ในที่สุดหมู่ตึกหยูอี่ก็มีพนักงานต้อนรับอย่างเป็นทางการ นั่นก็คือ หยุนจื่อรุ่ย และ เปียนเฉียวเฉียว
เมื่อเห็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ สองคนที่ทางเข้า ผู้นำตระกูลหลายคนก็ถอนหายใจและพลางคิดว่า ‘ถ้ารู้ว่าเขาชอบเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แบบนี้ตั้งแต่แรกข้าคงจะส่งลูกคนเล็กไปให้!’
ตอนนี้ไม่ว่าพวกเขาจะถอนหายใจถี่แค่ไหนพวกเขาก็พลาดโอกาสไปแล้ว
หลายคนจ้องมองไปที่ตระกูลเย่ และคาดเดาว่าครั้งนี้ตระกูลเย่จะได้รับผลประโยชน์มหาศาลแน่นอน เพราะเด็กหญิงตัวน้อยทั้งสองนั้นเป็นของขวัญที่มาจากตระกูลเย่
และหลังจากได้รับข่าวนี้ ตระกูลจื่อและตระกูลจางต่างก็หวาดกลัว และพยายามเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดสำหรับการมาของตระกูลเย่กับหลิงตู้ฉิง
แต่เมื่อเวลาผ่านไปอีกหลายวันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ในตระกูลเย่และไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ในหมู่ตึกหยูอี่
อันที่จริงตระกูลเย่เองก็พยายามไปขอเข้าพบหลิงตู้ฉิงที่หมู่ตึกหยูอี่เช่นกัน แต่พวกเขาก็ถูกปฏิเสธและไม่ได้เห็นแม้แต่เงาของหลิงตู้ฉิง
ซึ่งหลังจากนั้นหมู่ตึกหยูอี่ก็ได้ติดป้ายประกาศไว้ว่าจะงดรับแขกชั่วคราว
ในเวลานี้หลิงตู้ฉิงกำลังยุ่งอยู่ในสวนหลังหมู่ตึกหยูอี่
หลิงตู้ฉิงยุ่งอยู่กับการปรับแต่งค่ายกลกระบี่บิน ซึ่งค่ายกลนี้หลิงตู้ฉิงลงทุนใช้วัสดุระดับสวรรค์และผลึกปฐพีเวหาเพื่อเพิ่มอำนาจการป้องกันของมันให้ยิ่งสูงขึ้น
“นายท่าน นี่ท่านใช้ผลึกปฐพีเวหากับค่ายกลนี้ด้วยงั้นเหรอ?” เสี่ยวเยว่เฟิงพูดอย่างประหลาดใจ
หลิงตู้ฉิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ “ต่อไปข้าจะทำการปรับแต่งยันต์สั่งสวรรค์ และขั้นตอนการปรับแต่งยันต์สั่งสวรรค์จะถูกขัดจังหวะไม่ได้ ไม่งั้นข้าจะล้มเหลว ข้าจึงต้องปรับแต่งค่ายกลให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อเป็นการป้องกัน นอกจากนี้ในระหว่างขั้นตอนการปรับแต่ง ยันต์สั่งสวรรค์มันจะดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นจำนวนมาก ซึ่งข้ากังวลว่าเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งจะเข้ามารบกวนได้”
เสี่ยวเยว่เฟิงหัวเราะ “นายท่าน ตอนนี้ข้ายังเหลือลูกธนูอีกสองดอก ต่อให้พวกผู้เชี่ยวชาญระดับสามัญหลุดพ้นจะเข้ามา พวกเขาก็ต้องตายแน่นอน และอีกอย่างในเมืองเจินไห่นี้ก็ไม่น่าจะมีผู้เชี่ยวชาญระดับเหนือกว่านั้นอยู่อีกแล้วไม่ใช่งั้นเหรอ?”
หลิงตู้ฉิงมองไปที่เสี่ยวเยว่เฟิงและพูดว่า “ปัญหามันอยู่ที่เจ้าเองก็จะไม่ว่างเช่นกัน เนื่องจากข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าในขั้นตอนการปรับแต่งยันต์สั่งสวรรค์ด้วย ดังนั้นเจ้าจะไม่สามารถต่อสู้ได้!”
ในที่สุดเสี่ยวเยว่เฟิงก็เข้าใจ นางพยักหน้าเบา ๆ และพูดว่า “เช่นนั้นข้าจะช่วยนายท่านอย่างดีที่สุด”
“ในขณะที่ข้าอยู่ในขั้นตอนการปรับแต่งค่ายกลกระบี่บิน เจ้าเองก็จงหลอมรวมสมบัติระดับสวรรค์เข้ากับอาณาเขตสวรรค์ของเจ้าเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่งเจ้าแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ยันต์สั่งสวรรค์ที่ปรับแต่งสมบูรณ์จะสามารถปลดปล่อยพลังได้มากขึ้นเท่านั้น” หลิงตู้ฉิงสั่ง
ในท้ายที่สุดปัญหาของระดับการบ่มเพาะก็ย้อนกลับเข้ามาเป็นอุปสรรคกับแผนการของหลิงตู้ฉิง
หากการบ่มเพาะของเขาสูงพอเขาก็คงไม่กลัวใคร
อีกเหตุผลหนึ่งคือ ถ้าหลิงตู้ฉิงปรับแต่งยันต์สั่งสวรรค์ด้วยตัวของเขาเองคนเดียว อำนาจของมันที่จะสามารถปลดปล่อยออกมาได้นั้นมันแทบจะไม่แตกต่างจากความแข็งแกร่งของตัวเขาเลย
ฉะนั้นในบรรดากลุ่มคนของหลิงตู้ฉิง คนที่มีระดับการบ่มเพาะสูงสุดคือเสี่ยวเยว่เฟิง นางจึงต้องเป็นส่วนสำคัญในการปรับแต่งยันต์สั่งสวรรค์ในครั้งนี้
หลังจากได้ยินคำพูดของหลิงตู้ฉิง เสี่ยวเยว่เฟิงก็รีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะไม่ดูท่านปรับแต่งค่ายกลแล้ว ข้าจะรีบไปบ่มเพาะต่อก่อน”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า เขาใช้เวลามากกว่า 1 เดือนในการปรับแต่งผลึกปฐพีเวหา ซึ่งจะใช้เป็นแกนหลักความแข็งแกร่งของค่ายกล ในเวลานี้ผลึกปฐพีเวหามีขนาดเท่าฝ่ามือแล้ว และมีลวดลายอักขระมากมายปรากฎอยู่บนมัน
จากนั้นหลิงตู้ฉิงจึงเริ่มทำการสร้างกระบี่บินเล่มเล็ก ๆ อีกหลายเล่มต่ออีกทันที กระบี่บินแต่ละเล่มมีความยาวเพียง 3 นิ้ว และระดับของมันล้วนอยู่ในระดับอาวุธวิเศษระดับราชวงศ์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)