เสี่ยวเยว่เฟิงซึ่งไม่รู้ว่าตัวตนของนางถูกค้นพบแล้ว ขณะนี้นางกำลังเดินทางไปที่หมู่ตึกหยูอี่ พร้อมกับหลิงตู้ฉิงและคนอื่น ๆ
นางไม่เคยคิดที่จะซ่อนตัวตนของนาง ดังนั้นนางจึงไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้
ขณะที่เดินตามอยู่ด้านหลังนางก็เหลือบไปมองมี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยเป็นครั้งคราวพลางครุ่นคิดอยู่ในใจ ความลับความแข็งแกร่งของทั้งสองคนนี้คืออะไรกันแน่?
นางอยากรู้แต่ไม่นางก็ไม่กล้าถามเช่นกัน เพราะนางกลัวว่าหลิงตู้ฉิงจะไม่ชอบใจ
ในขณะนี้มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยยังคงพยายามที่จะเอาใจหลิงตู้ฉิง “สามี เป็นยังไงบ้างข้ายังมีท่าไม้ตายอื่นอีกนะ!” มี่ไลพูด
“สามี ข้ารู้สึกว่าพลังของพวกเขาไม่เห็นจะแข็งแกร่งเหมือนอย่างที่ข้าคิดไว้สักนิด!” หลิวเฟ่ยเฟ่ยพูด
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ไอ้จื่อหวงนั่นมันก็เป็นแค่คนงี่เง่าที่อาศัยบารมีของตระกูลมันก็เท่านั้น และยิ่งโดยเฉพาะพวกผู้ติดตามของมันก็ล้วนแล้วแต่ไม่น่าพูดถึงทั้งสิ้น”
“แต่ด้วยเคล็ดวิชาของพวกเจ้าที่ล้วนแต่มีระดับเหนือล้ำกว่าพวกเขามาก ดังนั้นมันจึงไม่แปลกสำหรับพวกเจ้าที่จะเอาชนะพวกเขาได้ทั้งหมด”
“อย่างไรก็ตามสิ่งที่เจ้าต้องเผชิญในอนาคตจะไม่ใช่แค่พวกสั่ว ๆ เช่นนี้ พวกเจ้าจะต้องเผชิญกับอัจฉริยะมากมายที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้า พวกเขาจะมีภูมิหลังที่ลึกซึ้งกว่าเจ้ามาก ดังนั้นเจ้ายังคงต้องฝึกฝนอย่างหนักและเรียนรู้ทักษะเพิ่มเติม ซึ่งพวกเจ้าทั้งสองสามารถร่วมมือผสานวิชากันเพื่อทำให้พวกเจ้าแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมได้! ตัวอย่างเช่น มี่ไลข้ารู้ว่าเจ้าเข้าใจการปลดปล่อยละอองฝนของวิชาฝนใบไม้ผลิแล้ว ถ้าเจ้าใช้ละอองฝนของเจ้า เพื่อเสริมวิชาเยือกแข็งของเฟ่ยเฟ่ย เจ้าลองคิดดูว่ามันจะน่ากลัวขนาดไหน?”
“เมื่อเข้าไปภายในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ ข้าจะต้องจากพวกเจ้าไป ซึ่งพวกเจ้าจะต้องอยู่กันโดยลำพังเป็นระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้นในช่วงเวลานั้นพวกเจ้าจะต้องร่วมมือช่วยกันอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องตัวเองรอการกลับมาของข้า”
หลิงตู้ฉิงถือโอกาสนี้ชี้แนะทั้งสองคน หลังจากที่ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าจุดแข็งของภรรยาเขาทั้งสองคนนี้คืออะไร
หลังจากได้รับคำชี้แนะจากหลิงตู้ฉิง มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยก็มองหน้ากันและพูดอย่างตื่นเต้นว่า “พวกเราจะลองศึกษามันเมื่อพวกเรากลับไป!”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ค่อย ๆ ลองผิดลองถูกไป ข้าจะหาคนมาคอยสู้กับพวกเจ้าในอีกไม่กี่วัน เพื่อช่วยพวกเจ้าพัฒนาประสบการณ์การต่อสู้”
“ขอบคุณ สามี!” มี่ไลและหลิวเฟ่ยเฟ่ยพูด
ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีใครถามว่าหลิงตู้ฉิงจะไปไหนหรือหลิงเทียนหยุนต้องทำอะไรหลังจากเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ
พวกเขาเข้าใจว่าการเตรียมการทั้งหมดนี้จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาไปถึงเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับแล้ว
ในขณะที่พวกเขากำลังคุยกันพวกเขาก็มาถึงหมู่ตึกหยูอี่
แม้ว่าหมู่ตึกหยูอี่จะเป็นองค์กรการค้า แต่กลุ่มเป้าหมายลูกค้าของพวกเขาจะเน้นไปที่ผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์
ที่ตั้งของหมู่ตึกหยูอี่นั้นตั้งอยู่บนพื้นที่ลานกว้างขนาดใหญ่
เมื่อหลิงตู้ฉิงและคนของเขาเดินเข้าไปในอาณาเขตของหมู่ตึกหยูอี่อย่างช้า ๆ หลิงตู้ฉิงก็เผยรอยยิ้มขึ้นขณะที่เขามองไปยังบรรดาอักขระเวทย์ที่ถูกสลักลงบนอาคารรอบ ๆ
เห็นได้ชัดว่าในสถานที่แห่งนี้ได้มีผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ที่ทรงพลังมากมาวางค่ายกลอักขระเวทย์เอาไว้ หรือถ้าจะให้เทียบกันแล้วพลังป้องกันของหมู่ตึกหยูอี่ที่มีอยู่ มันไม่ได้ด้อยไปกว่าพลังป้องกันของหอการคำพิรุณทองคำเลยสักนิด
“แขกผู้มีเกียรติ ท่านต้องการสั่งหมึกและกระดาษงั้นหรือ?” พนักงานดูแลร้านค้าที่หมู่ตึกหยูอี่ถามขึ้นเมื่อเห็นว่ากลุ่มของหลิงตู้ฉิงเดินเข้ามา
หลิงตู้ฉิงพูด “ข้าได้ยินมาว่าหมู่ตึกหยูอี่ของเจ้ามียันต์สั่งสวรรค์ ข้ามาเพื่อซื้อพวกมัน”
พนักงานดูแลร้านค้าหมู่ตึกหยูอี่ที่ดูเหมือนจะเจอผู้คนที่ถามถึงเรื่องนี้จนชินเขายิ้มและพูดว่า “เนื่องจากแขกผู้มีเกียรติมาหายันต์สั่งสวรรค์ โปรดตามข้าไปที่ด้านหลัง ยันต์สั่งสวรรค์อยู่ในสวน ตราบใดที่ท่านเป็นคนที่มีชะตาต้องกับมันท่านก็สามารถนำมันออกไปจากที่นี่ได้เลย แต่ในตอนนี้มีหลายคนที่มีเป้าหมายเดียวกับท่าน ซึ่งกำลังลงแรงกันอย่างหนักอยู่ในสวน”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและเดินตามพนักงานดูแลร้านค้าไปที่สวนด้านหลัง
คนอื่น ๆ ที่อยู่ข้างหลังเขาก็เดินตามเขาเข้าไปเช่นกัน
ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในสวน ทุกคนรู้สึกได้ทันทีว่าผนึกที่ป้องกันสวนแห่งนี้นั้นมีความแข็งแกร่งมากกว่าพลังป้องกันที่อยู่ด้านนอกเป็นพันเท่า
แม้แต่เสี่ยวเยว่เฟิงซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรบุ่มบ่ามหลังจากเข้ามาในสวน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)