ผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่ซ่อนตัวอยู่ในบริเวณโดยรอบมีความรู้สึกแปลก ๆ เมื่อได้ยินการสนทนาของฝูงชนที่อยู่รอบ ๆ
เรื่องการก่อกบฏที่ภูเขาฟีนิกซ์ไม่ใช่สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น
นอกจากนี้เมืองเจินไห่ที่อยู่ใกล้กับทะเลชางหมาง เป็นสถานที่ที่ภูเขาฟีนิกซ์ได้ส่งข่าวให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่ทราบเกี่ยวกับเรื่องของรางวัลใหญ่ที่จะมีให้แก่ผู้ที่สามารถกุมตัวหรือสังหารบุคคลทรยศของภูเขาฟีนิกซ์ได้
พวกเขาทั้งหมดในตอนนี้จึงกำลังครุ่นคิดตัดสินใจว่าจะช่วยพวกตระกูลจางและตระกูลจื่อ เพื่อให้พวกเขาได้รับส่วนแบ่งจากรางวัลนี้ดีหรือไม่
นอกจากนี้ กลุ่มคนเหล่านั้นยังมียันต์สั่งสวรรค์ ซึ่งเป็นสมบัติอันล้ำค่าเป็นอย่างมาก
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ แต่เมื่อยันต์สั่งสวรรค์ตกอยู่ในมือพวกเขาก็ยังสามารถปลดปล่อยพลังของมันออกมาได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าจะไม่มีประสิทธิภาพเท่าผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ใช้ก็ตาม เมื่อถึงเวลาพวกเขาก็แค่เขียนคำสองสามคำลงไป อย่างน้อยที่สุดมันก็สามารถใช้เป็นอาวุธเอาไว้สังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์สามัญได้อย่างง่ายดาย
แต่ในขณะที่หลายคนพร้อมที่จะลงมือ จู่ ๆ ร่างแท้นกฟีนิกซ์และคนจากสำนักเต๋าสวรรค์ก็ปรากฎตัวขึ้น ทำให้พวกเขาเริ่มลังเลว่ากลุ่มคนกลุ่มนี้มันใช่กลุ่มคนที่เป็นคนทรยศจริง ๆ งั้นหรือ? แล้วถ้าไม่ใช่มันจะเป็นอย่างไร? ทุกคนยังคงลังเล
ในขณะเดียวกัน ตอนนี้ซือโถวเหวินหยวนเกือบจะถึงขีดจำกัดแล้ว
แม้ว่าเขาจะบรรลุอักษรสามพยางค์ของวิชาเก้าอักษรมนตราแล้ว แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจกฎแห่งสวรรค์และช่องว่างระหว่างระดับการบ่มเพาะของพวกเขาก็ยังกว้างมากเกินไป
ยิ่งไปกว่านั้นด้วยแรงกดดันของพลังขอบเขตสวรรค์ของจื่อเซี่ยง ที่กดทับมายังร่างกายของเขาอยู่ตลอดเวลา ทำให้ทุกอย่างมันยิ่งยากขึ้นสำหรับเขา
หลิงตู้ฉิงก้มลงมองที่พื้นและส่ายหัวด้วยความระอา ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไปและตะโกนขึ้น “เจ้าโง่ ใช้ไอ้นั่นสิ!”
ก่อนหน้านี้เขาได้ให้คำสั่งที่ชัดเจนไปกับซือโถวเหวินหยวนไปแล้ว แม้ว่ายันต์ผิวหยก จะมีค่าและเขาก็ไม่อยากเสียมันไป แต่ในเมื่อสิ่งต่าง ๆ ได้มาถึงจุดนี้แล้ว เขาก็จำเป็นต้องปล่อยวาง
นอกจากนี้หมู่ตึกหยูอี่ยังมียันต์ผิวหยกอยู่อีกตั้ง 30 แผ่น ซึ่งต่อให้เขาเสียสองแผ่นนี้ไป อย่างมากเขาก็แค่ต้องเสียเวลาและความพยายามที่จะลงอักขระในแผ่นที่เหลืออีกครั้ง
ซือโถวเหวินหยวนก็หมดหนทางเช่นกันเพราะเขาไม่รู้จริง ๆ ว่าภาพวาดที่อยู่ในยันต์ผิวหยกใช้ทำอะไร! ถ้าหากประโยชน์ของมันให้ได้เพียงแค่ขู่ให้ฝั่งตรงข้ามตกใจ เขาจะไม่ต้องตายอย่างน่าอนาถงั้นเหรอ?
แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถทนต่อไปได้อีกแล้ว เขาควรจะทำยังไงดี?
เมื่อไม่มีทางเลือก ยันต์ผิวหยกก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา เขาเปิดใช้งานยันต์ผิวหยกตามวิธีที่หลิงตู้ฉิงสอน
จากนั้นเขาก็พบว่าพลังวิญญาณของเขาถูกใช้ออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นภาพที่อยู่ในยันต์ผิวหยกก็กลายเป็นมีชีวิตขึ้นมา
เมื่อเห็นเช่นนี้ ซือโถวเหวินหยวนถึงกับตกตะลึง เนื่องจากเขาไม่สามารถควบคุมพลังวิญญาณของตัวเองที่หลั่งไหลเข้าสู่ยันต์ผิวหยกได้เลย การสูญเสียพลังวิญญาณในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้มันไม่เท่ากับเป็นการรนหาที่ตายงั้นเหรอ?
ในขณะที่เขาต้องการตัดการไหลเวียนของพลังวิญญาณ เขาก็ตระหนักว่าอสูรกลืนสวรรค์ที่อยู่ในยันต์ผิวหยกมีชีวิตขึ้นมา
ในขณะที่พลังวิญญาณของเขายังคงหลั่งไหลเข้าไปในยันต์ผิวหยก จื่อเซี่ยงก็พุ่งมาข้างหน้าพร้อมที่จะจับตัวเขา
ซือโถวเหวินหยวนไม่กล้าที่จะประมาทและรีบใช้อักษร ‘ยินยอม’ เพื่อหลบหลีกการโจมตี
ในเวลานี้มากกว่าครึ่งหนึ่งของพลังวิญญาณของซือโถวเหวินหยวนได้ถูกส่งเข้าไปในยันต์ผิวหยก จนยันต์แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ และจากนั้นหัวขนาดมหึมา ‘เจาะออกมา’ จากชิ้นส่วนของยันต์ผิวหยก
และเมื่ออสูรกลืนสวรรค์ปรากฏขึ้นเต็มตัว มันก็เห็นจื่อเซี่ยงพุ่งเข้าหามัน อสูรกลืนสวรรค์เปิดปากของมันและสูดลมหายใจลึก ๆ ดูดจื่อเซี่ยงเข้าไปในท้องของมัน
เมื่อได้เห็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์หายตัวไปในปากของสัตว์ร้ายขนาดใหญ่นั้นโดยไม่มีโอกาสขัดขืนแม้แต่น้อย ทุกคนต่างตกตะลึง
สัตว์ประหลาดตัวมหึมาตัวนี้คืออะไร?
มันมีความยาวอย่างน้อย 300 เมตรและหนา 150 เมตร มันมีปากขนาดใหญ่และทั้งตัวของมันถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีดำ
คำปลอบใจเพียงอย่างเดียวก็คือระดับการบ่มเพาะของอสูรกลืนสวรรค์นี้เป็นเพียงระดับครึ่งสวรรค์เท่านั้น และดูเหมือนจะไม่น่ากลัว
แต่…
ทำไมมันถึงกลับดูดจื่อเซี่ยงเข้าไปในปากได้อย่างง่ายดายขนาดนั้นกันล่ะ?
ขณะนี้ดวงตาของอสูรกลืนสวรรค์ก็หันมาจ้องมองไปที่พวกเขา
เมื่อเห็นว่ามีคนจำนวนมากอยู่บนพื้น มันก็อ้าปากและดูดกลืนทุกอย่างอย่างดุเดือด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)