พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) นิยาย บท 278

สรุปบท บทที่ 278 ช่วยตามหาเจ้าสำนัก: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

อ่านสรุป บทที่ 278 ช่วยตามหาเจ้าสำนัก จาก พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) โดย Internet

บทที่ บทที่ 278 ช่วยตามหาเจ้าสำนัก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 278 ช่วยตามหาเจ้าสำนัก

ทุกคนมองไปที่จงขุยอย่างไร้คำพูด

เจ้าสำนักของท่านหายไปแล้วทำไมท่านถึงไม่ไปตามหาเขากันเล่า?

ไม่ใช่แค่ว่าเขาไม่ยอมไปตามหา แต่นี่เขากลับมาอยู่ที่นี่เพื่อตามหาผู้ถูกชะตาลิขิตซะงั้น?

หลิงตู้ฉิงเองก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ “เจ้าต้องการให้ข้าช่วยตามหาคน?”

ด้วยระดับการบ่มเพาะของเขาที่ยังคงต่ำอยู่ เขาแน่ใจว่าเขาคงยังไม่สามารถช่วยสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ตามหาคนได้แน่นอน แต่ถ้าหากเมื่อไหร่ที่เขามีระดับการบ่มเพาะที่สูงพอ การตามหาใครสักคนมันก็เป็นเรื่องไม่ยากสำหรับเขา

จงขุยส่ายหัวและพูดว่า “ข้าอยากให้ท่านลองฟังเรื่องที่ข้าจะเล่าก่อน”

“ลองพูดมา” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า

ในเมื่อเขาเองก็ได้รับประโยชน์มาจากสำนักนี้แล้ว เขาจึงตัดสินใจที่จะฟังเรื่องราวของสำนักนี้เสียหน่อย

จงขุยสูดลมหายและเริ่มเล่า “ราว ๆ 5,000 ปีที่แล้ว จู่ ๆ ก็มีกลุ่มหมอกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นใกล้ ๆ กับสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของเรา ซึ่งบริเวณพื้นที่ที่หมอกนี้ปรากฎขึ้นก็เต็มไปด้วยผนึกป้องกันที่มีพลังอันมหาศาล ส่งผลให้ทั่วทั้งบริเวณถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำอันมืดมิด จนไม่สามารถเห็นอะไรภายในได้เลย”

“เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งเกิดขึ้นใกล้กับสำนักของเรา ด้วยความกังวลใจ ทางสำนักจึงได้ส่งคนออกไปตรวจสอบ แต่น่าเสียดายที่ไม่ว่าเราจะส่งผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งหรือจำนวนที่มากไปสักขนาดไหน ตราบใดที่พวกเขาเข้าไปในพื้นที่นั้น พวกเขาจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยทันที แม้กระทั่งเหล่าผู้อาวุโสของสำนักยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว”

“ถ้าหากอยู่ในสถานการณ์ปกติ ทางสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของเราคงเลือกที่จะไม่สนใจอะไรกับมัน เนื่องจากอาณาเขตของหมอกนั่นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรหลังจากมันปรากฎขึ้น แต่…”

เมื่อจงขุยเล่าถึงจุดนี้ สีหน้าของเขาก็ดูสลดลงได้อย่างชัดเจน

เขาหยุดอยู่เป็นเวลานานก่อนที่เขาจะพูดต่อ “แต่ไอ้หมอกบ้านั่นมันกลับปิดกั้นมหาเต๋าของสำนักเราไปส่วนหนึ่ง จนทำให้เต๋าของสำนักกลายเป็นไม่สมบูรณ์ ซึ่งมันหมายความว่าคนของสำนักเราจะไม่สามารถบ่มเพาะตามเส้นทางเต๋าเดิมได้เหมือนเคย”

“ท่านน่าจะเดาได้ว่า นี่มันคือผลกระทบอันใหญ่หลวงต่อสำนัก เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้พวกเราจึงพยายามใช้วิธีการอันทรงพลังที่สุดของสำนักเราเพื่อลบล้างพื้นที่หมอกนี้ออกไป”

“แต่น่าเสียดาย เมื่อบรรดาเหล่าคนระดับสูงในสำนักร่วมกันลงมือ แต่พื้นที่หมอกนั่นกลับไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ เลยด้วยซ้ำ ราวกับว่าการดำรงอยู่ของมันนั้นสามารถคงอยู่ได้เป็นนิรันดร์”

“ซึ่งถ้าหากสถานการณ์นี้ไม่ได้รับการแก้ไข สำนักของเราก็คงไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้เช่นกัน จากนั้นบรรดาผู้อาวุโสต่าง ๆ หลายคนจึงทำการประชุมวางแผนและตัดสินใจที่จะส่งพวกเขาบางคนเข้าไปในพื้นที่ของหมอกนั่น เพื่อทำการตรวจสอบ”

“และหนึ่งในบรรดาผู้ที่จะเข้าไปตรวจสอบด้วยก็คือ เจ้าสำนักของพวกเรานั่นเอง”

“ที่เจ้าสำนักของเราตัดสินใจเข้าไปด้วย นั่นก็เพราะเขาคือผู้ที่แข็งแกร่งและเข้าใจในกฎแห่งสวรรค์และโลกมากที่สุด”

“แต่แล้วเหตุการณ์ก็ซ้ำรอย หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในพื้นที่นั้น พวกเขาทุกคนก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย! โชคยังดีที่ท่านเจ้าสำนักซึ่งมีระดับการบ่มเพาะที่สูงส่งและครอบครองสมบัติวิเศษบางอย่างที่ยังทำให้เรารู้ได้ว่าเขายังไม่ตาย”

“ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาปัญหานี้ได้รังควาญสำนักของเรามานานนับพันปี ซึ่งพวกเราเองก็ไม่มีหนทางที่จะแก้ไข พวกเราจึงทำได้แค่ทนรอเพื่อหาทางออกให้ได้”

“ดังนั้นพวกเราเลยใช้ยันต์สั่งสวรรค์ที่จำลองพลังของกฎในพื้นที่แห่งนั้นมาไว้ที่นี่ เพื่อที่จะตามหาผู้ที่สามารถทำลายพลังแห่งกฎนี้ได้ ซึ่งคนผู้นั้นจะได้กลายเป็นผู้ถูกชะตากำหนดสำหรับสำนักของเรา นี่จึงเป็นที่มาของการก่อตั้งหมู่ตึกหยูอี่”

ด้วยการที่หลิงตู้ฉิงสามารถมีผู้ติดตามเป็นคนของภูเขาฟีนิกซ์และสำนักเต๋าสวรรค์ได้ จงขุยจึงไม่ปฏิบัติกับหลิงตู้ฉิงเหมือนคนธรรมดาทั่วไปตั้งแต่แรกเริ่ม อันที่จริง จงขุยเองก็รู้สึกได้ว่ากลุ่มคนของหลิงตู้ฉิงนั้นต้องพกสมบัติวิเศษจากสำนักของพวกเขามาด้วยแน่ ๆ ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงจะไม่แสดงอาการที่ใจเย็นได้เช่นนี้ จงขุยถึงกับหวังไว้ว่าบางทีหลิงตู้ฉิงอาจจะเผยอะไรบางอย่างออกมาให้ได้ชมบ้างก็คงดี

หลิงตู้ฉิงโบกมือปฏิเสธขึ้น “หมู่ตึกหยูอี่ของเจ้านับว่าไม่เลวเลย ต่อไปนี้ข้าจะมาอาศัยอยู่ที่นี่แทน ส่วนไอ้ 4 คนที่กำลังเป็นปัญหา ในเมื่อพวกมันไม่รู้ว่าอะไรดีกับตัวพวกมันเองและกล้ามาสร้างความรำคาญให้ข้า เดี๋ยวพวกข้าจะจัดการกับพวกมันเอง”

“นายท่าน นี่ท่านคิดจะใช้ยันต์สั่งสวรรค์งั้นเหรอ?” เสี่ยวเยว่เฟิงถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย

นางรู้ดีว่าความเข้าใจในเรื่องพลังแห่งกฎของหลิงตู้ฉิงนั้นสูงส่งมาก หากเขาใช้ยันต์สั่งสวรรค์นี้กับเหล่าคนข้างนอกจริง ๆ พวกคนข้างนอกนั้นคงได้ถูกกำจัดจนไม่มีเหลือแน่นอน

หลิงตู้ฉิงเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน “คนอย่างพวกนั้นมันไม่คู่ควรให้ข้าต้องใช้ยันต์สั่งสวรรค์แม้เพียงสักนิด ในอนาคตข้าจะใช้ยันต์สั่งสวรรค์นี้เพื่อสร้างค่ายกลปกป้องพวกเราต่างหากล่ะ เอาล่ะ ข้าจะแบ่งหน้าที่ให้พวกเจ้าเดี๋ยวนี้ จงขุย เจ้ารับมือกับคนที่แข็งแกร่งที่สุดไป เฟิงเจ้ารับมือผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ 2 คน ส่วนซือโถว เจ้ารับมือไปคนนึง แค่นี้ปัญหาทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้วเห็นไหม?”

เมื่อได้ยินการแบ่งหน้าที่จบ ซือโถวเหวินหยวนก็พูดขึ้นมาทันทีด้วยสีหน้าละอาย “นายท่าน คือว่าข้าคงยังไม่สามารถสู้กับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์สามัญได้หรอก…”

หลิงตู้ฉิงมองไปที่เขาและตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ไม่ใช่ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ข้าได้ให้ของบางอย่างไว้กับเจ้าไม่ใช่เหรอ? เจ้าจงปลดปล่อยมันออกมาให้คนพวกนั้นได้เจอกับมันหน่อยสิ”

เมื่อได้ยินคำสั่งเช่นนี้ ซือโถวเหวินหยวนก็ยังคงรู้สึกขัดแย้งในใจอยู่ดี เนื่องจากเขาไม่แน่ใจว่าพลังของภาพวาดที่หลิงตู้ฉิงให้มานั้นมันจะแข็งแกร่งพอจริง ๆ หรือเปล่า?

แต่ไม่ว่าจะยังไง ในเมื่อหลิงตู้ฉิงได้ออกคำสั่งมาแล้ว เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องทำตาม

จากนั้น บรรดากลุ่มคนของหลิงตู้ฉิงก็ค่อย ๆ เดินออกจากหมู่ตึกหยูอี่…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)