ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ภูเขาปราชญ์เที่ยงธรรมได้กลายเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากในทะเลชางหมาง
ผู้คนในอาณาเขตทะเลชางหมางทั้งหมดต่างรู้ดีว่าภูเขาเล็ก ๆ ลูกนี้บนเกาะไท่อี้มีหญิงม่ายผู้หนึ่งอาศัยอยู่ ซึ่งหากใครได้พบหญิงม่ายผู้นี้ครั้งแรกทุกคนจะรู้สึกเพียงว่านางมีเสน่ห์ แต่นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีแค่เพียงเสน่ห์ที่เป็นจุดเด่น แต่ก็ยังไม่วายที่จะมีผู้คนมากมายเริ่มนิยมชมชอบหญิงม่ายนางนี้
ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากมาที่ภูเขาลูกนี้เพื่อเกี้ยวพานางกลับเรือน แต่ยิ่งพวกเขาขึ้นไปใกล้ยอดเขามากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกสำนึกในเหตุและผลทางด้านศีลธรรมมากขึ้นจนพวกเขายิ่งรู้สึกละอายใจมากขึ้น
ในแต่ละวันที่ผ่านไป ชื่อเสียงของหญิงม่ายนางนี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่นางกลายเป็นตัวแทนแห่งความงามที่ไม่มีใครเทียบได้ในโลก
สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจของผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามเมื่อบรรดาผู้เชี่ยวชาญระดับสูงได้มาถึงภูเขาลูกนี้ พวกเขาก็พบว่ารอบ ๆ บริเวณของภูเขาเต็มไปด้วยพลังแห่งความเที่ยงธรรมล้อมรอบภูเขาอยู่อย่างหนาแน่น จนพวกเขาเองยังไม่กล้าที่จะทำอะไรผลีผลาม
และในระหว่างที่พวกเขาต่างสังเกตการณ์อยู่รอบ ๆ ด้านล่างของภูเขาอยู่นั้น พวกเขากลับได้ยินเสียงกระซิบอันแผ่วเบาที่สามารถทำให้พวกเขาพัฒนาความเข้าใจในด้านการบ่มเพาะไปได้อีกระดับหนึ่ง
ซึ่งทำให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากต่างนั่งลงบริเวณรอบ ๆ ภูเขาเล็กแห่งนี้เพื่อทำความเข้าใจกับเส้นทางการบ่มเพาะเฉพาะของตนเอง
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ภูเขาแห่งนี้จึงถูกขนานนามว่า ภูเขาปราชญ์เที่ยงธรรม
และเมื่อเรื่องราวที่มหัศจรรย์เช่นนี้เริ่มถูกพูดกันปากต่อปากไปเรื่อย ๆ มันจึงดึงดูดผู้เชี่ยวชาญหลายคนให้มาที่นี่เพื่อปักหลัก
แต่ต่อมากลับเกิดเหตุการณ์ที่คนเลวทรามผู้หนึ่งที่ไม่สนใจความชอบธรรมใด ๆ ต้องการลักพาตัวหญิงม่ายผู้นั้นไปครอบครอง
เนื่องจากระดับการบ่มเพาะของหญิงม่ายผู้นั้นยังอยู่ในขอบเขตประสานทะเลปราณ คนเลวผู้นั้นจึงพยายามใช้ความแข็งแกร่งขอบเขตนภาของตนเองเข้าข่มเหงนาง
เมื่อภาพเหตุการณ์นี้ได้ปรากฏแก่สายตาผู้เชี่ยวชาญมากมายรวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์ที่อาศัยอยู่รอบ ๆ ภูเขา ทุกคนต่างโกรธแค้นและสังหารคนเลวนั้นในทันที
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาไม่มีใครกล้ามาที่ภูเขาปราชญ์เที่ยงธรรม เพื่อทำเรื่องผิดศีลกรรมอีกเลย
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครคาดคิดว่า ‘คนเลว’ อีกคนจะกล้ามาปรากฎตัวขึ้นอีกในวันนี้ ซึ่งคนเลวหน้าใหม่ผู้นี้กล้าที่จะใช้สายตาอันหื่นกระหายมองไปที่ถังชี่หยุน จนทำให้คนที่อยู่ใกล้เคียงอดไม่ได้ที่จะออกตัวขึ้นมาช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตามในขณะที่เขากำลังจะพูดต่อ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่าปากของเขากลับถูกปิดสนิทด้วยพลังวิญญาณของใครบางคน
เมื่อรู้สึกได้เช่นนี้เขาจึงหันไปมองรอบ ๆ ซึ่งก็ได้เห็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์เป็นผู้ที่ปิดปากเขา
ผู้เชี่ยวชาญนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ของหมู่บ้านดาบศักดิสิทธิ์ หลินว่านหลง
คนผู้นั้นที่ถูกปิดปาก เมื่อเห็นว่าเป็นหลินว่านหลงที่ปิดปากเขา เขาจึงส่งข้อความทางโทรจิตถามขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “ผู้อาวุโสหลิน ท่านไม่เห็นรึไงว่าตอนนี้คนบ้าที่ไหนก็ไม่รู้มาล่วงเกินอาจารย์ถังอีกแล้ว ทำไมท่านถึงไม่ไปหยุดเขา? ไม่ใช่ว่าท่านได้รับคำสั่งให้มาปกป้องสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่งั้นเหรอ?”
หลินว่านหลงตอบกลับ “ก่อนนางจะมาที่ภูเขาเซียนนักปราชณ์ นางเป็นหนึ่งในผู้อยู่อาศัยที่คฤหาสน์ของเขา และเขายังเป็นบิดาของจักรพรรดิองค์ปัจจุบันของอาณาจักรจันทรา ฉะนั้นเจ้าควรเงียบลงไปซะและอย่ารบกวนการสนทนาของพวกเขา”
“นี่เขาเป็นบิดาของจักรพรรดิอาณาจันทราคนที่เขาลือกันว่าสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ได้ด้วยหมัด หมัดเดียวนั่นใช่ไหม!” ชายคนนั้นพูดด้วยความตื่นตระหนก
หลินว่านหลงมองเขา แต่ไม่ได้พูดอะไร
ในขณะนี้ หลิงตู้ฉิงไม่ได้ถูกรบกวนด้วยเสียงครหาอีกต่อไป
เขายืนอยู่ตรงหน้าถังชี่หยุนและพูดด้วยรอยยิ้ม “ดูจากกระแสพลังที่อยู่รอบ ๆ สถานที่นี้แล้ว ตอนนี้เจ้าสามารถทำให้พลังของเจ้าก่อเกิดเป็นภาพร่างอันแท้จริงได้แล้วสินะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)