เนื่องจากการปะทะกันอย่างรุนแรงของลั่วหยุนและวิญญาณปีศาจ มันส่งผลทำให้ทั้งเมืองหยูหลันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
และไม่ใช่แค่เมืองหยูหลันเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แม้แต่พื้นที่ทั้งหมดทางตอนเหนือของอาณาเขตนภาก็สั่นสะเทือนเช่นกันและที่สำคัญที่สุดคือ กฎแห่งสวรรค์และโลกในตอนนี้ได้ถูกเจตจำนงของทั้งคู่ทำให้บิดเบี้ยวเช่นกัน ซึ่งมันก่อให้เกิดความผิดปกติต่อกฎต่าง ๆ ที่ดำรงอยู่ในบริเวณพื้นที่ทางตอนเหนือของอาณาเขตนภาเป็นอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสิ่งที่แม้แต่อาณาจักรอี้จิ๋น ซึ่งอยู่ห่างไกลไปทางใต้ของอาณาเขตนภาก็สามารถรู้สึกได้เล็กน้อย
“ศึกแห่งเจตจำนง?” หลายคนที่มีภูมิหลังมาจากสำนักใหญ่ สัมผัสได้ถึงเหตุการณ์ความผันผวนที่เกิดขึ้นนี้แล้ว
ตัวอย่างเช่น สีจิ้งหมิงที่สามารถสัมผัสได้ถึงสถานการณ์และมองไปยังทิศทางที่เมืองหยูหลันตั้งอยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “นายน้อยต้องการให้ข้าไปดูไหม?”
ชายชราเครายาวปรากฏตัวตรงหน้าสีจิ้งหมิง “นายหญิงและอี้เฉิงน้อย ก็อยู่ที่นั่น…”
สีจิ้งหมิงขมวดคิ้วและครุ่นคิดสักพักก่อนที่จะพูดว่า “ลุงหมิงเอาอาวุธวิเศษระดับจักรพรรดิติดตัวไปและมุ่งหน้าไปยังเมืองหยูหลัน ถ้าพี่ใหญ่ตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ จงนำพวกเขากลับมาให้ได้!”
ชายชราเครายาวพูดอย่างวิตกกังวล “นายน้อย ถ้าท่านให้ข้านำอาวุธวิเศาระดับจักรพรรดิติดตัวไป แล้วความปลอดภัยของท่านล่ะ? นอกจากนี้ข้าอยู่ในขอบเขตนภาครามเท่านั้น ถึงแม้จะมีอาวุธวิเศษระดับจักรพรรดิอยู่ในมือ ข้าก็คงไม่สามารถแสดงพลังของมันได้มากนัก”
สีจิ้งหมิงโบกมือและพูดว่า “ท่านยังไม่จำเป็นต้องห่วงข้าในเรื่องนั้น ตราบใดที่ข้าอยู่ภายในอาณาเขตเมืองหลวง อย่างน้อยข้าก็สามารถป้องกันตัวเองได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง นอกจากนี้ข้ายังมีโองการจักรพรรดิและอาวุธต้องห้ามระดับจักรพรรดิอยู่กับข้า ส่วนอาวุธวิเศษระดับจักรพรรดิที่ข้าบอกให้ท่านนำมันไป ข้าหมายความว่าให้ท่านนำมันไปให้พี่สาวของข้าเพราะนางรู้วิธีใช้มันเป็นอย่างดี ด้วยอำนาจของอาวุธวิเศษระดับจักรพรรดิ ข้าแน่ใจว่าพวกเขาจะสามารถกลับมาที่อาณาจักรอี้จิ๋นได้อย่างปลอดภัย ส่วนท่านเองหากไม่มีความจำเป็นใด ๆ จงอย่าเปิดเผยตัวตนและกลับมาที่นี่อย่างเงียบ ๆ ก็พอ”
เมื่อมองไปยังท่าทางที่เด็ดเดี่ยวของสีจิ้งหมิง ชายชราเครายาวก็พยักหน้าอย่างเร่งรีบ จากนั้นเขาจึงรีบบินมุ่งหน้าไปยังเมืองหยูหลันอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกัน ทางด้านของสันเขาทรราชและเหล่าสำนักใหญ่อื่น ๆ ที่คนของตัวเองได้อยู่ที่เมืองหยูหลันด้วยก็มีปฏิกิริยาตอบสนองคล้ายกับสีจิ้งหมิง
แต่ในทางตรงกันข้าม ทางด้านของอาณาจักรอ้าวเทียนนั้นกลับไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากนัก
เมื่อเทียบกับเหล่าผู้คนที่อยู่ในสถานที่ห่างไกล ผู้คนที่อาศัยอยู่พื้นที่รอบ ๆ เมืองหยูหลันต่างก็รู้สึกสิ้นหวังอย่างแท้จริง เนื่องจากพวกเขาไม่รู้ว่าเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นมันคืออะไรกันแน่
เนื่องจากตอนนี้ภาพที่พวกเขาเห็นอยู่ก็คือภาพของท้องฟ้าที่มีแสงสีสลับไปมาระหว่างขาวและดำรวมไปถึงยังมีเสียงฟ้าร้องและการปรากฎของสายฟ้าที่ผ่าสุ่มไปทั่วทั้งบริเวณเมืองซึ่งสร้างความโกลาหลไปทั่ว
หลายคนที่กำลังบ่มเพาะอยู่อย่างสันโดษถูกรบกวนโดยกฎแห่งสวรรค์และโลกที่ถูกบิดเบี้ยว จนไม่สามารถบ่มเพาะต่อไปได้
คนที่สับสนที่สุดคือคนที่อยู่ด้านในเมืองหยูหลัน ทุกคนต่างมองไปทางสระหยูหลันและพวกเขาก็เห็นภาพลวงตา
“พี่ใหญ่นั่นน่าจะเป็นเรือนของพวกเราไม่ใช่เหรอทำไมภาพของเรือนเราถึงได้ไปลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือสระหยูหลันแบบนั้นกัน?”
“นั่นไม่ใช่หอการค้าของครอบครัวข้าเหรอมันถูกสะท้อนไปตรงนั้นได้ยังไง?”
“นั่นมันต้นไม้หน้าบ้านข้านี่!”
“……”
ทุกคนมองไปที่วัตถุทรงกลมที่น่าจะถูกสร้างด้วยพลังวิญญาณขนาดยักษ์ที่อยู่เหนือสระหยูหลันด้วยสาตาแปลกประหลาด เนื่องจากไอ้วัตถุทรงกลมนี้มันกลับสามารถสะท้อนภาพของบริเวณต่าง ๆ ของเมืองหยูหลันออกมาอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาทุกคนมองย้อนกลับไปและเห็นว่าเรือนและหอการค้าของพวกเขายังคงอยู่ที่เดิมพวกเขาจึงผ่อนคลายลง
แค่สิ่งที่ผู้คนทั่วไปไม่รู้ก็คือถ้าไม่ใช่เพราะวัตถุทรงกลมนี้ปิดกั้นคลื่นพลังการปะทะของลั่วหยุนและวิญญาณปีศาจเอาไว้ทั้งหมด มันก็คงจะมีคนไม่มากนักที่อยู่ในเมืองหยูหลันที่รอดชีวิต ซึ่งไม่เพียงแต่เมืองหยูหลันจะถูกทำลายแต่พื้นที่ใกล้เคียงก็คงจะเหลือเพียงซากปรักหักพัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)