต่งงานกับบรรดาภรรยาของเขามานานกว่า 10 ปีแล้ว และไม่มีใครสามารถให้กำเนิดบุตรได้
แต่โชคดีที่ทุกคนเพิ่งเริ่มต้นบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะ และยังเด็กมาก ดังนั้นพวกนางจึงไม่ตื่นตระหนกในเรื่องนี้
“ข้าไม่เห็นด้วย!” หลิงยี่เทียนส่ายหัว “ข้าพยายามคิดหาวิธีแก้ปัญหาเกี่ยวกับเสนาบดีเหล่านี้เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่มารบกวนเรื่องการแต่งงานของข้าอีก….”
“เฮ้อ…น้าเฟ่ย ข้าขอตัวกลับเข้าวังก่อน ไว้ข้าจะมาพบท่านใหม่อีกที อ๋อ! อีกอย่างข้ามีเรื่องสำคัญจะบอกท่าน คนของข้าได้ส่งข้อความลับมาบอก ดูเหมือนว่าพี่ชายของท่านบางคนกำลังวางแผนการณ์บางอย่างลับหลังข้าอยู่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)