หลิงตู้ฉิงและหลิงเทียนหยุนกลับไปที่ดาวเพลิงคงกระพันอีกครั้ง และการกลับมาของพวกเขายังเร็วกว่ากำหนด 2 ปีที่เคยบอกไว้กับหวงเซียะถึง 1 เดือน
หลิงตู้ฉิงได้สั้งให้หลิงเทียนหยุนรออยู่นอกดาว ส่วนตัวเขาเองได้เข้าไปหาหวงเซียะที่กำลังบ่มเพาะเพียงลำพัง ในเวลานี้แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของนางจะยังอยู่ที่ขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 14 เท่าเดิม แต่ความแข็งแกร่งของนางก็เพิ่มขึ้นอย่างน้อยสามเท่าเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้
เมื่อเห็นหลิงตู้ฉิงมา นางก็ลุกขึ้นเดินไปหาเขาด้วยใบหน้าเปี่ยมสุขและพูดกับหลิงตู้ฉิง “ในที่สุดท่านก็กลับมาหาข้า! ข้าไม่รู้จะขอบคุณท่านยังไง ข้ารู้สึกว่าการเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับในครั้งนี้ ข้าโชคดี ๆ มาก ๆ ที่ได้เจอท่านไม่เช่นนั้นข้าคงไม่สามารถประสบความสำเร็จเหนือกว่าเป้าหมายของข้าที่เข้ามาในตอนแรกได้แบบนี้”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “นี่มันยังไม่พอ ข้าจะพาเจ้าไปไปที่อื่นต่อเดี๋ยวนี้”
“เอ๊ะไปไหนเหรอ? มันยังมีสถานที่ที่ข้าจะได้รับประโยชน์นอกเหนือจากที่นี่อีกงั้นเหรอ พี่หลิง?” หวงเซียะจ้องมองไปที่หลิงตู้ฉิง และเปลี่ยนคำเรียกนำหน้าเขาโดยไม่รู้ตัว ในใจของนาง นางไม่ต้องการเรียกหลิงตู้ฉิงว่าผู้อาวุโสหรือบรรพบุรุษอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าเขาเคยจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูง แต่นั่นก็เป็นเรื่องในอดีต
และอีกอย่าง หลิงตู้ฉิงก็เคยบอกนางแล้วว่าเขาไม่ใช่บรรพบุรุษของภูเขาฟีนิกซ์ ซึ่งนางก็รู้สึกว่ามันช่างเหมาะเจาะและดีมาก ๆ ที่เขาไม่ใช่บรรพบุรุษของนาง!
หลิงตู้ฉิงมองไปที่หวงเซียะและพูดขึ้นว่า “สาวน้อย เจ้าอย่าได้มาตกหลุมรักข้า!”
เขาบ่มเพาะเต๋าแห่งอารมณ์ ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเกิดความรู้สึกอะไรในใจของหวงเซียะ เขาจึงหยุดนางทันที
หวงเซียะอดไม่ได้ที่จะหน้าแดง นางก้มศีรษะลงและกระซิบว่า “ใครรักพี่กัน ตกลงแล้วเราจะไปที่ไหนกันต่อ?”
นางแอบก่นด่าหลิงตู้ฉิงอยู่ในใจว่า เขาเป็นบ้าอะไรกัน? ทำไมต้องพูดตรงขนาดนั้นด้วย?
สิ่งที่นางไม่รู้ก็คือหลิงตู้ฉิงจัดการกับเรื่องที่ ‘เป็นไปไม่ได้’ นี้โดยใช้วิธีที่เด็ดขาด
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวมองไปที่หวงเซียะ และพูดว่า “ต่อไปข้าจะถ่ายทอด ‘คาถาคลื่นหลอมละลาย’ ให้เจ้าใช้ทำลายกำแพงของโลกนี้แล้ว เราจะไปที่โลกขอบเขตนภากัน”
เขาต้องย้ำเตือนกับนางก่อน เพื่อให้นางไม่ถลำกับความรู้สึกที่มีต่อเขามากไปกว่านี้
“ขอบเขตนภา?” หวงเซียะพูดด้วยความประหลาดใจ “ตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของพวกท่านยังอยู่ที่ขอบเขตประสานทะเลปราณอยู่เลย ถ้าพวกท่านไปที่โลกขอบเขตนภา พวกท่านจะตกอยู่ในอันตรายแน่นอน ทำไมพวกท่านถึงไม่หยุดบ่มเพาะกันที่นี่?!”
หลิงตู้ฉิงตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ถ้าเจ้าไม่ต้องการประโยชน์จากการทำลายกำแพง ข้าก็จะทำเอง แต่ข้าบอกเจ้าไว้ก่อน ที่โลกขอบเขตนภานั้นมีสระโลหิตอยู่ ซึ่งมันสามารถเพิ่มความเข้มข้นของสายเลือดได้ ถ้าเจ้าไม่ต้องการได้รับมันเจ้าก็ไม่ต้องไป”
หวงเซียะพูดด้วยสีหน้าหนักใจ “ข้าอยากไปแต่คำถามสำคัญคือแล้วความปลอดภัยของพวกท่านล่ะ?”
หลิงเทียนหยุนเหลือบมองไปที่หวงเซียะ และพูดว่า “ท่านควรกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตัวเองมากกว่า!”
ไม่จำเป็นต้องพูดถึงความแข็งแกร่งของพ่อของเขา แม้แต่ตัวเขาเองก็เอาตัวรอดได้เช่นกัน เนื่องจากการมีอยู่ของร่างเงา และความสามารถในการหลบหนีเข้าไปในเงามืด นอกจากนี้ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาไม่เหมือนในอดีตอีกต่อไป เพราะตอนนี้เขามีอาวุธประจำตัวแล้ว
หลิงตู้ฉิงไม่สนใจปฏิกิริยาของหวงเซียะ เขาบินขึ้นไปที่ขอบของกำแพงแบ่งโลกทันที
หลิงเทียนหยุนเองก็เพิกเฉยต่อหวงเซียะ และติดตามหลิงตู้ฉิงไป ซึ่งหวงเซียะก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากบินตามทั้งสองคนไปเช่นกัน
นางรู้สึกกังวลเล็กน้อยเพราะไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่ทุกอย่างมันก็มีขีดจำกัดของมัน และในโลกถัดไป ผู้คนที่อยู่ในนั้นทั้งหมดคือผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภา ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาอาจพบกับผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งสวรรค์อีกเป็นจำนวนมาก
ภายในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดคือผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งสวรรค์
เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานทะเลปราณแค่สองคน จะรับมือกับผู้เชี่ยวชาญระดับนั้นได้อย่างไร?
ด้วยความกังวล นางเองก็ลืมคิดไปว่าหลิงตู้ฉิงสามารถใช้กฎในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)