ตอนนี้พวกเขาทุกคนต่างเพ่งมองไปที่ค่ายกลกระบี่เหินเมฆาอย่างใจจดใจจ่อรอการปรากฏของโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์
ทันใดนั้นช่องว่างเล็ก ๆ ของค่ายกลกระบี่เหินเมฆาก็ถูกเปิดออกส่งผลให้โอสถ 2 เม็ดบินออกมาทันที หยวนต้าตงและหวางหมิงหยวนที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วก็รีบพุ่งไปตามคว้าโอสถ 2 เม็ดนั้นทันที และหลังจากนั้นเพียงครู่เดียวโอสถอีก 2 เม็ดก็บินออกมาจากค่ายกลกระบี่อีกรอบ ซึ่งรอบนี้ผู้อาวุโสอีก 2 คนที่ยังว่างอยู่ก็บินออกไปตามคว้าพวกมันเช่นกัน
หลังจากผ่านไปไม่นานทั้ง 4 คนก็ได้รับโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์มาทั้งหมด มันทำให้พวกเขาต่างรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก เพราะพวกมันคือส่วนสำคัญในการที่สำนักของพวกเขาจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง
หลังจากปล่อยโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ในส่วนของอารามนวดาราไปแล้ว หลิงตู้ฉิงก็หันไปหาโม่เอ๋อ และพูดว่า “โอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์พวกนี้เดี๋ยวเจ้าเองก็จงรับมันไป 1 เม็ด มันจะทำให้เจ้าสามารถทะลวงไปยังระดับนักบุญได้”
เมื่อได้ยินดังนั้น โม่เอ๋อก็ร้องออกมาด้วยความดีใจ “ขอบคุณนายท่าน!”
นางรู้ดีว่าโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์นั้นมีค่ามากแค่ไหนและรู้ว่ามันใช้ทำอะไรได้บ้าง ด้วยโอสถนี้นางแน่ใจว่าการทะลวงระดับของนางจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน
ทางด้านของเย่หยูหลัน เมื่อนางได้ยินว่าเป็นโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ นางที่นั่งอยู่ในรถม้าก็ไม่สามารถนั่งติดเบาะได้
นางกระโดดออกมาจากรถม้าและพูดว่า “เอ่อ…ท่านเขย ท่านพอจะแบ่งให้ข้าบ้างได้ไหม?”
หลิงตู้ฉิงมองไปที่เย่หยูหลันด้วยสีหน้าเรียบเฉย และพูดว่า “เจ้าไม่เคยไม่ทำอะไรให้ข้าแม้แต่น้อย แล้วทำไมข้าจะต้องให้มันกับเจ้า? ถ้าหากเจ้าอยากได้โอสถแบบนี้เจ้าก็จงไปเอาจากสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าซะ ข้าคิดว่าสำนักของเจ้าเองก็คงไม่ได้ขาดแคลนโอสถแบบนี้อยู่แล้วนี่จริงไหม?”
เย่หยูหลันลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเอาเป็นว่าข้าขอแลกเปลี่ยนกับท่านจะได้ไหม?”
นางรู้วิธีการจัดการสิ่งต่าง ๆ ของหลิงตู้ฉิงเป็นอย่างดี ดังนั้นนางจึงยกเงื่อนไขการแลกเปลี่ยนขึ้นมาแทน
“ข้าไม่ต้องการแลกเปลี่ยนกับเจ้า!” หลิงตู้ฉิงปฏิเสธอีกครั้ง
เมื่อได้รับคำตอบเช่นนี้ เย่หยูหลันก็ถึงกับตะลึงงัน
ตามนิสัยปกติของหลิงตู้ฉิงแล้ว เขาควรจะตกลงแลกเปลี่ยนไม่ใช่งั้นเหรอ? สำหรับคนผู้นี้ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็สามารถแลกเปลี่ยนได้ทั้งหมดไม่ใช่งั้นหรือหากราคามันยุติธรรมพอ? แต่แล้วทำไมครั้งนี้เขาถึงปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยแบบนี้กัน?
หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้วพลางคิดในใจ ‘ความรู้สึกแย่ ๆ ที่เขามีต่อเย่หยูหลันเช่นนี้มันมาจากไหนกัน? ทำไมเขาถึงไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน?’
ระหว่างที่ยังคงขมวดคิ้ว เขาก็บังคับให้ค่ายกลกระบี่เหินเมฆาเข้าโอบล้อมรอบตัวเขาโดยไม่สนใจว่าโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือทั้งสามจะบินไปที่ใด ซึ่งหลังจากที่ค่ายกลกระบี่เหินเมฆาห่อหุ้มตัวเขาไว้แล้ว เขาก็เริ่มทำสมาธิและพยายามทำความเข้าใจกับความรู้สึกใหม่นี้
ทางด้านเย่ชิงเฉิง เมื่อนางเห็นภาพเช่นนี้นางก็รีบกระโดดออกมาจากรถม้าและพูดกับโม่เอ๋อทันที “โม่เอ๋อ เจ้ารีบไปนำโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ของสามีข้ากลับมาเดี๋ยวนี้!”
“รับทราบ นายหญิง!” เมื่อพูดจบ โม่เอ๋อก็รีบบินขึ้นไปบนท้องฟ้าทันทีเพื่อตามเก็บโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามเม็ดที่กำลังบินไปรอบ ๆ กลับมา
โชคดีที่ค่ายกลป้องกันของอารามนวดาราที่เปิดอยู่ได้ทำการปิดล้อมพวกมันไว้ ดังนั้นแม้ว่าพวกมันต้องการที่จะออกไปพวกมันก็ไม่สามารถทำได้ นางจึงใช้เวลาไม่นานในการจับโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามเม็ดนั้นได้ทั้งหมด
สำหรับผู้คนของอารามนวดารา เมื่อพวกเขาเห็นสัญลักษณ์บนหน้าอกของเย่ชิงเฉิง พวกเขาก็รีบเดินมาที่ข้างหน้านางและโค้งตัวแสดงความเคารพทันที “พวกเราขอคารวะแขกผู้มีเกียรติ จากสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์!”
พวกเขาดีใจเป็นอย่างมากที่การแลกเปลี่ยนที่พวกเขาได้กำไรอย่างมหาศาล ในครั้งนี้นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ด้วย
เย่ชิงเฉิงโบกมือและพูดว่า “ไว้คุยเรื่องอื่นกันทีหลัง ตอนนี้พวกท่านจงคอยระวังเอาไว้อย่าให้มีใครรบกวนสามีของข้าในขณะที่เขาอยู่ในสภาวะหยั่งรู้!”
“พวกเราเข้าใจแล้ว!” ผู้คนของอารามนวดาราทั้งหมดต่างพูดออกมาพร้อมกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)